แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
หน้าที่เห็นอยู่นี่ไม่ใช่คนไทย เป็นคนจีน ผู้หญิงก็บวชเหมือนกัน เป็นการบวชหมู่ ญาติโยมเราก็สงสัยว่า ทำไมคนจีนมาบวช ที่จริงถามไม่ถูก ต้องถามว่าแล้วทำไมเราไม่บวช ทำไมคนไทยไม่บวช พอคนจีนบวชก็แปลกแล้ว แต่ที่แปลกกว่าก็คือ คนไทยไม่บวช อันนี้แปลกกว่า แต่คนไม่ค่อยถาม
เวลาเห็นฝรั่งมาบวช ทำไมฝรั่งมาบวช แต่คนถามไม่ได้ถาม ไม่ได้เกิดความสงสัยว่า ทำไมเราไม่บวชในเมื่อเราเป็นคนไทย ฝรั่งมาบวชนี้เป็นเรื่องแปลกก็จริง แต่การที่คนไทยไม่บวชนี่แปลกกว่า เพราะการที่เขามาบวชก็เพราะเขาเห็นว่าพุทธศาสนามีคุณค่า การครองเพศพรหมจรรย์ หรือการถือสมณเพศมันมีความหมาย แม้จะมีเวลาเพียงช่วงสั้น ๆ สองสามอาทิตย์ก็ไม่ละเลยโอกาสนี้ เดินทางไกลมาเมืองไทยก็เพื่อมาบวชโดยเฉพาะเลย แล้วก็ไม่ใช่บวชเพื่อทำตามประเพณี เพราะเขาไม่มีประเพณีเรื่องบวช เขามาเพื่อต้องการปฏิบัติธรรม ต้องการเจริญสติโดยตรง หลายคนก็มีงานเยอะ รับผิดชอบธุรกิจขนาดใหญ่ แล้วก็ใช้เวลาใช้เงินทองในการมาบวช ไม่ใช่น้อย ค่าเครื่องบินก็เป็นหมื่นแล้ว เขายังอุตส่าห์ขวนขวายมาถึงนี่
แต่คนไทยโอกาสบวชก็ง่าย ไม่ต้องใช้เงินใช้ทอง แต่ก็ไม่ค่อยคิดจะบวชกันเท่าไหร่ ต่อเมื่อมีเหตุถึงค่อยตัดสินใจบวช เช่น พ่อแม่เสียชีวิตหรือว่าล้มป่วย บางทีคู่ครอง อย่างเช่น เมียตายถึงค่อยตัดสินใจบวช หรือมิเช่นนั้นก็เพราะ ตัวเองป่วยหนักเป็นมะเร็ง หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องรอให้ในหลวงเสด็จสวรรคตก่อนถึงค่อยมาบวช จริง ๆ แล้วไม่ควรต้องรอให้ผู้มีพระคุณบุพการีเสียชีวิตก่อนถึงมาบวช หากมีโอกาสเมื่อไหร่ก็ควรจะมาบวชหรือปฏิบัติได้เลย ถ้าไปรอให้มีเหตุเสียก่อนอันนี้มันก็สายเกินไป แล้วที่จริงแล้วเหตุร้ายที่เกิดขึ้นกับคนที่เรารักสักวันหนึ่งก็ต้องเกิดขึ้นกับเรา ทำไมต้องรอให้เราป่วยก่อน ทำไมต้องรอให้เราเป็นมะเร็งก่อน ถึงค่อยหันหน้ามาหาธรรมะ หันหน้ามาหาศาสนา คนไทยโชคดีมีศาสนาเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม มีวัดอยู่ใกล้บ้าน แต่เราก็ไม่รู้จักใช้ประโยชน์ คนฝรั่งคนจีนก็งงว่าทำไมคนไทยไม่ค่อยมาปฏิบัติธรรม เขาอุตส่าห์หาเวลามาอยู่สถานที่ปฏิบัติธรรมอยู่ไกลแค่ไหน ครูบาอาจารย์อยู่ไกลแค่ไหนเขาก็มา ของเราอยู่ใกล้ ๆ เดินทางแค่ชั่วโมงสองชั่วโมง แต่เราก็ละโชคนี้ไป อันนี้ก็ถึงเรียกว่าเป็นเรื่องแปลก
