แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
วันนี้เป็นวันสำคัญของชาวบ้านตาดรินทอง ที่จริงเป็นวันสำคัญของคนทั้งประเทศที่เป็นชาวพุทธ คือเป็นวันบุญเดือนสิบ ประเพณีไทย บุญเดือนสิบ สำคัญมาก ก่อนหน้านี้ก็บุญเดือนแปด เข้าพรรษา อีกเดือนข้างหน้าก็บุญเดือนสิบเอ็ด ในวันก่อนออกพรรษา เราก็จะมาทำบุญใหญ่ครั้งหนึ่ง ก็คือวันนี้ เรามาทำบุญให้กับบรรพบุรุษของเรา เราทุกคนก็มีพ่อมีแม่ปู่ย่าตายายที่เคารพรัก เมื่อท่านยังอยู่ เราก็ดูแลอุปถัมภ์บำรุง พอตายไปแล้ว ก็ยังมีความระลึกนึกถึง ไม่ว่าท่านจะไปอยู่ภพภูมิใด เมื่อถึงวันศีล วันบุญเดือนสิบหรือวันสำคัญ เราก็ทำบุญอุทิศไปให้ อันนี้ก็เป็นการแสดงความกตัญญูรู้คุณ คนดีต้องมีความกตัญญู ทำความดีด้วยการตอบแทนบุญคุณให้กับบุพการี
บุพการีคือ ผู้ที่ทำความดีให้กับเราก่อน ก็คือพ่อแม่ รวมไปถึงปู่ย่าตายาย ตอนนี้ท่านล่วงลับไปแล้ว ไปอยู่ภพภูมิใดก็แล้วแต่ สิ่งที่เราช่วยได้ค่ือ ทำบุญอุทิศไปให้ เราก็จะได้รับความสุขความเจริญ แต่ว่าทำเท่านี้ จริง ๆแล้วก็ยังไม่พอ ต้องช่วยดูแลรักษาสมบัติที่พ่อแม่ปู่ย่าตายายได้สร้างขึ้นมา สมบัติที่ว่านี้ อาจจะได้แก่ไร่นาของเรา ไร่นาของเราก็เป็นของที่มาจากปู่ย่าตายายพ่อแม่ รักษาให้ดีๆอย่าปล่อยปละละเลย ช่วยบำรุงไร่ บำรุงนาให้อุดมสมบูรณ์อยู่เสมอ บางที่เราก็ไม่ค่อยได้ดูแลไร่นาของเรา ฉีดยาฆ่าแมลงลงไป รู้บ้างหรือเปล่าว่ายาฆ่าแมลง ไปทำลายไร่นาของเรา ทำให้ดินเสีย สิ่งแวดล้อมก็เสียด้วย เช่น พอฝนตก น้ำก็พัดเอาชำระล้างสารพิษลงลำห้วย ลำห้วยก็กลายเป็นลำห้วยพิษ ปลาตาย กุ้งปูตาย ใครมาใช้น้ำก็อาจจะเป็นโรคได้นี้ เราต้องดูแลรักษาสมบัติที่บรรพบุรุษได้ส่งทอดมาให้เราดูแลดินให้มันดี อย่าไปฉีดยาฆ่าแมลงลงไป ดินจะตาย น้ำก็จะตาย แล้วต่อไปเราเองก็จะเดือดร้อนด้วย
