แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
เมื่อเช้าได้ดูข่าวรายงานทางโทรทัศน์ ผู้ชายคนหนึ่งกับครอบครัวก็ไปกินกุ้งเผาแห่งหนึ่งที่อยุธยา อยุธยาขึ้นชื่อเรื่องกุ้งเผา พอจะเก็บเงินลูกค้าก็มีทีท่าไม่พอใจ เพราะว่ากุ้งเผาที่เขากินมีขนาดเล็กกว่าที่เขาต้องการ เขาก็เลยรู้สึกว่าราคาที่ทางร้านจะเก็บจากเขาแพงไป เป็นกุ้งขนาดเล็ก ไม่ใช่ขนาดที่ควรจะเป็น ก็มีการไปต่อว่าทำไมเก็บเรียกค่ากุ้งเผาแพงไป ขนาดมันเล็กกว่าที่เขาต้องการ เจ้าของร้านบอกว่าก็ตรงกับที่เขาต้องการอยู่แล้ว แต่ว่ากุ้งเผาเวลาไปเผาแล้วจะเล็กลง ตัวจะหดลง มันเป็นขนาดเดียวกัน แล้วเขาก็ไม่ได้คิดแพง คิดตามราคา ตามราคาก็คือตามขนาดของกุ้ง ลูกค้าก็ไม่พอใจหาว่าเจ้าของร้านนี้โกง จึงมีการทะเลาะกัน ที่แรกก็มีถกเถียงกันเรียกว่าโต้เถียงกัน ตอนหลังทางลูกค้าก็ยอมจ่าย แต่ว่าเอาเงินเป็นพันใส่ไว้ในตะกร้าสำหรับเก็บขยะ ไม่ได้ให้อย่างที่ควรจะเป็น เจ้าของร้านก็โมโหถือว่าดูถูกกัน ทะเลาะไปทะเลาะมาก็เลยต่อยกัน จึงกลายเป็นเรื่องเป็นราว มีการแจ้งความ มีการโพสขึ้นเฟชบุ๊คทั้งสองฝ่าย
ความจริงจะเป็นอย่างไรก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่น่าคิดเหมือนกันว่าเราไปกินอาหารเพื่อหวังความสุขแต่ลงท้ายด้วยความทุกข์ ทำไมเป็นอย่างนั้น ใครๆไปกินอาหารเพื่อหวังความสุข แต่ว่าลงเอยด้วยความทุกข์ ที่จริงไม่ใช่ทุกกรณีที่เป็นอย่างนี้ แต่ว่าเรื่องนี้บอกความจริงบางอย่างว่า การที่คนเราหวังความสุขจากสิ่งเสพ เช่น อาหารที่อร่อย หรือเพลงที่ไพเราะ หรือกระเป๋าสวยๆ รถคันงามๆ ได้มาก็มีความสุข แต่ว่าเป็นสุขชั่วคราว หรือว่าเป็นสุขที่เจือไปด้วยทุกข์ อาหารที่อร่อยให้ความสุขกับเรา แต่ว่าไม่ใช่ความสุขล้วนๆ มันเจือไปด้วยทุกข์ ทุกข์ที่ว่านี่อาจจะหมายถึงเงินทองที่ต้องจ่าย บางคนกินอาหารหรู อาหารฮ่องเต้ มีความสุขตอนกิน แต่ตอนจ่ายเงินนี่ทุกข์ เพราะว่าราคาแพงมาก อันนี้ไม่ต้องพูดถึงการกินเหล้า การกินเหล้าเห็นชัดอยู่แล้วว่าเป็นความทุกข์ ตอนกินอาจจะเพลิดเพลิน แต่ว่าเกิดทุกข์ตามมา เพราะพอเมามายก็อาจจะขับรถชนกัน เกิดอุบัติเหตุ หัวร้างข้างแตก พิการ หรือมิฉะนั้นก็ชกต่อยกัน เกิดเป็นคดี อันนั้นยกไว้ก่อนเพราะว่าเหล้าเห็นอยู่แล้วว่าเป็นโทษ
แต่ว่าการกินอาหารอย่างกุ้งเผา ก็ไม่น่ามีโทษอะไรมาก ยกเว้นแต่ว่า กินแล้วไม่รู้จักพอ บางทีกินแล้วติดคอตายก็มี อันนี้ก็เป็นทุกข์แบบหนึ่ง เพราะว่าความเพลิดเพลินอร่อยก็เลยลืมตัว กินไม่บันยะบันยัง บางคนก็อาจจะไม่ถึงกับตายทันทีเพราะว่าอาหารติดคอ แต่ตายผ่อนส่งคือไขมันที่สะสมในร่างกาย บางคนก็ชอบกินเนื้อ กินไขมัน กินของทอด ก็สุขก็เพลิน