แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
วันนี้เป็นวันเข้าพรรษา เทศกาลเข้าพรรษาประจำปีนี้ วันนี้เป็นวันแรก ปรกติวันเข้าพรรษา หรือ เทศกาลเข้าพรรษา ถ้าเป็นญาติโยมก็อยากจะทำบุญด้วยการถวายเทียนพรรษาบ้าง ถวายผ้าอาบน้ำฝนบ้าง อย่างเมื่อวาน แต่ที่จริงวันนี้ยังมีพิธีกรรมอย่างหนึ่งในหมู่พระ ซึ่งญาติโยมอาจจะไม่ค่อยรู้จักหรือว่าไม่เคยเห็น ในหมู่พระก็จะมีการอธิษฐานพรรษา อธิษฐานนี่ไม่ได้แปลว่าขอ คนไทยเวลาพูดถึงอธิษฐานนี่ เราก็จะนึกถึงการขอ เช่น ขอให้หายป่วย ขอให้สอบได้ ขอให้ประสบโชค ขอให้มั่งมีศรีสุข อันนี้เป็นการอธิษฐานแบบไทย อธิษฐานภาษาบาลีแปลว่า ความตั้งใจมั่นที่จะทำความดี แล้วความดีที่ทำนี่ก็ไม่ต้องมากแค่อย่างเดียว ความหมายมันตรงกันข้ามกันเลย ระหว่างอธิษฐานบาลีกับอธิษฐานภาษาไทย อธิษฐานภาษาไทยไม่ต้องทำอะไรมาก ก็แค่พนมมือจุดธูปเทียน แต่ส่วนอธิษฐานภาษาบาลีนี่ หมายถึงการลงแรงบางอย่างและก็ไม่ได้อ้างอิงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆ เพื่อจะทำให้สำเร็จผล แต่อาศัยความตั้งใจ อาศัยความเพียรของตน
อย่างวันนี้พระจะอธิษฐานพรรษา ก็คือ จะตั้งใจแสดงหรือประกาศความตั้งใจว่าจะจำพรรษา หรือว่าอยู่ในอาวาสแห่งนี้ครบสามเดือน การที่คนเรานี้จะอยู่ในที่ใดที่หนึ่ง และ อยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย หรืออยู่ร่วมกับผู้คนมากหน้าหลายตาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะว่าคนเราอยู่ที่ใดที่หนึ่ง พออยู่ไปได้ไม่กี่วัน หรือไม่กี่อาทิตย์ก็อาจจะรู้สึกเบื่อ อยากจะไปเปลี่ยนที่ หาของใหม่ อันนี้ธรรมชาติของคนเราชอบของใหม่ อยู่ที่ใดที่หนึ่งนานๆก็เบื่อง่าย ก็อาจจะอยากจะไปหาของใหม่ หรือบางทีเจอความไม่สะดวกความไม่สบาย ที่จริงความสะดวกความสบายในด้านอื่นอาจจะมีมาก แต่อาจจะคับข้องใจ หรือขัดใจในบางเรื่อง บางแง่ก็หาเหตุให้ย้ายที่ อันนั้นมันไม่ใช่เป็นสิ่งที่ดีเท่าไร สำหรับคนเราในการฝึกให้เรียนรู้ที่จะปรับตัวปรับใจเข้ากับสถานที่ โดยเฉพาะต้องอยู่กับผู้คนมากมาย นิสัยต่างกัน ก็อาจจะมีนิสัยบางอย่างที่กระทบกระทั่งกันบ้าง ขัดใจกันบ้าง ถ้าไม่อธิษฐานนี่ก็จะหาเหตุให้ย้ายไปอยู่ที่อื่น แต่ถ้าเราอธิษฐานแล้วนี่ช่วยทำให้เรานี่ตั้งใจที่จะอยู่ตรงนั้นให้ได้ ซึ่งก็จะไปสู่การปรับตัวปรับใจ
สมัยตอนที่อาตมายังบวชใหม่ๆ ตั้งใจว่าจะเจริญสติกับหลวงพ่อเทียนที่วัดสนามใน ก็รู้สึกว่าจะต้องปลุกปล้ำกับตัวเองมาก เพราะเป็นคนที่อยู่นิ่งไม่ค่อยเป็น แล้วก็มักจะหาเหตุหาข้ออ้างให้ยุติ หรือเลิกการปฏิบัติไป ตัวเองนี้เป็นคนหาเหตุ หรือ หาข้ออ้างเก่ง ก็เหมือนกับคนจำนวนมากที่คิดเก่ง ก็จะมีข้ออ้างมากมาย ที่จะทำให้ฝืน หรือทวนกิเลสได้ยาก เพราะฉะนั้นตอนที่ไปปฏิบัติธรรมกับหลวงพ่อเทียนที่วัดสนามใน 1 เดือน ยังไม่ทัน 1 เดือนหลังจากบวชนี่ ก็อธิษฐานไว้สองอย่างว่าจะอยู่ปฏิบัติที่วัดสนามในอย่างน้อยหนึ่งเดือน ถ้าไม่ครบหนึ่งเดือนก็จะไม่ย้ายไปไหน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม และสองตั้งใจว่าในการปฏิบัติ หรือตลอดเวลาที่อยู่วัดสนามในก็จะไม่นอนกลางวัน อะไรจะเกิดขึ้นก็จะไม่นอนกลางวัน ซึ่งก็พบว่าคำอธิษฐานแค่สองข้อนี้ช่วยได้มากทีเดียว เพราะเหตุว่าพอปฏิบัติไปแล้วนี่ สองสามอาทิตย์มันเครียดมาก มีความทุกข์มาก ปวดไหล่ ปวดขา ปวดหัว เพราะปฏิบัติผิดวิธี คิดจะออกจากวัดสนามในไปปฏิบัติที่อื่น ตอนนั้นก็นึกถึง สวนโมกข์ แต่เนื่องจากไม่ครบอาทิตย์ก็เลยต้องอยู่ เนื่องจากไม่ครบเดือนก็เลยต้องอยู่ให้ครบเดือน แล้วปรากฏว่าก็เกิดความเปลี่ยนแปลงเกิดพัฒนาการขึ้นในช่วงอาทิตย์สุดท้าย ซึ่งก็ส่งผลทำให้ตัดสินใจบวชต่อ หลังจากครบสามเดือนแล้วก็บวชต่อ เป็นหนึ่งปี แล้วจากหนึ่งปีก็เป็นสองปี แล้วก็จากสองปีก็เป็นสิบปีแล้วก็จนมาถึงวันนี้
อันนี้ก็เป็นเพราะว่าอานิสงส์ของการอธิษฐาน เพราะฉะนั้นนี่ก็เป็นตัวอย่างว่า การอธิษฐานมีความสำคัญมากมีอานิสงส์หลายประการ เพราะฉะนั้นในช่วงเข้าพรรษานี่ ก็เป็นธรรมเนียมแล้วก็เป็นไปตามพระวินัยด้วยว่า พระจะต้องอยู่ ให้อยู่ในอาวาสใดอาวาสหนึ่ง หรืออยู่ที่ใดที่หนึ่งให้ครบสามเดือนตลอดฤดูฝน แต่ว่าลำพังวินัยไม่พอ ก็ต้องอาศัยความตั้งใจด้วย เพราะฉะนั้นในวันนี้ เช้านี้พระทั้งวัดที่ตั้งใจจะจำพรรษาก็จะมีการกล่าวคำอธิษฐานต่อหมู่สงฆ์ ซึ่งญาติโยมก็จะได้รับรู้ด้วยว่าตนเองตั้งใจจะอยู่ที่วัดป่าสุคะโตให้ครบสามเดือน หากมีเหตุมีความจำเป็นที่จะต้องไปค้างแรมที่อื่น ก็ไปได้ไม่เกินเจ็ดคืน เขาเรียกว่า สัตตาหกรณียะ เสร็จธุระแล้ว หรือว่าเมื่อครบเจ็ดคืนแล้วก็ต้องกลับมา ไม่อย่างนั้นแล้วก็จะขาดพรรษา แล้วก็จะทำให้สูญเสียความตั้งใจ