วันก่อนนี้เห็นภาพคนหนึ่งฉีดยาฆ่าแมลง ฉีดไปฉีดมา ล้มลงแล้วก็เป็นลม แล้วก็จมน้ำ ศพนี้ลอยอยู่บนหนองน้ำ ในมือยังถือไม้พ่น เครื่องพ่นยาฆ่าแมลงอยู่เลย อันนี้แสดงว่า ตายเพราะว่ายาฆ่าแมลงนอกจากไร่นา ที่พ่อแม่ปู่ย่าตายายเราอยากจะให้เราหวงแหนรักษาไว้แล้ว ป่าก็ดี ธรรมชาติก็ดีก็ขอให้รักษาเอาไว้ด้วย ปู่ย่าตายายเราก็รักษาป่า ดูแลต้นน้ำดูแลลำห้วยลำธารอันนี้ ถือว่าเป็นสมบัติของเราที่เขาได้มอบมาให้เรา ถ้าเรารักพ่อแม่ปู่ย่าตายายก็ต้องรักษาเอาไว้ อย่างที่พวกเราช่วยกันดูแลรักษาป่า ช่วยกันปลูกป่าก็ดีแล้ว ก็ขอให้ทำกันต่อๆไป
งานรักษาป่าของที่นี้ไม่ใช่เป็นการทำไปเท่านั้น ยังเป็นการแสดงคุณรู้คุณกับธรรมชาติ แสดงกตัญญูรู้คุณกับพ่อแม่ปู่ย่าตายายที่เขาเก็บรักษาเอาไว้ให้เรา อันนี้ก็เป็นการแสดงความกตัญญู และอีกอย่างหนึ่งที่เราควรดูแลดีๆ ก็คือตัวเรา ตัวเรานี้แหละก็เป็นสมบัติของพ่อแม่ พ่อแม่ให้กำเนิดเราเลี้ยงดูเราด้วยความรักด้วยความเอาใจใส่ ถึงเวลาพ่อแม่จากไปเราก็มาหน้าที่ต้องดูแลตัวเราให้ดีด้วย เวลาเราทำบุญเราอยากจะอฐิษฐาน เราร้องขอขอให้พ่อแม่ปูย่าตายายบรรพบุรุษอำนวยอวยโชคให้เราดูแลรักษาเราให้ปลอดภัย แต่เราไม่ดูแลตัวเองแบบนี้มันก็ไม่เข้าท่าเด้อ ไปขอให้แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ดูแลรักษาเราให้ปลอดภัย มีความสุขความเจริญ แต่ตัวเรานี้ ไม่ดูแลตัวเอง รักตัวเองแล้วมันจะมีความสุขความเจริญได้อย่างไร เราต้องดูแลตัวเองให้ดีทั้งกายและใจ
ดูแลกาย ดูแลอย่างไร ก็คือ อะไรที่เป็นโทษเป็นอันตรายก็หลีกเลี่ยง เหล้ายาบุหรี่ อันนี้เสพไปแล้ว เข้าตัวไป มันมีแต่จะเป็นโรค โรคปอด โรคมะเร็ง แล้วก่อนที่จะล้มป่วย ก่อนที่จะตาย มันก็สิ้นเปลืองเงินทอง บางทีก็ไปทะเลาะเบาะแว้งกับคนอื่นเขาเพราะความเมา บางคนติดเหล้ามา พอถึงช่วงเข้าพรรษาตั้งใจจะอดเหล้า ก็อดได้ดีเลย ตลอด3เดือน แต่ว่าทุกข์ทรมานมาก พอถึงวันออกพรรษา มันเหมือนกับว่านรกแตก ออกพรรษาแล้ว ..ก็ล่อเต็มที่เลย วันออกพรรษานี้เมาเลย ที่เมาเพราะมันอดกลั้นมานาน ปรากฏว่าไปทำเลาะกับเมีย ตบตีเมีย เมียสู้ไม่ไหว เห็นจอบอยู่ใกล้ๆ สู้ไม่ได้ เอาจอบฟาดเข้าไปเลย ผัวตาย วันออกพรรษานี้แหละ ตายเพราะอะไร ตายเพราะเมา เมาแล้วไม่ใช่เมาคนเดียว ไปทำร้ายเมีย เมียสู้ไม่ไหว ก็เลยต้องใช้จอบป้องกันตัว แต่ว่าเล่นหนักไปหน่อย ผัวตาย ตายวันออกพรรษามันแย่เด้อ เพราะอะไร เพราะไม่รักตัวเอง กินเหล้าแล้วไปทำร้ายคนอื่น คนอื่นก็เลยทำร้ายตอบ
