แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
สิ่งทั้งหลายทั้งปวงในโลกนี้ ถ้าจะจำแนกแยกแยะแล้ว มันก็มีแค่ 3 เท่านั้นแหละ
1.สิ่งที่ชอบ 2.สิ่งที่ไม่ชอบ 3.สิ่งที่เฉยๆ สิ่งที่เราไม่ชอบเราก็ เราจะพยายามหนีห่าง อยู่ไกลเท่าไรก็ยิ่งดี ยิ่งเป็นสิ่งที่เราเกลียดด้วยแล้ว ไม่อยากจะเจอเลย อะไรที่เราไม่ชอบอะไรที่เราเกลียดเราจะระมัดระวังมาก แต่ที่จริงแล้วสิ่งที่เราควรจะระวังด้วย ไม่ใช่สิ่งที่เราเกลียดเท่านั้น ไม่ใช่สิ่งที่เราไม่ชอบเท่านั้น สิ่งที่เราชอบ เราก็ต้องระวังด้วย เพราะว่าผู้คนจำนวนมาก ชีวิตย่ำแย่ก็เพราะสิ่งที่ตัวเองชอบนั้นแหละ ยกตัวอย่างง่ายๆ หลายคนชอบบุหรี่ ชอบเหล้า ชอบการพนัน อันนี้มันก็ทำให้ชีวิตเค้าตกต่ำย่ำแย่ เจ็บป่วย หนี้สินมากมาย ล้มละลาย ครอบครัวแตกแยกก็เพราะสิ่งที่ชอบ ชอบจนถอนตัวไม่ขึ้น ชาวบ้านหลายคนเป็นมะเร็งในตับก็เพราะชอบกินปลาดิบ กินปลาดิบมันก็มีพยาธิใบไม้ในตับ ไม่ชอบไม่กิน ชอบกินแต่พวกปลาดิบ ก็เลยอายุสั้น แต่ตัวอย่างที่พูดมานี้มันเป็นของที่เราก็รู้มันมีโทษชัดเจนอยู่แล้ว เช่น เหล้า บุหรี่ การพนัน พยาธิใบไม้ในตับ แต่สิ่งที่ดูเหมือนไม่มีพิษไม่มีภัย ดูดีๆก็มีอันตรายเหมือนกัน อาหารที่เรากินหลายอย่างเลย มันก็ดูไม่มีพิษไม่มีภัยอะไร แต่คนก็ป่วย อย่างเช่นเป็นโรคเก๊า เก๊าเพราะอะไร เพราะชอบกินเครื่องใน หรือว่าเดี๋ยวนี้เป็นเบาหวานกันเยอะ ก็เพราะชอบกินของหวาน เช่น น้ำตาล เป็นโรคหัวใจจนตายกัน มากขึ้นเรื่อยๆ เพราอะไร เพราะชอบกินพวกไขมัน บางคนก็ขอบกินของทอด บางคนเป็นโรคหัวใจแล้วก็ยังอยากจะขอกินขาหมู คนสมัยก่อนตายเพราะสิ่งที่ไม่ชอบ เช่น เชื้อโรค ความอดยากหิวโหย ไม่มีใครชอบ แต่คนสมัยนี้ตายเพราะสิ่งที่ชอบกันทั้งนั้นแหละ ตายเพราะอะไรเป็นเพราะโรคอ้วน โรคหัวใจ โรคเบาหวาน
ประมาณว่าคนทั้งโลก หนึ่งในสาม อ้วน สองในสามน้ำหนักเกิน หนึ่งในเจ็ดเป็นโรคเบาหวาน หนึ่งในห้าตายเพราะโรคมะเร็ง อันนี้เค้าเรียกว่าเพราะอะไร เพราะว่าของชอบทั้งนั้นแหละ น้ำตาลก็ดี ไขมันก็ดี หรือว่าแป้ง เดี๋ยวนี้เค้ารู้กันแล้วว่าไขมันกินมากๆไม่ดี แต่ว่าหลายคนก็ยังเลิกไม่ได้ เพราะว่าเป็นของชอบ อย่างตักอาหารเราก็จะตักพวกเนื้อ พวกที่มีไขมัน