พระหลายรูปเป็นพระที่บวชใหม่ การที่จะมาอยู่ในวัดแล้วก็ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แค่การตื่นการนอนของที่นี่ก็ไม่ค่อยตรงกับนิสัยกับความเคยชินเดิมๆ พออยู่ไปถ้าปรับตัวไม่ได้นี่ก็มักจะมีความทุกข์ แล้วก็อาจจะหาเหตุ บางคนนี้ตั้งใจว่าจะอยู่ให้ครบพรรษา หรือว่าบางคนตั้งใจอยู่ให้แค่ครบเดือน ถึงแม้ว่าจะไม่อธิษฐานพรรษา แต่พอต้องมาอยู่กับตัวเอง โทรทัศน์ก็ไม่มีดู ไม่มีโอกาสจะคลุกคลีกับใคร ก็รู้สึกหงุดหงิด รู้สึกเบื่อ บางท่านก็หาเหตุว่าแม่ไม่สบาย จะต้องรีบกลับไปบ้านไปดูแลแม่ ไปให้กำลังใจโยมแม่ ตอนที่เป็นฆราวาสนี่ก็ไม่เคยสนใจแม่เลย ไม่ค่อยมีเวลาให้กับท่าน แต่ตอนพอมาบวชแล้วนี่ เกิดการกตัญญูฉับพลันแบบนี้ก็มี อันนี้เพราะว่าไม่ได้มั่นคงในคำอธิษฐาน
ดังนั้นในการอธิษฐานนี่เป็นสิ่งที่สำคัญมากในทางพระพุทธศาสนา ก็คือว่าเป็นบารมีอย่างหนึ่ง บารมี ในที่นี้ หมายถึง ความดีอย่างยิ่งยวด ที่ทำให้ปุถุชนนี่กลายเป็นพระพุทธเจ้าได้ จะเป็นพระพุทธเจ้าได้ต้องบำเพ็ญทศบารมี อธิษฐานนี้เป็นบารมีอย่างหนึ่งในสิบ แต่ถึงแม้ว่าเราจะเป็นปุถุชน ไม่ได้ปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้า ก็ควรจะบำเพ็ญบารมีทั้งสิบให้ได้มากเท่าที่เราจะทำได้ สำหรับท่านที่ไม่ได้เป็นพระ อาจจะเป็นแม่ชี หรือเป็นนักปฏิบัติ เป็นอุบาสก อุบาสิกา เข้าพรรษานี้ก็เป็นโอกาสดี ที่จะได้บำเพ็ญบารมีข้อนี้ ซึ่งมันจะเกิดผลงอกเงย หรือสมทบในส่วนอื่นด้วย อาจจะทำให้บารมีข้ออื่นงอกงามด้วย เช่น สัจจะบารมี หรือ เนกขัมมบารมี ขึ้นอยู่ที่เราอธิษฐานอะไร
ถึงแม้ว่าเราไม่มีความจำเป็นที่จะอธิษฐานพรรษาว่าจะอยู่ครบสามเดือน อันนี้ยกเว้นญาติโยมบางท่านที่ตั้งใจว่าจะมาจำพรรษาร่วมกับพระ ก็ควรจะอธิษฐาน อาจจะอธิษฐานในใจ หรือ อธิษฐานกล่าวเปล่งวาจาออกมาหน้าพระพุทธรูปที่นี่ หรือที่อื่นก็ได้ ถึงแม้จะไม่ได้จำพรรษาที่นี่ ก็ควรจะใช้โอกาสเข้าพรรษานี้ อธิษฐานในบางสิ่งบางอย่างที่เป็นจุดอ่อนของเรา หรือเป็นสิ่งที่จะช่วยให้เรานี่ได้มีจิตใจเจริญก้าวหน้ามากขึ้น อย่างตามธรรมเนียมนี้ ชาวบ้านเมื่อพอถึงเข้าพรรษา อย่างน้อยๆก็อธิษฐานในใจว่า จะรักษาศีลห้าให้ครบ หรือว่าบางท่านมีความตั้งใจมาก ก็บอกว่าจะอธิษฐานว่าจะถืออุโบสถศีล ถือศีลแปดในวันพระ ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ถึงวันพระแล้วก็มาจำศีล ถือศีลที่วัด ศีลแปด แต่สำหรับคนสมัยใหม่หรือว่าคนที่ยังไม่ค่อยจะมีศรัทธาในพระศาสนามาก การถือศีลแปดก็อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก มีถึงแปดข้อทีเดียว แต่ว่าอาจจะเริ่มต้นด้วยการอธิษฐานเพียงแค่หนึ่งข้อ สองข้อก็ได้ แล้วก็ไม่จำเป็นต้องเป็นศีลแปดตามประเพณีก็ได้ บางคนอาจจะเลือกข้อเดียวคือ การงดเว้นการกินเหล้า ในพรรษานี้ก็จะงดเหล้า บางคนก็อาจจะเห็นว่าจุดอ่อนของตัวเอง คือ เป็นคนติดกาแฟ ก็จะงดกาแฟตลอดพรรษาอย่างนี้ก็ได้ คือ ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องใหญ่แต่ขอให้เป็นรูปธรรมก็แล้วกัน ไม่ใช่จะบอกว่าฉันจะทำให้ดีที่สุดในพรรษานี้ แบบนี้ไม่ได้บอกอะไรเลย
อธิษฐานในพระพุทธศาสนา จะเป็นรูปธรรมชัดเจน เช่น ถ้าพระก็ขออธิษฐานว่าจะอยู่ในอาวาสแห่งนี้ครบสามเดือน เราก็ลองพิจารณาดู พระก็ดี แม่ชีก็ดี โยมก็ดี นอกจากจะอธิษฐานพรรษาอย่างที่พูดมาแล้ว ก็ลองสำรวจตัวเองว่าเรามีจุดอ่อนตรงไหน เรามีข้อบกพร่องตรงไหน โดยเฉพาะการเสพการบริโภค ที่มันสร้างปัญหาให้กับเราไม่ใช่แค่อบายมุข เช่น เหล้า บุหรี่ ซึ่งมันเป็นอบายมุขสมัยเก่า อบายมุขสมัยใหม่เดี๋ยวนี้ก็มีมาก เช่น ติดเกมออนไลน์ หรือ บางคนก็ติดหนัง ติดละคร ประเภทซีรีส์เกาหลี นิพพานก็อยากได้ แต่ว่าติด ติดซีรีส์เกาหลีแบบนี้ จนกระทั่งไม่ได้หลับไม่ได้นอน บางทีงานการก็ไม่ได้ทำ เพราะดูกันทั้งคืน ก็ควรใช้โอกาสนี้อธิษฐานเสียว่า เราจะลด เราจะดูให้น้อยลง หรือว่า ถ้าเลิกได้ในพรรษานี้ก็ยิ่งดี ถ้าบางคนอาจจะติดดูหนัง ชอบดูหนังโดยเฉพาะสมัยนี้นั้น มีหนังให้ดูทางออนไลน์ทั้งวันทั้งคืนเลย แล้วก็หนังแต่ละเรื่องก็สนุก ๆ น่าติดตาม เดี๋ยวนี้มาเป็นซีรีส์เลย มาเป็นสิบตอนจบ หรือบางทียี่สิบตอนจบ ถ้าสามก๊กนี่อาจจะห้าสิบตอนจบ ก็ดูกันทั้งคืน แบบนี้ก็เป็นโทษ
ก็ลองใช้ช่วงเข้าพรรษานี้อธิษฐานว่าเราจะลดการดู หรือว่า เลิกไปเลยทั้งสามเดือนนี้ อีกอย่างหนึ่งที่คนติดมาก ก็คือ พวกโซเชียลมีเดีย นี่แหละ ไลน์ เฟสบุ๊ก ใช้เวลากันวันหนึ่งหลายชั่วโมงทีเดียว จนกระทั่งไม่มีเวลานอน เวลาที่จะให้กับลูก กับคนในครอบครัวก็หมด อ้างว่าไม่มีเวลา ก็เพราะไปทุ่มเวลากับเรื่องนี้ ก็อาจจะอธิษฐานว่าในพรรษานี้เราจะลด เราจะให้เวลา เราจะใช้เวลาสำหรับการใช้โซเชียลมีเดียเพียงแค่วันละ 1 ชั่วโมง หรือว่า อาทิตย์ละ 5 ชั่วโมง หรือ ถ้าบางคนอาจจะเลิกไปเลย พักไปเลยก็ดี ก็ได้ ก็ลองดูว่าเราติดอะไรที่มันเป็นปัญหาที่สร้างความหนักอกหนักใจ หรือ สร้างทุกข์ให้กับเรา บางคนชอบชอปปิง ชอปปิงทุกอาทิตย์เลย ก็อาจจะอธิษฐานว่าเราจะไปเที่ยวห้างเดือนละครั้ง หรือว่า เลิกไปเลยในพรรษาก็ได้
