แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
วันนี้เป็นวันมงคล ที่เป็นวันมงคลไม่เกี่ยวกับฤกษ์ยามไม่เกี่ยวกับฤกษ์ผานาที แต่เป็นเพราะพวกเราได้มาร่วมกันทำความดี พระพุทธเจ้าตรัสว่า “ทำความดีเมื่อไรเมื่อนั้นเป็นฤกษ์ดี เป็นยามดี เป็นวันมงคล” วันนี้พวกเรามาจากหลายทิศหลายทางทั้งใกล้ทั้งไกล เพื่อมาร่วมกันทำความดี เมื่อห้าเดือนที่แล้ววันมงคลก็ได้เกิดขึ้นกับที่นี่และที่บ้านตาดรินทอง เพราะว่าผู้คนเป็นร้อยเป็นพันมาร่วมกันหว่านถั่ว หว่านถั่วทั่วภูเพื่อฟื้นฟูป่าภูหลง เพราะว่าก่อนหน้านั้นเดือนหนึ่งก็มีไฟไหม้ใหญ่ ผู้คนจากทั่วสารทิศได้ข่าวก็ส่งทั้งกำลังใจและเงินมาช่วยดับไฟ หลายคนขับรถมาจากกรุงเทพบ้างจากต่างจังหวัดบ้าง เพื่อมาช่วยดับไฟ ดับไฟเสร็จจะหว่านถั่วเพื่อคลุมหญ้าไม่ให้เป็นเชื้อไฟในหน้าแล้ง ก็มากันหลายคนมากันโดยที่ไม่มีพิธีรีตอง อย่างนั้นคือวันมงคลที่ได้เกิดขึ้นกับที่นี่ วันนี้เป็นวันมงคลเช่นกัน แต่เรามาในวันนี้มีพิธีเล็กน้อยเพราะว่าปรารภในโอกาสที่มีการทอดกฐิน
การทอดกฐินเป็นงานบุญที่ชาวพุทธไทยรู้ดีว่าเป็นงานบุญที่ทำได้ยาก วัดหนึ่งจัดงานได้เพียงแค่ครั้งเดียวในหนึ่งปี จะจัดงานบ่อยๆก็ไม่ได้ ไม่เหมือนงานบวช ไม่เหมือนการถวายสังฆทานทำได้ทั้งปี แล้วก็ทำได้เฉพาะเวลาที่จำกัดคือหนึ่งเดือนหลังออกพรรษา ตอนนี้ผ่านไปแล้วหนึ่งอาทิตย์ มีเวลาที่จะทอดกฐินอีกแค่สามอาทิตย์เท่านั้น สิ้นสุดที่วันลอยกระทง หลายท่านไปร่วมบุญที่วัดภูเขาทองมาแล้วเมื่อวันซืน ที่วัดป่าสุคะโตเมื่อวาน ถึงมาวันนี้แต่ดูทุกคนไม่ได้เหน็ดเหนื่อยอะไร ทุกคนที่มาวันนี้มาด้วยความที่เรียกว่าอิ่มท้องและอิ่มใจ เมื่อเช้านี้อิ่มท้องเพราะมีญาติโยมผู้มีจิตศรัทธานำมาตั้งโรงทาน บางคนอาจจะมาสายไม่ต้องห่วงเพราะเดี๋ยวได้อิ่มท้องแน่ เพราะตอนเพลมีโรงทานที่จะมาบริการให้กับพวกเรา
อิ่มท้องไม่พออิ่มใจด้วย อิ่มใจเพราะได้มาทำบุญ ทำบุญมีได้หลายวิธี บางคนมาถวายเงิน บางคนมาสละเรี่ยวแรง บางคนมาตั้งโรงทาน เวลาเราอิ่มท้องเพราะว่าเรากินอาหารเข้าไป แต่อิ่มใจไม่เหมือนกันเราอิ่มใจเพราะเราได้ให้ อิ่มท้องเกิดจากการเป็นผู้รับ รับอาหารเข้าไปใส่ท้องก็อิ่ม แต่อิ่มใจเกิดจากการให้ เกิดจากการสละ ญาติโยมที่มาที่นี่แล้วอิ่มใจเพราะว่าได้เป็นผู้ให้ สละปัจจัย สละสิ่งของ เป็นเงินสมทบกฐิน เป็นบริวาร รวมทั้งสละผ้าให้เป็นองค์กฐิน คนที่มาตั้งโรงทานก็อิ่มใจ ทั้งๆที่ตื่นแต่เช้ามืดแล้วทำนั่นทำนี่อาจจะไม่ได้หยุดเลย แต่มีความสุขเพราะเป็นผู้ให้ ให้เงิน ให้เวลา สละแรงกาย จะให้แบบไหนก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นคือความอิ่มใจ อิ่มท้องกับอิ่มใจต่างกัน เราอิ่มท้องเพราะเรารับอาหารเข้าไปใส่ท้อง แต่เราอิ่มใจเพราะเราเป็นผู้สละเป็นผู้ให้ ที่ญาติโยมอิ่มใจเพราะได้มาถวายทานให้กับพระให้กับสงฆ์
การทอดกฐินคือการถวายสังฆทานอย่างหนึ่ง ญาติโยมคือเจ้าภาพ มีกำนันวรเดช คุณศุภิดา และคณะมิตรสหาย มาถวายผ้าให้กับสงฆ์ และสงฆ์ตกลงจะมอบให้กับอาจารย์สุรวุฒิ การถวายคือการบำเพ็ญทาน ทำแล้วมีความสุข การสละแรงกายมาช่วยเป็นจิตอาสา มาเป็นญาติธรรม ช่วยทำให้การทอดกฐินวันนี้สำเร็จได้ก็เป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง พระพุทธเจ้าตรัสว่า “บุคคลผู้มีปัญญาปราศจากความตระหนี่ ย่อมบริจาคหรือให้ทานตามกาล เมื่อให้ทานแล้วมีจิตเลื่อมใสศรัทธา ทานนั้นย่อมมีผลอันไพบูลย์” ในทำนองเดียวกันญาติโยมที่มาร่วมอนุโมทนา หรือมาช่วยขวนขวายในบุญกฐินนี้ ย่อมได้รับส่วนบุญด้วย
บุญในงานกฐินนี้ทำให้อิ่มใจ และอิ่มใจเพราะได้เป็นผู้ให้ได้เป็นผู้สละ จำนวนกี่มากน้อยไม่สำคัญ จะไม่มีบริวารเลยก็ไม่เป็นไร สิ่งสำคัญอยู่ที่ใจ ใจที่คิดจะให้ ให้ด้วยความเลื่อมใสศรัทธา ให้ด้วยความเมตตา อย่างญาติโยมมาถวายผ้าถวายบริวารด้วยความเลื่อมใสศรัทธาในสงฆ์ อีกหลายคนมาตั้งโรงทานด้วยความเมตตากับผู้ที่มาร่วมงาน เพียงแค่ตั้งใจก็ได้บุญแล้ว เมื่อได้ลงมือทำบุญก็เจริญขึ้น ตั้งใจจะถวายจะบริจาค ได้มาเท่าไรไม่ใช่เรื่องสำคัญ สิ่งสำคัญคือจิตที่มีเลื่อมใสศรัทธา จิตที่มีเมตตา เราต้องเข้าใจว่าสิ่งที่เป็นหัวใจของการทอดกฐิน คือความร่วมแรงร่วมใจ ด้วยศรัทธา ด้วยความเมตตา ความสำเร็จของงานกฐินอยู่ตรงนี้ ไม่ได้อยู่ที่จำนวนเงิน
