แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
การกินอาหารมันไม่ใช่แค่การบำรุงกายอย่างเดียวมันสามารถบำรุงใจได้ด้วย ถ้าเราเอาใจใส่ลงไปในการกินอาหาร ก็คือมีสติ เมื่อเรากินอาหาร เรามีสติอยู่กับการกินคือ รับรู้รสชาติของอาหาร โดยที่ไม่ปล่อยใจไปยินดียินร้ายไปที่รสชาติอาหาร หรืออย่างน้อยก็ไม่ปล่อยใจลอยไหลไปข้างนอก ไม่ใช่ว่ากำลังกิน ใจก็นึกว่าจะทำอะไรต่อ คิดถึงงานคิดถึงปัญหาที่ต้องชำระสะสาง ซึ่งเป็นเรื่องอนาคตทั้งนั้น แต่สิ่งที่เรากำลังทำอยู่ในปัจจุบันคือการกิน เราก็พยายามมีสติอยู่กับการกิน ใจรับรู้อยู่กับการกิน อันนี้เรียกว่ามีสติ เป็นการฝึกสติอย่างหนึ่งที่ทำได้ในชีวิตประจำวัน ที่จริงสามารถที่จะสอนให้เด็กๆลูกหลานของเราให้มีสติกับการกินก็ได้
พ่อแม่หลายคนมักจะถามว่าทำอย่างไรที่จะฝึกลูกให้มีสติ พ่อแม่หลายคนคิดว่าให้ลูกมานั่งนิ่งๆ หลับตา ตามลมหายใจจึงจะเป็นการเจริญสติ ถือเป็นการปฏิบัติธรรม แต่ว่าจริงๆแล้ว เพียงแค่การกินอาหารหรือทำกิจวัตรประจำวัน ก็เป็นโอกาสในการฝึกสติกับลูก หรือให้ลูกฝึกสติได้เช่น ล้างจาน กวาดบ้าน เก็บที่นอน แต่ว่ากิจวัตรเหล่านี้ใช้เวลาไม่นาน การกินอาหารใช้เวลานานกว่า ถ้าเคี้ยวช้าๆ ก็เป็นโอกาสดีที่จะสอนให้ลูกรู้จักการเจริญสติด้วยการกินอาหารอย่างมีสติ อันนี้เป็นวิธีการที่โรงเรียนเอาไปใช้สอนเด็กไม่ใช่โรงเรียนในคนไทย แต่เป็นที่ต่างประเทศ
ที่แคนาดามีการสอนให้เด็กมีสติกับการกินอาหารและการทำอย่างอื่นด้วย เขามีการทดลองเปรียบเทียบแบ่งนักเรียนชั้นป 4 ป 5 อายุประมาณ 9 ขวบ 10 ขวบ แบ่งเป็น 2 กลุ่มๆ ละประมาณ 50 คน กลุ่มแรก เขาให้มีการเจริญสติต่อเนื่องประมาณ 4 เดือน วิธีการเจริญสติก็คือให้มีสติอยู่กับการได้กลิ่น ได้กลิ่นอะไรก็มีสติ มีสติอยู่กับการกินอาหาร เขาจะให้ดมกลิ่นดอกไม้ กลิ่นผลไม้ และให้ใจรับรู้อยู่กับกลิ่นนั้น ไม่วอกแวก ไม่ต้องคิดปรุงแต่ง เวลากินอาหารก็มีสติอยู่กับการกิน ไม่ปล่อยใจลอย ให้นั่งสมาธิเหมือนกันแต่ 3 นาทีเท่านั้น นั่งสมาธิ หลับตา ตามลมหายใจ 3 นาที วันละ 3 ครั้ง แล้วก็มีเวลาสอนอย่างอื่นด้วยเช่น สอนให้รู้จักมุมมองของคนอื่นบ้าง ไม่ใช่ยึดติดกับความเห็นของตัว มองปัญหาจากสายตาของคนอื่นรวมทั้งให้รู้จักชื่นชมสิ่งดีๆ ในชีวิตประจำวัน ขอบคุณอาหาร และฝึกให้ทำดีกับผู้อื่น