เพราะฉะนั้นเวลาเจอคนจีน คนฝรั่ง อเมริกัน ยุโรปเขามาบวชหรือมาปฏิบัติธรรม อย่าถามว่าทำไมเขามาบวช ทำไมเขามาปฏิบัติธรรม ต้องถามใหม่ว่าทำไมเราไม่บวชทำไมเราไม่ปฏิบัติธรรม อาจจะมีที่บวชมาแล้ว แต่ก็บวชตามประเพณี แล้วก็ไม่ได้บวชเพื่อจะลดละขัดเกลา คนเราถ้าหากถามไม่ถูก บางทีมันเสียประโยชน์ บางทีเกิดโทษด้วยซ้ำ เช่น หลายคนถามว่าทำไมเขาไม่เข้าใจเราทำไมเขาดูถูกเราต่อว่าเรา แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยถามว่าแล้วเราเข้าใจเขาหรือเปล่า เราเรียกร้องแต่ว่าเขาไม่เข้าใจเราแต่เราไม่ค่อยพยายามเข้าใจเขามากเท่าไหร่ เวลาบ่นเอยอะไรเอยว่าเขาดูถูกเราทำไมเขาต่อว่าเรา
แต่ไม่ถามว่าทำไมเราต้องโกรธที่เขาต้องทำอย่างนั้นกับเราด้วย ลองถามเสียบ้างทำไมต้องโกรธเวลาเขาว่าเรา ไม่ใช่ว่าไม่สมควรโกรธแต่ว่าควรถามควรรู้ว่าเขาโกรธเพราะอะไร โกรธ เพราะรู้สึกเสียหน้า หรือว่ารู้สึกว่าตัวกูมันถูกกระแทก แล้วดีไหมถ้าตัวกูมันถูกกระแทก เพราะว่าถ้าปล่อยให้ตัวกูมันเหิมเกริม มันก็มาครองจิตครองใจ บงการจิตใจบงการชีวิตเราให้เป็นทุกข์ ถ้าปล่อยให้มันมีอำนาจมากเกินไปเราก็แย่ มันโดนเล่นงานบ้างก็ดีเหมือนกันจะได้เข็ดหลาบ ถ้าถามไม่ถูกถามไม่เป็นมันทุกข์ เวลารถติดทำไมไฟมันแดงมันนานอย่างนี้ ไฟแดงนี้ตั้ง 120 วินาทีแล้ว ที่จริงน้อยไปที่จริงไฟแดง 5 นาที 10 นาทีก็มี แต่ไม่ถามว่าทำไมหงุดหงิด ทำไมเราต้องหงุดหงิดด้วยเวลาไฟแดงมันค้างนาน
ลองถามใจตัวเองแล้วจะได้พบคำตอบว่าเป็นที่ใจเรา ไปมัวคิดว่าเดี๋ยวส่งลูกไม่ทัน เดี๋ยวไปประชุมสาย เดี๋ยวตกเครื่องบิน ลองกลับมาดูใจ มันก็จะเห็นว่าสาเหตุที่ทุกข์มันไม่ใช่เพราะรถติดหรือไฟแดงนาน แต่เป็นเพราะใจของเรา วางใจไม่ถูกใจไม่อยู่กับปัจจุบัน ถ้าเราไปมัวแต่บ่นว่าทำไมรถติดนาน ทำไมไฟมันแดงเราก็จะไปโทษ เราก็จะไปหาเหตุสิ่งที่อยู่นอกตัวว่านี่คือปัญหา นี่คือสาเหตุก็ไปต่อว่า แล้วตัวการจริง ๆ ก็ลอยนวล มันก็ไม่ได้รับการแก้ไข คือใจของเราถามให้ถูกถามให้เป็น อันนี้มันก็จะช่วยทำให้เราเห็นทางออกจากความทุกข์ได้หรือว่าทำให้เราเห็นว่าที่เราทำอยู่เป็นอยู่ยังไม่ถูกต้อง มันยังไม่ค่อยเข้าท่า
เราต้องปรับตัวปรับใจปรับพฤติกรรมใหม่ ลองดูเวลาถามก็ถามให้เป็น อย่างคนจีนเขามาปฏิบัติเขามาบวช นอกจากเราจะเห็นว่าเป็นเรื่องแปลกแล้ว ก็เอามาดูว่าทำไมเขาถึงทำอย่างนั้นทำไมเราไม่ทำ อันนี้แหละทำให้เรารู้ว่าเราควรจะทำอย่างไร