เพราะฉะนั้น ถ้าเรารักตัวเอง ต้องดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี ปลาดิบก็กินให้น้อยเพราะว่ามีพยาธิใบไม้ในตับ คนอีสานยังติด ชอบกินปลาดิบเลยเป็นพยาธิใบไม้ในตับ แล้วมาเป็นโรคมะเร็ง มะเร็งในตับตายกันก็มาก ถ้ารักตัวเอง ก็ต้องดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี ดูแลกายแล้วก็อย่าลืมดูแลใจด้วย ดูแลใจนี้ก็คือรักษาศีลให้ดี ถ้าเราไม่มีศีล ก็มีเรื่องเดือดร้อนใส่ตัว ไปฆ่าสัตว์มันก็เป็นบาป แล้วบาปจะย้อนกลับมาทำให้ตัวเองป่วย ยิ่งไปฆ่าคน เขาก็มาแก้แค้น ถ้าไปลักขโมยเขา นี้ก็เป็นบาป เป็นหนี้ ก็เดือดเนื้อร้อนใจ ไปลักขโมยเขา กลัวเขาจะจับได้ ใจก็เป็นทุกข์ ถ้าเกิดว่าความจริงปรากฏ เขาจับได้ก็ติดคุกติดตะราง เดือดร้อนอีก หรือถึงไม่ติดคุก ก็ต้องใช้กรรมในชาติหน้า หรือบางทีก็ใช้กรรมในชาตินี้แหละ ขโมยเขาหนึ่งร้อยวันหน้าอาจจะเสียไปหนึ่งพันก็ได้ หรืออาจจะถูกขโมยกลับ หรือว่าไฟไหม้บ้าน ไม่คุ้มกันเลย ขโมยแค่ร้อยกับไฟไหม้บ้าน หรือว่ารถถูกขโมย ขโมยร้อยแต่ว่าหายไปเป็นหลายหมื่น วิบากกรรมเป็นอย่างนั้น มันทบต้น เอาไปหนึ่ง มันก็จะเสียสอง หรือเสียสิบเท่า
คนฉลาดก็ไม่ขโมย ขโมยนี้มันมีหลายอย่างเน้อ ตั้งใจขโมยหรือว่ายืมไปแล้วไม่คืนนี้ ยืมไปแล้วไม่คืนนี้ขโมย อันนี้ก็ขโมยแบบหนึ่ง ต้องใช้หนี้เหมือนกัน ไม่ชาตินี้ก็ชาติหน้า เพราะฉะนั้น ถ้ารักตัวเองก็รักษาใจให้ดี ด้วยการมีศีล มีศีลแล้วนี้ก็ต้องรู้จักดูแลจิตใจเจ้าของด้วย คนเราทุกอย่างนี้ทุกข์กับความคิด ถ้ามันคิดร้ายคิดลบ ก็จะทำให้จิตใจเป็นทุกข์ โกรธโมโห บางทีมันก็ชักนำให้เราไปทำชั่วได้ เพราะความคิดนี้แหละ
หลวงพ่อคำเขียน เคยเล่าว่า สมัยที่ท่านอยู่ท่ามะไฟหวานประมาณ 20-30 ปีที่แล้ว มีพระใหม่รูปหนึ่ง มีพี่ชายพามา ให้มาปฏิบัติกับหลวงพ่อ หลวงพ่อก็ให้เดินจงกรมตั้งแต่วันแรกๆเลย หน้าตาเพิ่นนี้ ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เหมือนกันมีความทุกข์ใจ เวลาปฏิบัติก็ไม่ตั้งใจปฏิบัติ อยู่มาสองวัน