อันนี้เป็นการฝึกจิต และฝึกพฤติกรรมเด็กโดยใช้สมาธิ ฝึกสติเป็นตัวนำ 4 เดือน เปรียบเทียบกับเด็กอีกกลุ่มหนึ่งที่มีการสอนวิชาปกติ สอนวิชารับผิดชอบต่อสังคมให้มีความเอื้อเฟื้อต่อผู้อื่น รับผิดชอบต่อส่วนรวม โรงเรียน สังคม ใส่ใจธรรมชาติสิ่งแวดล้อม อันนี้ก็เป็นหลักสูตรที่เขาสอนเด็กชั้นป 4-ป 5 อยู่เป็นประจำเป็นมาตรฐานอยู่แล้ว แต่ว่าในการทดลองนี้ ให้อีกกลุ่มหนึ่งมาฝึกสติแทน และก็ให้มาเรียนรู้กับการเข้าใจคนอื่น แล้วก็ช่วยเหลือคนอื่นด้วย ทำไปได้ 4 เดือนแล้วก็มาเปรียบเทียบว่าเกิดอะไรเปลี่ยนแปลงกับกลุ่มเด็กที่ได้มาฝึกสติ
เขาพบว่าการเรียนดีขึ้น โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์ ทำคะแนนได้ดีหรือว่าดีกว่าอีกกลุ่มหนึ่ง อีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้ฝึกสติ กลุ่มที่ฝึกสตินอกจากการเรียนดีขึ้น ดูจากคะแนนที่สูงขึ้น มากกว่ากลุ่มอื่นแล้ว ยังพบว่ามีความก้าวร้าวน้อยลง มีพฤติกรรมที่ดี มีมารยาท รู้จักอดกลั้น และก็เอื้อเฟื้อเกื้อกูลผู้อื่นมากขึ้น มากกว่าผู้อื่นนอกเหนือจากว่าเด็กจะควบคุมอารมณ์ได้มีความอดทนมากขึ้นมีความโมโหน้อยลง และก็เข้าอกเข้าใจผู้อื่นมากขึ้น เขายังพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงดีๆที่เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งก็ไม่มากอะไร วันหนึ่งก็แค่นั่งสมาธิ 3 นาที 3 ครั้ง แต่ว่าให้มีสติกับการกิน มีสติกับการทำอะไรก็ตาม แม้กระทั่งการดมกลิ่น ไม่ใช่แค่อารมณ์อย่างเดียว ความรู้การเรียนรู้ก็ดีขึ้นด้วย
แต่ที่อยากจะมาพูดในวันนี้คือ การใช้วิธีฝึกสติแบบง่ายๆสำหรับเด็กไม่ใช่ต้องมานั่งหลับตาอย่างเดียว แต่ว่าทำอะไรก็ให้มีสติ ซึ่งไม่ได้ทำแค่นิดๆหน่อยๆหรือไม่กี่นาที แต่ทำทุกวันๆ มันก็เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตใจนิสัยใจคอได้ และนี่พ่อแม่หรือปู่ย่าตายายสอนลูกสอนหลานให้มีสติให้รู้จักทำสมาธิ ก็มาลองใช้วิธีนี้ดูก็ได้ ให้มีสติกับการกิน ให้มีสติกับการทำงานโดยเฉพาะที่ใช้มือใช้ไม้ที่ใช้ร่างกาย กวาดบ้าน ล้างจาน ปลูกต้นไม้ หรือมีสติกับการฟังเพลงก็ได้ ฟังเพลงบรรเลง หรือว่าเพลงที่เกี่ยวกับธรรมชาติเสียงนกร้องเสียงน้ำตก แต่ให้มีสติเพราะว่ารับรู้อยู่กับเสียงเพลงโดยใจไม่ลอยไปคิดนั่นคิดนี่ ใจลอยไปนู่นไปนี่ ให้กลับมาอยู่กับเสียงที่ดังได้ยินเป็นการรับรู้สดๆโดยไม่ปรุงไม่แต่งหรือว่าดีกว่านั้นไม่มีความเพลิดเพลินยินดีกินร้าย แค่รู้เฉยๆ อันนี้เด็กก็ทำได้ใช้เวลาไม่นาน 3 นาที 4 นาที เดี๋ยวนี้มีเพลงเกี่ยวกับธรรมชาติเยอะ มีเป็นเสียงธรรมชาติ เสียงน้ำตก เสียงทะเล เสียงคลื่น เสียงนกร้อง มันเป็นวิธีฝึกสติและเป็นวิธีที่ง่ายๆใช้เวลาไม่นาน
- พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล แสดงธรรมก่อนฉันเช้า วัดป่าสุคะโต วันที่ 4 มิถุนายน 2564