อีกอย่างหนึ่งคือพวกที่มันหวานตอนนี้เค้ามีงานวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่าน้ำตาลที่จริง น่ากลัวกว่าไขมันด้วยซ้ำ คนเผ่าอินโด ภาคทางขั้วโลกเหนือมาอาศัยพวกกินไขมันเยอะ แต่ไม่เคยเป็นโรคอ้วน โรคหัวใจ โรคความดัน แต่พอมาเริ่มกินอาหารสมัยใหม่เป็นน้ำตาล เป็นกันเยอะ คนจีนสมัยก่อน จนกระทั่งเมื่อ 100 ปีที่แล้ว คนที่เป็นโรคหัวใจ เบาหวานนี้ก็ แทบไม่มี แต่เดี๋ยวนี้โรคเบาหวานก็ 10 เปอร์เซ็นต์เข้าไปแหละ น้ำตาลนี้เป็นของชอบ ใครๆก็ชอบ แต่ว่าเพราะของชอบแหละเราก็เลยกินเยอะๆ ของชอบอย่างหนึ่ง คือการอยู่เฉยๆ ไม่ต้องออกกำลังกาย เดินขึ้นบันไดก็ไม่ชอบ ชอบนั่งลิฟต์ชอบขึ้นลิฟต์ เดินไปปากซอยไม่ชอบ ชอบนั่งรถเอา สบาย แต่เพราะของชอบแหละทำให้เป็นโรคหัวใจกันมากมาย เค้าเรียกว่าเป็นโรคขี้เกียจ ถ้าเรามาพิจารณาดูดีๆ คนเราเจ็บป่วย ชีวิตย้ำแย่ก็เพราะของชอบทั้งนั้นแหละ ของหวาน ไขมัน น้ำตาล หรือว่าของผัด ของทอด เครื่องใน บางคนก็ชอบเค็ม อันนี้ก็ป่วยไปอีกแบบ จนไตวาย ไม่ใช่เฉพาะอาหาร อาหารชอบที่ทำให้เราแย่ อย่างอื่นด้วย หลายคนก็ชอบเงิน เงินเป็นของที่ใครๆก็ชอบ แล้วเงินนี้แหละที่มันชักจูงให้คนทำผิดศีลกันมากกมาย อย่างเบาะๆก็ลักขโมย คอปรับชั่นหรือโกง แล้วทำให้ผิดศีลข้ออื่น เช่น โกหก หรือว่าจะถึงขั้น ไปทำร้ายฆ่าคน กามก็เป็นของชอบ ที่มันชักพาให้ผู้คนถลำเข้าไปในทางที่เป็นอบายมากมาย ถ้าผู้ชายก็ชอบผู้หญิง เพราะอย่างนี้แหละความชอบที่ทำให้มันแย่ เกมส์ออนไลน์ก็เป็นของชอบของเด็กผู้ใหญ่ด้วย ก็ชักจูงชักนำทำให้ไม่เป็นอันเรียนหนังสือบางคนไม่เป็นอันทำงานด้วยซ้ำ งั้นถ้าดูดีๆแล้วชีวิตคนสมัยนี้ที่แย่ ไม่สามารถจะเอ่อมีความสุข ก็เพราะอำนาจของสิ่งที่ชอบ สิ่งที่ไม่ชอบไม่เป็นปัญหาสักเท่าไร เพราะว่าเราระวังอยู่แล้ว สิ่งที่ชอบต่างหากมันน่ากลัว เพราะฉะนั้นต้องมีความระมัดระวัง อะไรก็ตามที่เราชอบ เราก็ต้องอย่าเผลออย่าไผล่
สมัยนี้จิตใจอ่อนแอ เจออะไรที่ชอบก็จะดึงดูดเข้าใจจนกระทั่งหมดเนื้อหมดตัวเพราะมัน บางคนก็ชอบช็อปปิ้ง จนกระทั่งเป็นหนี้เป็นสินมากมาย ยิ่งสมัยนี้ มันมีความสะดวกอยู่แล้ว มีเครดิตการ์ด บัตรเครดิต ก็จ่ายไม่อั้นเอาเงินจากอนาคตมาจ่ายจนเป็นหนี้เป็นสิ้น นี่ก็เพราะของชอบนั้นแหละ นั้นสมัยนี้ต้องมีสติมาก เพราะของชอบมีเยอะแยะ หาง่าย เข้าถึงง่าย ไม่เหมือนสมัยก่อน มันมีแต่ของไม่ชอบทั้งนั้น การมีสติสำคัญจะต้องมีความ และก็มีความยับยั้งชั่งใจ ก็คือขันติ มีแค่ปัญญาอย่างเดียวไม่พอ รู้ว่ามันไม่ถูก ไม่พอ รู้ว่าบุหรี่ไม่ดีแต่ก็ยังติดบุหรี่ รู้ว่าเหล้าไม่ดี ก็ยังติด รู้ว่าน้ำตาลมันเป็นโทษต่อร่างกายก็ยังกิน ไอติม น้ำอัดลม เด็กเป็นกันมาก ไขมันไม่ดีก็รู้ว่าทำให้เป็นโรคหัวใจ ก็ยังเลิกไม่ได้ จะตายอยู่แล้ว อยู่ในห้องไอซียู หรือว่าอยู่ในโรงพยาบาลก็ยังขอกินขาหมู ขอกินข้าวเหนียวมะม่วง อันนี้เพราะว่าเราตกเป็นทาสของสิ่งที่เราชอบ เพราะฉะนั้นต้องระมัดระวัง อย่ามัวไปใส่ใจกับสิ่งที่ไม่ชอบ แม้กระทั่งสิ่งที่ชอบก็ต้องระวัง ต้องมีความยับยั่งชั่งใจ บริโภคหรือเกี่ยวข้องแต่พอดี อันนี้ก็เป็นข้อคิดสำหรับ เวลาเราจะกินอาหารก็ลองพิจารณาตรงนี้ด้วย อ่าเราเตรียมรับพร อิจฉิตัง ปัตถิตัง ตุมหัง ขออิฏฐผลที่ท่านปรารถนาแล้วตั้งใจแล้ว ขิปปะเมวะ สะมิชฌะตุ จงสำเร็จโดยฉับพลัน สัพเพ ปูเรนตุ สังกัปปา ขอความดำริทั้งปวงจงเต็มที่จันโท ปัณณะระโส ยะถา เหมือนพระจันทร์วันเพ็ญ มะณิ โชติระโส ยะถา เหมือนแก้วมณีอันสว่างไสวควรยินดี ฯ สัพพีติโย วิวัชชันตุ ความจัญไรทั้งปวง จงบำราศไป สัพพะโรโค วินัสสะตุ โรคทั้งปวง ( ของท่าน) จงหาย มา เต ภะวัตวันตะราโย อันตรายอย่ามีแก่ท่าน สุขี ทีฆายุโก ภะวะ ท่านจงเป็นผู้มีความสุขมีอายุยืน อะภิวาทะสีลิสสะ นิจจัง วุฒาปะจายิโน,จัตตาโร ธัมมาวัฑฒันติ อายุ วัณโณ สุขัง พลังทั้งสี่ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พะละ ย่อมเจริญแก่บุคคลผู้มีปกติไหว้กราบ มีปกติอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่เป็นนิจ ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง ขอสัพมงคล จงมีแก่ท่าน รักขันตุ สัพพะเทวะตา ขอเหล่าเทวดาทั้งปวงจงรักษาท่าน สัพพะพุทธานุภาเว ด้วยอนุภาพแห่งพระพุทธเจ้า สัพพะธัมมานุภาเว ด้วยอนุภาพแห่งพระธรรม สัพพะสังฆานุภาเว ด้วยอนุภาพแห่งพระสงฆ์ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ขอความสวัสดีทั้งหลายจงมีแก่ท่านทุกเมื่อเทอญฯ