ก็มาหาหลวงพ่อ บอกว่าจะขอสึก หลวงพ่อไม่ให้สึก ไล่ให้ไปปฏิบัติต่อ เพิ่นไปปฏิบัติได้สักชั่วโมงหนึ่ง ไม่รู้ปฏิบัติหรือเปล่า ก็มาอีก จะขอสึก หลวงพ่อเห็นว่า เพิ่งมาได้แค่สองวันจะสึกได้ยังไง เพิ่นก็บอกว่าจะสึกให้ได้ บอกว่าที่มาเพราะรับปากกับพี่ชายว่าจะมาบวช ไม่ได้บอกว่าจะปฏิบัติ นี่ก็บวชเสร็จแล้วจะขอสึก แต่ หลวงพ่อก็ให้ไปปฏิบัติก่อน ท่านก็ยังกลับมาอีก รบเร้าให้ได้ หลวงพ่อบอกว่าอะไรพาท่านมาหาผม ท่านบอกว่าความคิดครับ หลวงพ่อก็เลยบอกว่าคนเรานี้ถ้ามันคิดแล้วก็ต้องทำตามความคิดทุกอย่างหรือ ถ้าทำตามความคิดทุกอย่าง มันไม่แย่หรือ ท่านก็ไม่พอใจ หลวงพ่อไล่ให้ไปปฏิบัติ ท่านก็ต้องไป เช้าตรู่อีกวัน เพิ่นเห็นหลวงพ่อที่ศาลา เพิ่นก็รีบมาเลย แต่คราวนี้แทนที่จะมาขอสึก กลับมากราบขอบคุณหลวงพ่อที่ช่วยทักท้วง เพราะว่าจริงๆแล้วที่ตั้งใจจะสึก จะสึกไปทำอะไรรู้ไหม จะไปฆ่าคน เมื่อวานนี้ก็คิดแล้ว จะไปเอาปืนจากไหน จะไปฆ่ายังไง ฆ่าเสร็จจะเอาปืนไปทิ้งไหน จะหลบซ่อนยังไง ไปฆ่าเมียกับชู้ พอหลวงพ่อทักว่า คนเราต้องทำตามความคิดทุกอย่าง มันไม่แย่หรือ เพิ่นก็เลยได้คิดขึ้นมา เปลี่ยนใจ จะไปฆ่าคน ไม่เอาแล้ว ความคิดนี้มันแย่ ความคิดนี้มันหลอกเรา เพิ่นก็เลยมาขอบคุณหลวงพ่อ ว่าถ้าไม่ทักท้วงนี้ เพิ่นก็กลายเป็นฆาตรกรไปแล้ว จะบวชไปจนตาย
เพราะว่า หลวงพ่อท่านสอนดีให้มองว่าคนเรานี้ ถ้าเชื่อและทำตามความคิดทุกอย่าง มันก็แย่ อย่าไปเชื่อความคิดของเรามาก มันคิดอะไรอย่าเพิ่งไปเชื่อ ทักท้วงมันบ้าง บางทีความคิดเรานี้มันผิด มันพาเราไปทำร้ายคนอื่นได้ อาจจะไม่ถึงไปฆ่าใคร แต่อาจจะไปทำร้ายแบบอื่น
มีผู้ชายคนหนึ่งเล่าว่า เพิ่นขับรถ วันหนึ่งขับรถไปที่ลำปาง ลำปางนี้มันก็มีภูเขาเยอะ ตอนที่ขับรถขึ้นเขานี้ มีช่วงหนึ่งมันเป็นเหลี่ยมเขา มันเป็นโค้ง จู่ๆก็มีรถคันหนึ่ง ออกมาจากเหลี่ยมเขา ตรงโค้งนี้ รถข้างหน้า มันออกมาแล้วก็ รถมันก็ส่าย มันก็ส่าย เร็วก็เร็ว แล้วก็แล้วก็ส่ายด้วย ส่่ายมา มาอยู่ในเลนของเจ้าของ อยู่ในเลนที่ผู้ชายคนนี้กำลังขับอยู่ รถข้างหน้ามันมาแบบนี้ทำยังไง ก็ต้องเบรก