สิ่งสำคัญก็คือว่า ควรทำในสิ่งที่มันเป็นไปได้ แล้วก็อาจจะเริ่มต้นในระดับที่ง่ายๆก่อน ไม่ว่าจะเป็นการลด ละ เลิก สิ่งที่ไม่ดี หรือ การเพิ่มสิ่งที่ดี เช่น ในพรรษานี้เราอธิษฐานว่าจะสวดมนต์ทุกคืน สวดมนต์ทุกเช้า หรือว่า เราตั้งใจว่าจะทำสมาธิทั้งก่อนนอน และก็เมื่อตื่นนอน เพราะว่าเราไม่ค่อยได้ทำเท่าไร ตั้งใจจะทำ รู้ว่า ดี แต่ว่ามักจะมีเหตุมีข้ออ้าง ตื่นเช้าขึ้นมาแทนที่จะนั่งสมาธิก็ไปเปิดโทรศัพท์เช็คข้อความ แบบนี้ก็เป็นกันมาก บางคนนอนดึกตื่นสายก็อธิษฐานว่าเราจะตื่นเช้าตีห้าทุกวันเลย แล้วก็จะไม่นอนดึก สี่ทุ่มก็ถือว่าได้เวลานอนแล้ว หรือ บางคนสุขภาพไม่ดี ก็ควรอธิษฐานว่าเราจะออกกำลังกายทุกวัน ทุกเช้า หรือทุกเย็นก็แล้วแต่ เช่น วิ่งจ๊อกกิ้ง ต้องทำให้เป็นรูปธรรม เป็นรูปธรรมหมายความว่า หนึ่ง จะทำอะไร สอง มีกำหนดชัดเจน เช่น ถ้าสมาธิก็อย่างน้อยวันละห้านาที สิบนาที ถ้าออกกำลังกายก็วันละสิบนาที บางคนเป็นคนที่ชอบติดในรสชาติอาหาร ก็อาจจะอธิษฐานว่า จะงดกินเนื้อ หรือว่า จะกินเจ กินมังสวิรัติตลอดพรรษา เพราะว่าอาหารเจ อาหารมังสวิรัติ อาจจะไม่อร่อยเท่าอาหารเนื้อ ซึ่งก็เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพด้วยแล้วก็ช่วยลดกิเลส ทำให้ไม่ติดในรสชาติอาหาร แล้วก็มีส่วนช่วยในการลดการฆ่าสัตว์แม้เพียงน้อยนิดก็ตาม
อธิษฐานนี่ไม่ต้องทำให้มันใหญ่ให้มาก เริ่มต้นจากเล็ก เริ่มต้นจากน้อยดีกว่า เริ่มต้นจากเล็กและน้อย และทำได้ทุกวัน ดีกว่า ตั้งใจไว้ว่าจะทำมากๆแล้วทำไม่ได้ เช่น ตั้งใจ หรือ อธิษฐานว่า จะนั่งสมาธิให้ได้วันละ 1 ชั่วโมง สำหรับมือใหม่นี้ถ้าอธิษฐานแบบนี้ก็มีโอกาสที่จะล้มเหลว เพราะว่า อย่างมากก็ทำไปได้แค่อาทิตย์เดียวแล้วก็เลิก เพราะว่ามันทำไม่ได้ แต่ถ้าเราเริ่มต้นจากวันละห้านาทีนี่ แล้วก็ทำได้ทุกวัน จะเกิดอานิสงส์มาก อย่าดูถูกแม้สิ่งเล็ก เหมือนความดีแม้เพียงเล็กน้อย ถ้าทำทุกวันๆนี่ มันจะสามารถเปลี่ยนชีวิตเราได้
มีเรื่องเล่าว่า สมัยที่หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ท่านยังมีชีวิตอยู่ วันหนึ่งก็มีศิษย์มากราบท่าน ศิษย์ผู้นี้ก็พาเพื่อนมาด้วยเพื่อนนี่เป็นคนติดเหล้า พอศิษย์กราบหลวงปู่ดู่แล้วก็สนทนากันสักพัก ก็ถือโอกาสชวนเพื่อนซึ่งติดเหล้าว่าให้มาสมาทานศีลห้า แล้วก็ทำสมาธิภาวนา เพื่อนก็ปฏิเสธต่อหน้าหลวงปู่เลย บอกว่าจะถือศีลได้อย่างไร จะปฏิบัติได้อย่างไร ทุกวันนี้ยังกินเหล้าอยู่เลย ไม่ยอม หลวงปู่ดู่ท่านได้ยินก็เลยพูดขึ้นมาว่า “เอ็งจะกินเหล้าก็กินไปสิ ข้าไม่ว่า แต่ขอให้เอ็งนี่ นั่งสมาธิวันละห้านาทีก็พอ” ชายคนนั้นพอได้ยินว่าห้านาทีก็คิดว่าไม่ยากอะไร กินเหล้าก็ยังกินได้อยู่ เพียงแค่นั่งสมาธิเพิ่มขึ้น เพิ่มการนั่งสมาธิวันละห้านาที มันจะยากอะไรก็เลยรับปากหลวงพ่อ รับปากหลวงปู่ แล้วแกก็เป็นคนจริง รับปากใครแล้วก็ทำตามอย่างนั้น ทุกวันนี่ก่อนจะไปกินเหล้ากับเพื่อน แกก็จะนั่งสมาธิห้านาทีนั่งเสร็จก็ไปกินเหล้า แต่พอนั่งไปๆ บางวันนี่ขณะที่กำลังนั่งอยู่เพื่อนมาช่วยไปกินเหล้าก็บอกเพื่อนว่ายังไม่ไป นั่งสมาธิก่อน พอนั่งไปทุกวันๆนี่ ก็พบความสงบจากการนั่งสมาธิ ก็เลยนั่งยาวขึ้นจากห้านาทีเป็นสิบนาที จากสิบนาทีก็เป็นสิบห้านาที จากเดิมพอนั่งสมาธิเสร็จก็ไปกินเหล้า แต่คราวนี้ก็เริ่มจะกินเหล้าน้อยลงแล้ว เพราะว่าอยากให้เวลากับการนั่งสมาธิมากขึ้น พอตอนหลังความสุขที่เกิดจากสมาธิทำให้ความอยากเหล้ามันหายไป ก็กลายเป็นว่าเลิกเหล้าได้เพราะการนั่งสมาธิ ที่นั่งสมาธิได้นานได้ต่อเนื่องก็เพราะรับปากหลวงปู่เอาไว้ เริ่มต้นจากวันละห้านาที ตอนหลังชายคนนี้ก็มาบวชพระ จากคนที่ติดเหล้ากลายเป็นพระ ทั้งหมดนี้เปลี่ยนแปลงได้เพราะการนั่งสมาธิวันละห้านาที
เพราะฉะนั้นในช่วงเข้าพรรษานี้เราควรจะใช้โอกาสนี้ทำความดีแม้เพียงเล็กน้อย สวดมนต์วันละห้านาที และ ทำทุกวัน ก็ดีกว่าตั้งใจจะสวดมนต์วันละชั่วโมงแล้วก็ทำไม่ได้เลย หรือ บางคนอาจจะใช้โอกาสช่วงเข้าพรรษานี้อ่านหนังสือธรรมะ อ่านหนังสืออย่างอื่นไปมากแล้ว ดูโซเชียลมีเดียไปไร้สาระไปก็มากแล้ว ต่อไปนี้ทุกวันก่อนนอนจะอ่านหนังสือธรรมะวันละหน้าสองหน้าก็ยังดี
สมัยที่อาตมายังไม่ได้เป็นพระ เป็นโยมนี้ มีหนังสือเล่มหนึ่งที่ตั้งใจอ่านมานานแล้วแต่ไม่เคยอ่านจบสักที ก็คือ พุทธธรรม พุทธธรรม ของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์องค์ปัจจุบันนี้หนาถึงพันหน้า งานก็มาก แต่สุดท้ายในช่วงเข้าพรรษาก็ตั้งใจว่าจะอ่านวันละสิบหน้า ไม่ว่าจะไปไหน กลับมาก็ต้องอ่านให้ได้สิบหน้า ปรากฏว่าพอครบพรรษาก็อ่านจบ แล้วก็ทำให้ได้ความรู้ในเรื่องพระพุทธศาสนาซึ่งก็เป็นพื้นฐานสำหรับการปฏิบัติในเวลาต่อมาได้
เพราะฉะนั้น ในวันนี้เป็นวันแรกของการเริ่มต้นเทศกาลเข้าพรรษาก็ขอเชิญชวนทุกท่านไม่ว่าจะเป็นพระ ไม่ว่าจะเป็นแม่ชี อุบาสก อุบาสิกา ลองนึกสักอย่างว่า เราอยากจะทำอะไร หรือ ตั้งใจจะทำอะไรให้ได้ ให้ดี ในพรรษานี้ตลอดสามเดือน