บางคนเข้าใจผิด คิดว่างานกฐินของฉันจะสำเร็จได้ต้องมีเงินมากๆมาถวาย บางทีมาอวดกันมาแข่งกันว่าเจ้าภาพคนไหนหาเงินเข้าวัดได้มากกว่ากัน บางคนพอรู้ว่าหาเงินเข้าวัดได้น้อยกว่าเจ้าภาพอีกวัดหนึ่ง เสียใจ ถ้าเสียใจแบบนี้ก็ทำให้บุญที่ได้ลดน้อยถอยลง เพราะจิตนี้หม่นหมองแล้ว จิตไม่ร่าเริงเบิกบาน เราไม่แข่งกัน เราไม่วัดกันที่จำนวนเงิน เราไม่วัดและไม่แข่งกันว่าเป็นผ้าเนื้อดีหรือเปล่า บริวารมากหรือไม่ ขอให้มาจากใจ พระพุทธเจ้าตรัสว่า “ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นใหญ่ มีใจประเสริฐสุด สำเร็จได้ด้วยใจ” มาทอดกฐินด้วยใจได้บุญแล้ว แม้แต่ไม่มีเงินมาถวายแค่อนุโมทนาก็ได้มีส่วนแห่งบุญแล้ว อย่างที่ได้พูดเมื่อสักครู่ เมื่อเรามาด้วยจิตที่มีความเลื่อมใสศรัทธา มีความปรารถนาดี มีเมตตา อย่างที่อาตมาบอก เพียงแค่ตั้งใจและลงมือทำ จะสำเร็จหรือไม่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ แล้วได้บุญเหมือนกัน
มีเรื่องเล่าว่า หลวงพ่อโต สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) พวกเราชาวพุทธต่างรู้จักดี เพราะอย่างน้อยคงเคยได้ยินคำว่า พระสมเด็จที่มีราคาแพงที่สุด ถือว่าขลังศักดิ์สิทธิ์มากเพราะมาจากการสร้างของหลวงพ่อโต สมเด็จพระพุฒาจารย์ มีครั้งหนึ่งท่านไปทอดกฐินที่วัดหนึ่งอยู่ต่างจังหวัด พายเรือไป มีลูกศิษย์พายเรือ แล้วท่านนำองค์กฐินทั้งผ้าทั้งบริวารใส่เรือไปยังวัดที่ทอดกฐิน ปรากฏวัดอยู่ไกล ไปไม่ถึงต้องค้างแรมที่วัดแห่งหนึ่ง ท่านไปจำวัดที่อุโบสถหรือที่โบสถ์ ส่วนเรือจอดทิ้งเอาไว้ตรงท่าน้ำ ปรากฏมีคนมาขโมย คนมายกเค้าเอาเครื่องเอาองค์กฐินและบริวารไปหมดเลย หลวงพ่อโตแทนที่จะเสียใจ ท่านดีใจ เสร็จแล้วท่านเลยพายเรือกลับ ชาวบ้านเห็นหลวงพ่อโตก็ถามว่าทอดกฐินเสร็จแล้วเหรอ ท่านตอบว่า ทอดกฐินเสร็จแล้วจ้ะ และขากลับท่านซื้อหม้อไปแจกชาวบ้าน ชาวบ้านเห็นหลวงพ่อโตซื้อหม้อจึงไปแทงหวย มอ ม้า แล้วก็ถูกหวย
แต่ที่จะพูดตรงนี้ไม่ได้พูดเรื่องหวย พูดตรงที่หลวงพ่อโตพอสิ่งของที่เป็นกองกฐินถูกโจรขโมยไปท่านไม่เสียใจ ถึงแม้ท่านตั้งใจจะไปทอดกฐินที่วัดนั้น แต่ไม่มีอะไรจะทอดแล้วท่านก็ไม่เสียใจ เพราะว่าท่านได้ตั้งใจและได้ทำแล้วแต่ไม่สำเร็จก็ไม่เป็นไร ท่านปล่อยวางได้ ไม่สำเร็จตามที่ตั้งใจท่านไม่ทุกข์ และท่านถือว่าทอดกฐินแล้ว และท่านตอบชาวบ้านไปว่าทอดกฐินเสร็จแล้วจ้ะ องค์กฐินและบริวารไม่ได้ถึงมือพระแต่ไปตกเป็นของโจรไปแล้ว แต่ท่านไม่ทุกข์เพราะท่านถือว่าตั้งใจแล้ว ได้ทำแล้ว จะไปถึงพระหรือถึงใครก็ช่วยไม่ได้ เป็นเหตุสุดวิสัย ท่านไม่ได้เป็นทุกข์ ถือว่าได้ทำแล้วท่านได้บุญ ถ้าหากท่านเสียใจ ท่านโมโหที่ไม่ได้ทำตามที่ตั้งใจ ไม่ได้นำบริวารและองค์กฐินไปถวายไปทอดที่วัด เสียใจ โกรธ อย่างนี้ได้บุญน้อย ท่านปล่อยวางได้ การปล่อยวางเป็นการสละแบบหนึ่ง
เรามาที่นี่อย่าคิดแต่เพียงการสละทำได้ด้วยการให้ทาน การปล่อยวางเป็นการสละแบบหนึ่งที่ทำให้อิ่มใจ หลายคนตั้งใจจะมาทำอาหารถวายพระ นำจีวรมาถวายเจ้าอาวาส แต่ปรากฏพระไม่ได้ฉันอาหารที่เตรียมไว้ หรือเจ้าอาวาสไม่ได้ครองผ้าที่ตัวเองถวาย อย่าเสียใจ เพราะว่าเราตั้งใจแล้วและเราทำแล้ว แต่ว่าไม่ได้เป็นอย่างที่เราตั้งใจ เรารู้จักปล่อยวาง แบบนี้เราได้บุญเลย เราจะอิ่มใจเหมือนกัน แต่บางคนวางใจไม่ถูกเอาอาหารมาตั้งใจทำอย่างดีเพื่อมาถวายหลวงพ่อ หลวงพ่อไม่ฉัน อาจจะเป็นเพราะหลวงพ่ออิ่มแล้ว พอหลวงพ่อไม่ฉันก็เสียใจแบบนี้แสดงว่ายังไม่ปล่อยวาง ยังยึดติดถือมั่นในความตั้งใจ ยึดติดถือมั่นว่าเป็นอาหารของฉัน ถวายหลวงพ่อไปแล้วก็เป็นของหลวงพ่อ ไม่ใช่ของเรา ท่านจะฉันหรือไม่ฉันก็เป็นรื่องของท่าน ไม่ใช่เรื่องของเรา เพราะเราถวายให้เป็นของท่านไปแล้ว จะเป็นอาหารเป็นจีวรก็ตาม
บางคนอาจจะตั้งใจมาทอดกฐิน เตรียมผ้า เตรียมอุปกรณ์ เตรียมสัมภาระ เตรียมบริขารมา เสร็จแล้วเกิดรถเสียมาไม่ถึงวัดก็อย่าเสียใจ เพราะว่าเราตั้งใจแล้ว เราทำแล้วแต่ไม่สำเร็จ ไม่ถึงจุดหมายปลายทางที่ตั้งใจ ให้ถือเหมือนว่าเราได้ทำแล้ว เหมือนกับที่หลวงพ่อโตบอกว่าทอดเสร็จแล้ว ให้เราวางใจแบบนี้ คือรู้จักปล่อยวาง อะไรที่ทำดีแล้วแต่ไม่เป็นไปอย่างที่ตั้งใจก็อย่าไปทุกข์ แต่ที่ทุกข์เพราะอะไร เพราะยังยึดติดถือมั่นกับความตั้งใจนั้น หรือยึดติดถือมั่นกับความคาดหวัง พอไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวังก็ทุกข์ คนเราทุกข์เพราะความคาดหวังกันมาก
บางทีดูแลพ่อแม่ อยากจะให้ท่านงดอาหารบางอย่าง อยากจะให้พ่องดบุหรี่ อยากจะให้แม่งดของหวาน งดข้าวเหนียวทุเรียนเพราะแม่เป็นเบาหวาน หรืองดข้าวขาหมูเพราะเป็นโรคหัวใจ แต่แม่แอบกิน ก็เสียใจ เสียใจยังไม่พอโกรธด้วยเพราะว่าแม่ไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวัง ก็ต่อว่าแม่ แม่ก็เสียใจ ตัวลูกก็เสียใจ ทำไมเราถึงพูดไม่ดีกับแม่ ทำไมเราพูดไม่ดีกับพ่อ ทำให้เครียดนอนไม่หลับ พอนอนไม่หลับวันรุ่งขึ้นตื่นมาจิตใจไม่ผ่องใส หงุดหงิดง่าย พอพ่อแม่ทำอะไรไม่ถูกใจก็ต่อว่าและด่าอีก กลายเป็นยิ่งดูแลพ่อแม่ก็ยิ่งทุกข์ เพราะว่าไม่รู้จักปล่อยวาง ปรารถนาดีเกินไปและอยากให้ท่านเป็นไปตามที่เราคาดหวัง ทั้งที่ความคาดหวังเป็นของดี เป็นความปรารถนาดี แต่พอไปคาดพอไปยึดติดถือมั่นก็ทุกข์ ทุกข์แล้วยังสร้างความเดือดร้อนทั้งกับเจ้าตัวและคนที่เรารักคือพ่อแม่หรือบางทีเป็นลูก
ความอิ่มใจอย่างที่อาตมาบอก มาจากการที่เรารู้จักสละ ไม่ใช่แค่สละสิ่งของ สละเงิน บางทีต้องปล่อยวางสิ่งที่เราตั้งใจ ในเมื่อเราทำเต็มที่แล้ว เราเจตนาดี เราพยายามแล้ว แต่ไปไม่ถึงก็ไม่ทุกข์ เวลาเราทำดีมาทำบุญต้องวางใจแบบนี้ให้เป็น รู้จักปล่อยรู้จักวางได้ แต่ขอให้ทำก่อนไม่ใช่ปล่อยวางแล้วไม่ทำเลย แบบนี้ไม่ถูก ทำแล้วไปได้ไม่ถึงเป้าก็ไม่ทุกข์ บางทีตั้งใจจะหาเงินเข้าวัดแสนหนึ่ง แต่ได้แค่ห้าหมื่นไม่ต้องเสียใจเพราะเราตั้งใจแล้ว เราพยายามทำแล้ว แต่ไม่ได้อย่างที่ตั้งใจถือว่าได้ทำบุญเหมือนกัน อย่างที่บอก บุญจะมากหรือน้อยไม่ได้อยู่ที่จำนวนเงิน ไม่ได้อยู่ที่ของบริวารว่ามากหรือน้อย บริวารหมายถึงเงินและสิ่งของ อย่างของที่กองอยู่ตรงนี้เรียกบริวาร
ประธานจริงๆ คือผ้า ผ้าแค่ผืนเดียวเท่านั้นเป็นประธานหรือเป็นองค์กฐิน ที่เหลือเป็นบริวาร ได้บริวารน้อยไม่เป็นไปตามเป้าก็ไม่ทุกข์ เวลาเดินทางอยากจะมาให้ถึงแปดโมงแต่รถติดก็ไม่ทุกข์ ไม่ใช่รถติดต้องหงุดหงิดปล่อยให้จิตตก รู้จักปล่อยรู้จักวางบ้าง เพราะเราทำเต็มที่แล้วได้เท่านี้ แทนที่จะถึงแปดโมงอาจจะถึงแปดโมงครึ่ง เราไม่ได้ทุกข์อะไร คราวนี้พอเราทุกข์ พอเราหงุดหงิด พอเราโกรธ หรือเสียใจแล้ว ยังไม่สายที่เราจะปล่อยวาง ปล่อยวางความเสียใจ ปล่อยวางความหงุดหงิด ทีแรกเราไม่ได้ปล่อยวางความตั้งใจ ไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราตั้งใจ เราเสียใจ เราโกรธ เราขุ่นเคือง เราหงุดหงิด แต่ยังไม่สายที่จะปล่อยวางอารมณ์เหล่านั้น ถ้าเราปล่อยวางได้ใจจะสบาย ใจจะเย็น ใจจะเบา
ทำบุญถ้าทำบุญด้วยใจที่ยึดติดถือมั่นใจจะหนัก มีความขุ่นเคือง บางทีเรามาตั้งโรงทาน เราอยากได้ทำเลดีๆ พอได้ทำเลที่ไม่ดี ไม่เป็นอย่างที่ตั้งใจก็ขุ่นเคือง หงุดหงิด ให้มีสติรู้ทันใจที่หงุดหงิดแล้ววางลง เพราะเราจะได้ทำเลตรงไหน ถ้าเราทำอย่างสุดฝีมืออาหารก็ต้องอร่อยเหมือนเดิม ไม่ใช่ย้ายทำเลแล้วอาหารจะไม่อร่อยเหมือนเดิม แต่ถึงจะอร่อยหรือไม่อร่อยถ้าตั้งใจทำแล้วก็ได้บุญทั้งนั้น อย่าไปคิดว่าอาหารฉันไม่อร่อยสู้อีกโรงทานหนึ่งไม่ได้ อร่อยไม่อร่อยไม่เกี่ยวกับบุญ บุญเกิดจากความตั้งใจ แค่ตั้งใจและพยายามทำก็ได้บุญแล้ว ตอนนี้พอหงุดหงิดขึ้นมา ยังไม่สายที่เราจะรู้ทัน รู้แล้ววาง
แต่คนเราแปลก บางครั้งหรือบ่อยครั้งเราหวงแหนความโศก ความเศร้า ความหงุดหงิด ยิ่งกว่าหวงแหนอย่างอื่น ธรรมดาคนเราหวงแหนเงิน เราหวงเงินแต่หลายคนไม่หวงเงิน สละได้ สละเป็นหมื่นเป็นแสนก็สละได้ จะสละเป็นล้านเพื่อช่วยวัด สงเคราะห์ศาสนาอุปถัมภ์พระสงฆ์ หรือช่วยเหลือคนยากคนจน ทำได้ไม่คิดไม่ลังเล ให้ทันที แต่กับความโกรธ ความเศร้า ความหงุดหงิด สละยากเหลือเกิน สังเกตได้จากคนที่ใจบุญคนที่ใจดี เวลาสละเงินทองสละง่าย แต่เวลาจะสละหรือปล่อยวางความเศร้า ความโศก ความเสียใจ ยากเหลือเกิน แล้วหวงด้วย ไม่ยอมปล่อย อย่างคนเราเวลาโกรธถ้ามีคนมาแนะนำว่าให้อภัยเขาไปเถิด บางทีไปโกรธคนแนะนำด้วย
มีโยมคนหนึ่งอายุเจ็ดสิบกว่าแล้วเป็นคนที่ใจดีมีเมตตา ชอบช่วยเหลือคน แต่เวลาพูดหรือนึกถึงคนๆหนึ่งคุณยายจะโกรธมาก เพราะผู้ชายคนนี้เนรคุณ ทรยศ คุณยายอุตส่าห์ช่วยแต่เขาไม่สำนึกบุญคุณแล้วเอาเปรียบกลั่นแกล้ง คุณยายโกรธเวลาพูดถึงจะเหมือนกับเป็นคนละคนเลย หน้าตาดุดัน ลูกสาวเป็นห่วงแม่ แม่โกรธแบบนี้มากๆ เดี๋ยวจะป่วย ความดันขึ้น แล้วที่ห่วงอีกอย่างคือ ถ้าตายไปด้วยใจที่ยังมีอาฆาตพยาบาทจะไปไม่ดี ลูกสาวพยายามขอร้องแม่ให้อภัยเขาไปเถอะ อโหสิกรรมไปเถอะ เรื่องผ่านมาสามสิบปีแล้วไม่ใช่พึ่งเกิด สามสิบปีแล้วคุณยายไม่ยอม คุณยายยังโกรธลูกสาวอีกว่ามาแนะนำอะไร คุณยายโกรธลูกสาวเหมือนกับลูกสาวกำลังจะมาแย่งชิงของรักของหวงจากแม่ไป ความโกรธเป็นสิ่งที่ควรรักควรหวงควรแหนที่ไหน ถ้าลูกสาวมาขอที่ดิน ลูกสาวมาขอเพชรนิลจินดา หวงไว้ไม่ยอมให้แบบนี้พอจะเข้าใจได้เพราะว่าอย่างน้อยที่ดินเพชรนิลจินดามีประโยชน์ แต่ความโกรธไม่มีประโยชน์เลย ลูกมาแนะนำให้แม่ให้อภัย จะได้ไม่โกรธ แม่ก็โกรธลูก หวงความโกรธ หวงความพยาบาทเอาไว้
เราถามใจเราดูสิว่า ความโกรธน่าหวงไหม แล้วทำไมถึงเก็บเอาไว้ ทำไมถึงยึดเอาไว้ ทำไมถึงไม่ยอมปล่อย ไม่ยอมสละ คุณยายคนนี้เวลาจะบริจาคเงิน ช่วยคนยากคนจน ให้ได้โดยไม่คิด ไม่มีความลังเลสงสัย แต่พอจะให้ปล่อยความโกรธไม่ยอม เราเป็นอย่างนี้บ้างหรือเปล่า ความเศร้าก็เหมือนกัน เวลาเศร้าหวงเหลือเกิน อยากจะหวงไม่อยากจะปล่อยความเศร้า เพื่อนมาชวนให้ไปเที่ยวที่โน่นที่บ้างเพราะว่าเห็นใจสงสารที่สูญเสียลูก สูญเสียพ่อแม่ เจ้าตัวไม่ยอมไป จะขอนั่งเจ่าจุกอยู่กับความเศร้า เวลาเปิดเพลงเปิดเพลงอะไร ไม่ได้เปิดเพลงสนุก แต่เปิดเพลงเศร้า แปลว่าอะไร แปลว่าหวงแหนความเศร้า คนเรานี้แปลกทั้งๆที่บอกรักตัวเองแต่ว่าหวงแหนความโกรธ หวงแหนความเศร้า เก็บเอาไว้ไม่ยอมปล่อยไม่ยอมวาง
ธรรมชาติคนที่รักตัวเอง เวลาใจทุกข์ต้องยอมต้องยินดีที่จะปล่อย ถ้าทุกข์เพราะเศร้าต้องเต็มใจขวนขวายที่จะปล่อยวางความเศร้า ถ้าทุกข์เพราะโกรธเก็ต็มใจที่จะปล่อยวางความโกรธ หรือความเกลียดก็เหมือนกัน เวลาเกลียดใครจะเหมือนกับมีดที่กรีดแทงใจ แต่หลายคนหวงแหนความเกลียด เกลียดคนอื่นจนลืมรักตัวเอง เราเป็นอย่างนี้หรือเปล่า เกลียดคนอื่นเกลียดจนกระทั่งลืมรักตัวเอง ทำไมถึงบอกลืมรักตัวเอง เพราะถ้ารักตัวเองก็ต้องสละ ต้องปล่อยต้องวางความเกลียด เพราะความเกลียดกรีดแทงใจ กลายเป็นเรารักความโกรธ เรารักความเศร้า เรารักความเกลียด มากกว่ารักตัวเอง เราจึงหวงแหนเอาไว้
เพราะฉะนั้นกลับมาตั้งสติให้ดี เวลาเราโกรธใครเมื่อไรก็รู้ว่าเรากำลังทำร้ายตัวเอง ให้เต็มใจที่จะปล่อยที่จะวาง เวลาเศร้าก็อย่าไปเก็บเอาไว้ ปล่อยวางลง เวลาเกลียดใครอย่าไปหวงแหนความเกลียด ต้องสละออกไป ไหนๆเราเก่งในเรื่องการสละเงินทองเพื่อบริจาคเป็นทานแล้ว สละแรงงานเพื่อช่วยเหลือคน สงเคราะห์ศาสนาวัดวาอารามแล้ว ต้องไปให้ถึงอีกขั้นหนึ่ง คือสละความโกรธ ความเศร้า ความเกลียด ความน้อยเนื้อต่ำใจ ความรู้สึกผิด สิงเหล่านี้ไม่น่ารักไม่น่าหวงแหน แต่ทำไมไปรักก็ไม่รู้ เป็นแบบนี้เพราะหลงเพราะลืมตัว อย่างที่อาตมาบอก อิ่มท้องเพราะกินอาหาร อิ่มใจเพราะสละ แบบนี้ไม่ได้สละเงินอย่างเดียว หมายถึงสละหรือปล่อยวางความโกรธ ความเกลียด ความเศร้า ความอาฆาตพยาบาทด้วย แล้วใจจะสบาย เวลาเราทำอะไรเราตั้งใจแล้ว พยายามเต็มที่แล้ว ไม่เป็นไปอย่างที่ตั้งใจไม่เป็นไร ถือว่าสุดวิสัย เหตุปัจจัยทำได้เท่านั้น อย่าไปยึดติดถือมั่นกับความตั้งใจมาก แต่ถ้าอยากจะทำใหม่ให้สำเร็จก็ทำได้