เบรกแล้วก็หลีกรถไว้ข้างทาง รถคันที่พุ่งเข้ามานี้ คนขับเป็นผู้หญิง พอรถนี้มันใกล้จะสวน คนขับก็โผล่หน้าขึ้นมาแล้วก็ตะโกนว่า ควาย ผู้ชายคนนั้นทำไง ได้ยินแบบนี้ ก็โกรธซิ ก็ด่าไป อีควาย แล้วก็นึก แหมขับรถแบบนี้ไม่ได้เรื่อง ผิดกฏหมายแล้วยังจะมาด่ากูอีก ว่ากูเป็นควาย เสร็จแล้วเพิ่นก็ขับต่อไป พอขับถึงเหลี่ยมเขาเพิ่นก็เลี้ยว พอเลี้ยวไปปรากฏว่าเจออะไร เจอฝูงควาย เบรกไม่ทัน ชนไปเลย ชนควาย ควายก็ตาย รถก็พัง ทีแรกเพิ่นได้ ได้ยินผู้หญิงคนนั้นเรียกว่าควาย ตะโกนว่าควาย เพิ่นก็นึกว่าผู้หญิงด่าเพิ่น ผู้หญิงไม่ได้ด่า ผู้หญิงเตือนว่ามันมีควายอยู่ข้างหน้า แต่ว่าพูดได้สั้นๆ ว่าควาย ส่วนผู้ชายคนนี้ไปคิดว่านี้ เขาด่าเรา ผู้หญิงคนนี้ด่ากู ก็เลยต้องด่ากลับ ดีใจด้วยซ้ำว่ายังด่าทัน
เห็นไหม เขาเตือนดีๆ ยังหาว่าเขาด่า ความคิดเราบางทีไปคิดเอา ก็รีบด่วนสรุปแล้วก็ไปเชื่อความคิด เพราะเขาด่าเรา ถ้ารู้ว่า ถ้าคิดว่าเขาเตือนเรา หรือคิดเผื่อไปว่าเขาอาจจะไม่ได้ด่า เขาอาจจะเตือนก็ได้ เพิ่นก็จะขับรถระวัง ถึงเวลาเลี้ยว ก็จะไม่ขับเร็วๆ เพิ่นก็คิดว่าเขาด่า ไม่ได้คิดว่าเขาเตือน พอขับรถก็เลย ไม่ได้คิดจะเบรกเลย ไปชนควายตาย ดี เจ้าตัวไม่ตาย เอามาเล่าได้ ความคิดเรานี้ เชื่อมากไม่ได้ เพราะว่าถ้าเชื่อมาก มันทำให้เราทำร้ายคนอื่น หรือว่าไปด่าคนอื่นได้ ที่จริงอย่าว่าแต่ความ อย่าว่าแต่ความคิดเลย แม้กระทั่งคำพูดของคน ที่เราได้ยินมา แม้ได้ยินมากับหูก็ยังเชื่อไม่ได้ แต่คนไทยเราเชื่อง่าย ได้ยินอะไรมาก็เชื่อแล้ว โดยที่อาจจะไม่ได้คิดว่า ที่เราได้ยินมานี้อาจจะผิดก็ได้ อาจจะไม่ถูกก็ได้
ผู้ชายคนหนึ่ง มีเพื่อนชื่อแดง พ่อของแดงป่วยหนัก เข้าโรงพยาบาลผ่าตัดหัวใจ พอเพื่อนได้ยิน ก็ไปเล่าให้เพื่อนอีกคนหนึ่งฟังว่า รู้ไหมพ่อของแดง ป่วยหนัก เข้าโรงพยาบาลผ่าตัดแล้ว เพื่อนคนนั้นได้ฟัง ก็ไปเล่าให้เพื่อนอีกคนต่อว่า รู้ไหมแดงป่วยหนัก พ่อของแดงหายไปแล้ว กลายเป็นแดงป่วยหนัก เข้าโรงพยาบาลผ่าตัด อีกคนพอได้ยินก็ตกใจ ไปบอกเพื่อน รู้มั้ยๆ แดงป่วยหนัก หัวใจวาย ไปที่อีกคนหนึ่ง เขาได้ยินว่าแดงตายแล้ว เริ่มต้นพ่อของแดงป่วยหนัก เข้าโรงพยาบาลผ่าตัดหัวใจ พอมาถึงอีกคน คนที่สี่ กลายเป็นว่าแดงตายแล้ว คนละเรื่องเลย แม่นบ่ แต่นี้แหละ เวลาเราเล่ากัน ได้ยินมา ก็ได้ยินไม่ครบ แล้วไปเล่าต่อแบบขาดๆวิ่นๆหรือบางทีก็เติม จากพ่อของแดงป่วยหนักก็กลายเป็นว่าแดงป่วยหนัก จากเดิมว่าแดงป่วยหนัก ผ่าตัดหัวใจก็กลายเป็นว่าแดงป่วยหนักหัวใจวาย แล้วอีกคนก็ว่าแดงตายแล้ว อย่างนี้ คนเราเวลาได้ยินอะไรมา อย่าไปคิดว่าเป็นความจริงเด้ นี้ขนาดเป็นเรื่องธรรมดาๆ ถ้าเป็นเรื่องประเภทนินทาว่าคนนั้นคนนี้ บางที่เขาก็อาจจะแค่พูดธรรมดาๆ แต่พอมาถึงหูคนที่สี่มันกลายมาเป็นนินทาว่าร้ายไปแล้ว บางทีเขาก็บอกว่า เออนี้ แดงชมไก่ พอมาถึงคนที่ห้า กลายเป็นว่าแดงด่าไก่ไปแล้ว
ชาวบ้านเราเป็นชาวพุทธ ต้องหูหนัก อย่าเพิ่งเชื่อง่าย เวลาทะเลาะกัน ขัดแย้งกัน เพราะว่าเชื่อง่าย เราไม่ได้กรอง อย่าเพิ่งเชื่อ เพราะว่าที่เขาพูดมานี้อาจจะพูดผิด ไม่ได้คิดจะโกหกหรอก แต่ว่าฟังผิด มันหายไปทีละคำสองคำ เพราะฉะนั้นเราต้องรู้จักหนักแน่น มีสติ อย่าเพิ่งเชื่อง่าย ไม่ว่าจะเป็นคำพูดของคนหรือว่าความคิดในใจเรา มันยังเชื่อไม่ได้ทีเดียว ต้องรู้จักทักท้วง รู้จักถามรู้จักไตร่ตรอง อันนี้แหละจะทำให้เราไม่ทุกข์ ถ้าเราเป็นคนเชื่อง่าย เชื่อคำพูดของคนอื่นหรือเชื่อความคิดตัวเอง ใจมันทุกข์ง่าย โกรธ เกลียด เครียด เรียกว่าทำร้ายตัวเอง มาทำบุญทั้งที ก็ให้ใจเราหนักแน่นเด้ แล้วก็รักษาศีลให้ดี รักษาไร่ รักษานาของเราให้ดี เป็นสมบัติของ พ่อแม่ปู่ย่าตายาย บรรพบุรุษ ธรรมชาติ ป่าภูหลง ลำปะทาว ก็ต้องช่วยรักษาไว้ด้วยเหมือนกัน
ขออนุโมทนาพวกเราชาวบ้านทุกคนท่ีมาร่วมกันทำบุญในวันนี้ ทำบุญถวายอาหารหวานคาวแล้วก็ปัจจัยเครื่องบริวารต่างๆมากมาย ขออนุโมทนา ขอให้บุญกุศลที่เราได้บำเพ็ญกันในวันนี้ ช่วยปกปักรักษาให้อยู่เย็นเป็นสุข ปลอดภัย ไกลทุกข์ ประสบแด่ความสุขความเจริญ มีปัญหาอะไรก็ก้าวข้ามผ่านพ้นได้ด้วยดี ให้มีความเจริญในธรรม สามารถจะ มีความสุขสำราญไปจนกระทั่งได้เข้าถึง ความสุขที่แท้ เป็นความสุขเกษมศานต์ คือพระนิพพานในอนาคตการณ์ ด้วยเทอญ