แต่ว่าพอไขมันสะสมมากเข้าๆ ก็เจ็บป่วย บางคนอาจจะชอบกินของดิบ อย่างชาวบ้านคนอีสานโดยเฉพาะชอบกินปลาดิบ ไม่ใช่ปลาดิบแบบญี่ปุ่น ปลาดิบแบบดิบๆเลย อร่อย อร่อยนี่คือความสุข แต่ว่าทุกข์ตามมา เพราะว่าในปลาดิบมีพยาธิ พยาธิใบไม้ในตับ กินเข้าไปติดต่อกัน 10 -20 ปี ปรากฎว่าอายุ 40-50 ปีเป็นมะเร็ง มะเร็งตับ เพราะว่าพยาธิใบไม้ในตับเล่นงาน อันนี้คือทุกข์ ทุกข์ที่ตามมาหลังจากความสุขจากการเสพ
แต่ในกรณีตัวอย่างที่เล่าเมื่อสักครู่ ก็ไม่ได้ถึงกับว่าเกิดความทุกข์อย่างที่ว่ามา แต่ว่ามีความทุกข์เพราะไม่พอใจ ไม่พอใจกับของที่เข้านำมาเสิร์ฟ หรือไม่พอใจกับราคาที่เขาคิด อันนี้ก็เป็นความทุกข์อย่างหนึ่ง หรือแม้ว่าของจะถูกก็ตาม ราคาไม่แพง แต่ว่ากินไปแล้วอาจจะมีการขัดเคืองกับรสชาดของอาหาร เพราะว่าความอยากความปรารถนาที่จะได้รสชาดแบบหนึ่ง แต่ว่าได้มาอีกอย่างหนึ่ง เป็นความทุกข์ที่คนไม่ค่อยได้ตระหนักเท่าไร แล้วคราวนี้ถ้าเกิดว่าไม่รู้จักหรือรู้ทันอารมณ์ความไม่พอใจที่เกิดขึ้นก็นำไปสู่การทะเลาะวิวาทกันได้ มาหาความสุขจากการกินอาหารแต่ลงท้ายด้วยการติดคุกติดตาราง แบบนี้มีบ่อยๆ เพราะว่ามีความไม่พอใจในรสชาดอาหารบ้าง ไม่พอใจกับราคาที่เขาเรียกเก็บบ้าง
ธรรมชาติของความสุขที่เราเลือกเสพกันเป็นอย่างนี้ มันเป็นสุขที่เจือไปด้วยทุกข์ ไม่ใช่แต่อาหาร อาจจะเป็นเพลงก็ได้ อาจจะเป็นข้าวของเครื่องใช้ที่เราซื้อหามา ต้องเหนื่อยกับการรักษา หรือมิฉะนั้นมีความขัดข้องเพราะว่าไม่เป็นไปอย่างที่ต้องการ ซื้อรถมาก็เป็นทุกข์เพราะรถ ซื้อกระเป๋ามาก็เป็นทุกข์เพราะกระเป๋า จะเพราะเหตุใดก็แล้วแต่ เรียกได้ว่าเป็นสุขที่เจือไปด้วยทุกข์ ถ้าเรารู้เท่าทัน เราจะรู้ว่าความทุกข์ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะใจของเราที่วางไว้ไม่ถูกต้อง ใจที่มีความอยาก มีความคาดหวัง หรือว่าใจที่ไม่รู้จักปล่อยไม่รู้จักวาง สามารถจะนำไปสู่ความทุกข์ได้ เรากินอาหารให้ถือโอกาสพิจารณาไปด้วยว่าทำอย่างไรสิ่งที่เราเสพสิ่งที่เราบริโภคจะให้ความสุข และทำอย่างไรให้มีทุกข์น้อย กินอย่างมีสติ กินอย่างรู้จักประมาณ แล้วก็ต้องรู้จักปล่อยวางด้วย ปล่อยวางในรสชาดอาหาร เพราะไม่เช่นนั้นหากมีความคาดหวังแล้วไม่ได้อย่างที่คาดก็เป็นทุกข์ และถ้าไม่รู้เท่าทันความทุกข์ใจแล้ว ปัญหาอาจจะตามมาอีกหลายอย่าง เพียงแต่ว่าความทุกข์ที่เกิดขึ้นที่นี่อาจจะน้อย แต่ควรจะพิจารณาว่า ความสุขในทางบริโภคจากการบริโภคไม่ได้เป็นสุขล้วนๆ แต่เจือไปด้วยความทุกข์ ซึ่งเราต้องมีสติระมัดระวังไม่ให้ความทุกข์มากจนกระทั่งเราลืมตัวจนกลายเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาจนเกิดผลเสียกับตัวเอง