แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
เช้านี้พวกเราหลายคนก็คงจะเดินทางกลับบ้าน กลับภูมิลำเนา หลายคนมีจุดมุ่งหมายปลายทางคือกรุงเทพฯ ซึ่งก็ใจเดียวกับคนหลายหมื่นหลายแสนคนที่จะเข้ากรุงเทพฯเหมือนกัน เพราะฉะนั้นวันนี้ก็มีโอกาสที่จะเจอรถติด คาดเดาว่ารถติดยาวเลยตั้งแต่ลำตะคลอง แต่ยังดี เมื่อก่อนนี้ติดตั้งแต่ด่านขุดทดเพราะถนนมีแค่สองเลนเป็นแค่ส่วนขยาย คงติดที่ลำตะคลองหรือแก่งคอยแทน ถ้าเจอรถติดก็รักษาใจอย่าให้จิตตก ท่องคาถาไว้ รถติดจิตไม่ตก เราอุตส่าห์มาถึงที่นี่ แล้วก็ได้มาเรียนรู้และฝึกปรือจิตใจของตัวแล้ว ก็ควรจะเอาไปใช้ทันทีเลย ที่จริงก็ควรใช้ตั้งแต่เดี๋ยวนี้เลย เวลาเราเดินไปตักอาหารก็ให้มีสติรู้ตัว ขณะที่เรากินอาหารให้เห็นใจของตัวเองไปด้วย เวลาภาวนาสามารถทำได้ทุกเมื่อทันทีที่เราตื่นมา
คนที่อ้างว่าไม่มีเวลาภาวนาเพราะเขาไม่รู้จักว่าภาวนาคืออะไร แล้วก็อ้างว่าไม่มีเวลาภาวนา แต่มีเวลากินข้าว มีเวลาอาบน้ำ นั่นแหละคือเวลาภาวนา แต่ก็อาจจะยังไม่มากเท่าไรเพราะเวลาเรากินข้าวก็แค่ครึ่งชั่วโมง ที่จริงเรามีเวลาภาวนามากกว่านั้นคือตอนรถติด รถติดเป็นชั่วโมง ไม่ว่าวันนี้หรือวันไหนโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ให้เตือนใจว่านี่ละได้เวลาภาวนาแล้ว และจำเป็นด้วย เวลาภาวนาที่เหมาะที่สุดก็คือเวลาที่เรามีความทุกข์ เพราะว่าภาวนาที่จะทำให้เราออกจากทุกข์ได้ และพื้นฐานของการภาวนาคือกลับมาดูใจ รถติดยาวก็กลับมาดูใจ รถติดแต่ว่าจิตโล่ง อย่าปล่อยให้จิตมันติดมันขัด ทันทีที่เห็นรถที่แน่นขนัด รถติดจิตไม่ตก
เรามีสติรู้ทันใจของเรา รู้เห็นความหงุดหงิดความไม่พอใจที่เกิดขึ้น ลองมองว่ามันเป็นธรรมดาบ้าง หรือถ้าจะมองว่าเป็นปัญหาให้ลองมองว่าเป็นปัญหาที่น้อยนิด เมื่อเทียบกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเราในวันข้างหน้า รถติดเราก็ยังอยู่สบาย ในรถมีแอร์เย็นฉ่ำ แล้วก็นั่งเฉยๆไม่ต้องทำอะไร บางทีก็ฟังเพลงไปด้วย จะทุกข์อย่างไร จะทุกข์ไปทำไม แต่ที่เราทุกข์เพราะใจ ใจวางไว้ไม่ถูก ใจที่เต็มไปด้วยความคาดหวังว่าจะต้องถนนโล่ง หรือจะต้องถึงที่หมายก่อนค่ำ แล้วเราก็ยึดติดกับความคาดหวังหรือความอยากอย่างนั้น พอความจริงไม่ตรงกับความอยากเราทุกข์เลย แล้วคิดแต่จะไปก่นด่าความจริงที่ปรากฏอยู่ข้างหน้า แต่ไม่ได้มองเห็นความอยากความคาดหวัง ในใจเรา ซึ่งนั่นแหละตัวปัญหา นั่นแหละคือสาเหตุที่แท้จริง
คนเราทุกวันนี้คิดแต่ที่จะไปแก้ข้างนอก อยากไปปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแก้ไขความเป็นจริงให้มันถูกใจเรา ไม่คิดที่จะปรับใจเราให้ถูกต้องสอดคล้องกับความเป็นจริง พอรถติดก็ไม่เป็นไรคอยได้ เป็นธรรมดา หรือจะมองว่าเป็นปัญหาก็เป็นปัญหาที่น้อยกว่าที่เราต้องเจอในวันข้างหน้าอีกมาก เช่น เจ็บป่วย สูญเสียของรัก พลัดพรากจากคนรัก งานประสบอุปสรรค ทำมาค้าขายไม่ค่อยดี เศรษฐกิจฝืดเคือง อย่างนั้นคือปัญหาที่รอเราอยู่ข้างหน้า ถ้าเทียบกับรถติดนี่เล็กน้อยมาก รถติด ถ้าเรายังทำใจไม่ได้กับการที่รถติด ยังปล่อยให้จิตตก ข้างหน้าก็ไม่ต้องพูดถึงความทุกข์รอเราอยู่ รถจะติดยังไงใจเราก็อย่าติดอย่าขัด ให้มันโปร่งมันโล่งผ่านตลอด หมายถึงอารมณ์ที่ผ่านตลอด ถึงแม้ตัวเรายังติดอยู่บนท้องถนนคาอยู่ตรงนั้น แต่ว่าอารมณ์ต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในจิตใจที่เกิดในจิตใจก็ผ่านตลอด ฝึกเอาไว้
ลองมองว่ารถติดมีข้อดีอย่างไรบ้าง เราต้องปรับมุมมองของเราใหม่ ไม่ใช่ว่าเราจะเห็นทุกอย่างดีไปหมด เราไม่ได้เรียกร้องขนาดนั้น เพราะความเป็นจริงทุกอย่างไม่ได้ดีไปหมด แต่สิ่งที่เราทำได้คือเห็นข้อดีของทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเรา เห็นสิ่งดีดีที่ในทุกอย่างที่ปรากฎอยู่ข้างหน้าเราที่เกิดกับเรา รถติดทำให้เสียเวลาแต่ไม่จำเป็นต้องเสียสติหรืออารมณ์ควบคู่กันไปด้วย เสียแต่เวลาแต่อย่าให้เสียสติหรืออารมณ์ เราทำอย่างนั้นได้เพราะว่าเราเห็นว่ารถติดก็มีข้อดีที่ทำให้เราได้ฝึกจิต ได้เจริญสติ ได้หันมาดูใจ ว่าเราจะทำให้ใจโล่ง หรือปล่อยวางเมื่อเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับเราได้อย่างไร
หรือใช้โอกาสนี้ในการเจริญสติทำสมาธิ คลึงนิ้วไปมา ระหว่างที่ติดอยู่บนถนน บางคนถนัดตามลมหายใจก็ตามลมหายใจไป กลายเป็นว่าได้เวลาภาวนาเพิ่มขึ้นอีก ไม่ใช่ภาวนาแบบทั่วๆไป หรือภาวนาแบบไม่มีรูปแบบ แต่เราสามารถภาวนาอย่างมีรูปแบบได้ในขณะที่รถติด เรียกว่าเสียเวลาแต่ได้สติและได้ความสงบ แบบนี้คือวิถีของคนฉลาดแต่ได้กำไร ฉวยโอกาสทุกอย่าง ฉวยโอกาสทุกเวลา หรือฉวยประโยชน์จากทุกอย่างที่เกิดขึ้น ให้มองเห็นข้อดีของรถติดรวมทั้งเหตุกราณ์อื่นๆ ที่รอเราอยู่ข้างหน้า หรือที่กำลังจะเกิดขึ้น
ผู้ชายคนหนึ่งแกถามลูกขณะที่รถติด ติดยาวเลย ติดนานด้วยที่กรุงเทพฯ แกถามลูกว่ารถติดมีข้อดีอย่างไรบ้าง แกใช้โอกาสนี้ในการพูดคุย อาศัยเหตุการณ์ต่างๆมาเป็นบทเรียนสอนเด็ก เป็นวิชาชีวิตที่ไม่มีสอนในโรงเรียน ว่ารถติดมีข้อดีอย่างไรบ้าง ว่าของหายมีข้อดีอย่างไรบ้าง เจ็บป่วยมีข้อดีอย่างไรบ้าง อย่างนี้เป็นคำถามในวิชาชีวิตที่โรงเรียน มหาวิทยลัยไม่ค่อยสอน แต่พ่อคนนี้ก็ใช้โอกาสตอนที่รถติดโยนการบ้านให้ลูกไปคิด รถติดมีข้อดีอย่างไรบ้าง ลูกนั่งคิดซักพัก ลูกตอบว่า ก็ดีตรงที่พ่อหันมาคุยกับลูกอย่างไรล่ะ เพราะถ้ารถไม่ติดพ่อก็เอาแต่มองไปข้างหน้าไม่สนใจคนในรถ รถติดพ่อไม่รู้จะทำอะไรพ่อก็ชวนลูกคุย เรียกว่าการสร้างสัมพันธ์หรือเชื่อมสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นมากขึ้น เพราะธรรมดาในสมัยนี้พ่อแม่ลูกไม่ค่อยมีเวลาจะคุยกัน ต้องรีบตื่นแต่เช้า แต่พอรถติดก็ฉวยโอกาสนี้พูดคุยกัน ใช้เวลาที่ติดอยู่ในรถให้เกิดประโยชน์ เชื่อมความสัมพันธ์ในครอบครัวให้แน่นแฟ้น หรือทำให้เราเป็นมิตรให้กับตัวเองได้มากขึ้น ด้วยการหันมาอยู่กับลมหายใจ หันมาอยู่กับความรู้สึกตัว พลิกมือไปพลิกมือมา คลึงนิ้วไป เวลาเห็นไฟแดงก็อย่าหงุดหงิดขัดใจ ให้มองว่าเป็นการเตือนเราให้หยุดฟุ้งซ่านได้แล้ว ให้หยุดใจลอย ให้หยุดส่งจิตออก ให้กลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว นี่คือวิถีของผู้มีปัญญาที่รู้จักใช้ประโยชน์จากทุกอย่าง แต่ต้องเริ่มต้นจากการที่กลับมาดูใจ อย่าไปมัวแต่มองไปข้างนอก
เมื่อวานนี้มีคนโทรศัพท์มา ค่ำแล้ว เดี๋ยวนี้คนมีปัญหาโทรมาปรึกษาขอความช่วยเหลือจากอาตมา เมื่อวานนี้มีชายหนุ่มเขียนมาถามว่าคนรักทิ้งไปแล้วจะทำอย่างไรดี แกอายุเพิ่ง 15-16 เอง เดี๋ยวนี้ใครมีปัญหาอะไรก็ต้องมาถามอาตมา เรื่องงานบ้างล่ะ เจ็บป่วยบ้างล่ะ แฟนทิ้งบ้างล่ะ รายนี้ก็เหมือนกัน ปัญหาคืออะไร กำลังจะนอนอยู่แล้วมีเสียงเอะอะโวยวายจากบ้านที่อยู่รอบๆ แกอยู่บ้านจัดสรร มีขโมยเข้ามาหาตัวไม่เจอ แกตกใจกลัว แกเลยโทรมาหาอาตมา โยมควรโทรไปหา 191 ไม่ควรโทรมาหาอาตมา ก็ต่อว่าเขาไปดุเขาหน่อยว่าไม่รู้จักเวล่ำเวลา ก็สองทุ่มครึ่งเข้าไปแล้ว ควรจะโทรไปหาคนที่เกี่ยวข้อง แกกลัวและตกใจ เดี๋ยวนี้ใครมีปัญหาก็นึกถึงแต่พระไพศาลอย่างเดียว แล้วก็บอกเขาเลยว่าให้มาดูใจของตัว ให้กลับมาดูใจของตัว ถ้าตกใจอย่าลืมตัว ให้กลับมาดูใจ
โจรข้างนอกน่ากลัวน้อยกว่าโจรข้างใน โจรข้างในคือความกลัวความโกรธมันน่ากลัวกว่า โจรข้างนอกอาจจะไม่มีจริงก็ได้ ก็ลือๆกันไป แต่ปล่อยให้โจรข้างในมันมาเล่นงานจิตใจเรา และพอไม่รู้เท่าทันโจรข้างในก็จะทำให้เรานอนไม่หลับ เครียด บางคนความดันขึ้น ยิ่งเวลาเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง หลายคนตกใจจนช็อคก็มี ทั้งที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับบ้านเรือนของตัว แต่ตัวเองเรียบร้อยไปแล้ว ก็เพราะว่าอารมณ์เข้ามาครอบงำใจ ที่จริงนอกจากการที่เราดูใจแล้วเห็นความกลัว แล้วสิ่งที่ควรทำด้วยคือไปตรวจดูประตูหน้าต่างให้เรียบร้อยว่าปิดบ้านดีไหม ถ้าล็อคประตูบ้านดีประตูรั้วดีแล้วก็จะสบายใจได้ ไม่ใช่ว่าตกใจโทรมาหาอาตมา ไม่ได้ช่วยอะไรได้เลย นอกจากช่วยให้กลับมาดูใจ
เพราะเราไม่รู้จักกลับมาดูใจ ที่มีความหลง ความไม่รู้ตัว แต่ก็ยังดีไม่เกิดปัญหามาก นอกจากความกลัว ความโกรธ ความทุกข์ บางคนอาจจะทำให้เกิดเรื่องร้ายแรงกว่านั้น โดยเฉพาะถ้าเป็นความโกรธ อย่าลืมกลับไปฝึกกัน เวลาเจอรถติดก็อย่าให้จิตตก ให้ถือว่าดูใจของเราไป รถติดอย่างไรใจเราโล่ง ใจเราโปร่ง แล้วก็จะได้ประโยชน์จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น