อย่างพวกเรา ชาวบ้านตาดรินทองเขาปลูกป่ากันมาเป็นสิบปีแล้ว ตั้งใจจะให้มีป่าให้เต็มพื้นที่ แล้ววันดีคืนดีไฟไหม้ใหญ่ ไม่เป็นไปตามอย่างที่ตั้งใจแต่ก็ไม่ทุกข์ เราเริ่มใหม่ ปีนี้เราเริ่มปลูกป่ากันใหม่ ปลูกไปแล้วเดี๋ยวปีหน้าไฟมาอีก เผาอีก ไม่เป็นไรเราทำใหม่เรื่อยไป ทำเต็มที่แต่ไม่ซีเรียส หรือทำเต็มที่แต่รู้จักปล่อยรู้จักวาง แต่อย่าเพิ่งปล่อยวางโดยที่ยังไม่ทันทำอะไรเลย ไม่ทันทำอะไรแล้วปล่อยวางแบบนี้ไม่ถูก ต้องทำก่อน เหมือนอย่างหลวงพ่อโตที่ท่านเตรียมองค์กฐินเตรียมบริขารมาอย่างเต็มที่แต่ไปไม่ถึงก็ไม่ทุกข์ กลับเท่านั้นเอง ถือว่าทอดกฐินเสร็จแล้ว แต่ไม่ได้ทอดให้พระ ทอดให้ขโมยก็ไม่เป็นไร
ขออนุโมทนาทั้งท่านเจ้าภาพที่มาอุปถัมภ์ทางวัดวาอารามมาโดยตลอด แล้วมาเป็นเจ้าภาพให้กับการทอดกฐินต่อเนื่องกันมาหลายปี รวมทั้งญาติโยมที่มาร่วมบริจาคสมทบกับกองกฐิน แล้วก็ผู้มีจิตศรัทธามาตั้งโรงทานมาให้อาหารสงเคราะห์ผู้ที่มาร่วมงาน ตลอดจนญาติโยมที่มาแต่ตัวแต่ไม่ได้ตัวเปล่ามาด้วยใจ เพียงแค่อนุโมทนาได้บุญแล้ว อย่างที่พระสวดและบอกว่า ชนเหล่าใดที่ร่วมอนุโมทนา หรือขวนขวายในการทำบุญนี้มีส่วนแห่งบุญด้วย ขวนขวายคือสละแรงกาย ไม่จำเป็นจะต้องมาเป็นเจ้าภาพ ไม่จำเป็นจะต้องถวายเงินเท่านั้น ให้เรามั่นใจว่าเราทำแล้วก็ได้บุญ และบุญจะเป็นที่พึ่งของเราทั้งหลาย ทั้งวันนี้วันหน้าและเมื่อไปสู่ปรโลก สุดท้ายนี้ขออ้างคุณพระรัตนตรัยอำนวยอวยผลให้ญาติโยมทุกท่านได้เจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ เพื่อเป็นพลวปัจจัยในการทำความดีงามให้ถึงพร้อม ประกอบกิจด้วยความตั้งใจ ขณะเดียวกันรู้จักปล่อยวาง ทำกิจแล้วทำจิตไปพร้อมๆกัน เพื่อทำให้เกิดความสงบเย็น และสามารถจะบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อพระศาสนา รวมทั้งได้บำเพ็ญประพฤติปฏิบัติธรรมเพื่อความเจริญก้าวหน้าในธรรม ขอให้มีปัญญาพาจิตออกจากความทุกข์ เข้าถึงความสุขเกษมศานต์ มีพระนิพพานเป็นที่หมายด้วยกันทุกคนเทอญ