แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ในเวลาบิณฑบาต โดยเฉพาะถ้าไปบิณฑบาตแถวภูหลง อีกวัดหนึ่ง ห่างจากนี่ประมาณ 13 กิโล มีบางช่วงเคยมีเด็กผู้ชายอายุประมาณสัก 10 ขวบ ป.6 ก็จะเดินตามพระไปช่วยสะพายย่าม เพราะว่าที่ภูหลงนี่ ญาติโยมใส่บาตรกันเยอะมากแล้วก็ไม่ใช่แค่ข้าวเหนียว แต่ว่าผลไม้ กับข้าว ถ้าคนหนึ่งก็ต้องยังแบกกัน 2-3 ย่าม ต่างจากที่นี่ ที่นี่ไม่ค่อยมีใครถวายนอกจากข้าวเหนียว ช่วงนั้นเป็นช่วงปิดเทอม เด็กคนนี้ก็มาช่วยเดินตามหลังพระสะพายย่าม ผลไม้ กับข้าว เด็กคนนี้ก็สะพาย มาช่วยทุนแรงพระไปได้เยอะ ก็ทำอย่างนี้ได้สัก 4-5 วัน วันหนึ่งระหว่างที่บิณฑบาตอยู่ เด็กก็บอกว่า พรุ่งนี้จะไม่มาช่วยหลวงพ่อสะพายย่ามแล้ว ถามว่า ทำไมหรือ แกบอก โดนเพื่อนล้อ เพื่อนนักเรียนด้วยกันนี่แหละ มันล้อ เขาก็เลยอาย เลยขอจะเลิกทำหน้าที่นี้แล้ว ก็เลยบอกเขาไปว่า เราทำดี สิ่งที่เราทำนี้ มันเป็นบุญกุศลเรา อย่าไปกลัว
แต่เดี่ยวนี้เป็นอย่างนี้จริง คนจำนวนไม่น้อย ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ตาม เวลาทำดีจะไม่ค่อยกล้า แต่ว่าเวลาทำไม่ดีนี่กล้าเหลือเกิน เรียกอาการนี้ว่า “กล้าทำชั่ว กลัวทำดี” วัยรุ่นนี่บางทีก็กล้านะ ไปยกพวกตีกัน บางทีไม่ได้เกลียดชัง หรือว่ารู้จักอีกฝ่ายหนึ่งเป็นส่วนตัว แต่ว่าเพื่อนขอร้องหรือชักชวน บางทีก็กระตุ้นเร้าก็เลยเฮไป เฮไปตีเขา เรื่องแบบนี้กล้า แต่เวลาจะเห็นคนเดือดร้อนทั้งที่ตัวเองช่วยได้แต่ก็ไม่ช่วย อย่างเช่นอยู่บนรถเมล์ รถไฟฟ้า คนแก่หรือว่าคนท้องขึ้นมาไม่มีที่นั่ง บางคนก็อยากจะลุกให้เขาได้มีที่นั่งแต่ไม่กล้า จะเป็นผู้หญิงก็ตาม ผู้ชายก็ตาม การสละที่นั่งให้คนแก่ คนท้องนี่มันก็เป็นความดีน่าสรรเสริญ แต่หลายคนไม่กล้า ถามว่า ทำไม อาย อาย อาย บางทีอายเพื่อน เดี่ยวนี้เป็นกันเยอะ มันมีคน บางทีเราเดินผ่านย่านชุมชน มีคนเป็นลม คนก็เยอะแยะ เดินผ่านไม่สนใจ แต่ถ้าเกิดมีสักคนหนึ่ง ก้มลงไปช่วยเขา หาน้ำ หรือว่าหายา ปรากฏว่าจะมีคนที่ 2 คนที่ 3 ลงไปช่วย แต่ถ้าไม่มีคนแรกนำก่อน ไม่มีใครทำ ไม่ใช่ว่า คนที่เดินผ่านมาผ่านไปผ่านมา ไม่มีน้ำใจนะ มีน้ำใจแต่ว่าไม่กล้า เรารู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่กล้า พอมีคนที่ 1 หรือคนแรกเริ่มทำ เดี่ยวมีคนที่ 2 คนที่ 3 ตามมาและตามมาช่วย
เป็นอย่างนี้นะเดี่ยวนี้ กล้าทำชั่ว กลัวทำดี หลายคนกล้าที่จะคอรัปชั่น แต่ว่าเวลาถึงคราวที่จะซื่อสัตย์สุจริตนี่ไม่กล้า อันนี้ก็เกิดขึ้นมากในวงการของราชการ หลายหน่วยงานที่มันมีผลประโยชน์เยอะ เพราะอะไร เพราะเพื่อนๆ หรือใครๆ เขาก็ทำกัน ใครๆ เขาก็โกง ใครๆ เขาก็ทุจริต ก็ทำโดยไม่ค่อยคิดอะไรมาก แต่พอจะซื่อสัตย์ ถึงคราวจะซื่อสัตย์ เบิกตามค่าใช้จ่ายจริงหรือว่าไม่เรียกเอาสินบาทสินบน ไม่กล้า บางคนก็เป็นตำรวจ บางคนก็อาจจะเป็นข้าราชการ อาจจะศุลกากร สรรพากรก็แล้วแต่ แต่เดี่ยวนี้มันไม่ได้เป็นแต่ราชการ เอกชนก็เป็น อันนี้เรียกว่า กล้าทำชั่ว กลัวทำดี
อย่างนี้มันก็แปลก มันมาถึงยุคที่คนรู้สึกการทำดีเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความกล้ามาก แต่เวลาทำชั่วทำไม่ดีนี่มันไม่ต้องคิดเลย ตัวอย่างง่ายๆ บางทีเราก็อาจจะว่าผู้ใหญ่ ว่าผู้มีพระคุณด้วยความโกรธด้วยความไม่พอใจ หรือด้วยความหวังดีก็แล้วแต่ ไม่อยากให้พ่อสูบบุหรี่ ไม่อยากให้แม่กินพวกน้ำตาล ข้าวเหนียวทุเรียนเยอะ แม่ก็กินทั้งที่เป็นเบาหวานก็หักห้ามใจไม่ได้ก็ว่า ไอ้ตอนว่านี่ ไม่ได้ยั้งคิด ไม่ได้คิดอะไรมาก ไม่ได้คิดหน้าคิดหลังเลย หรือกับเพื่อนก็ตาม บางทีก็ว่าเพื่อน บางทีก็นินทาเพื่อน ปรักปรำเพื่อน แต่พอรู้ว่าผิด ไม่กล้าขอโทษ อันนี้แม้กระทั่งกับพ่อแม่ ไอ้การที่จะขอโทษพ่อแม่ โอ้โหเป็นเรื่องยากมากเลย ไม่กล้าแต่พอเวลาจะว่านี่ไม่มีการลังเลเลย อย่างนี้ก็จัดว่าอยู่ในประเภทกล้าทำชั่ว กลัวทำดี เพราะว่าการว่าพ่อแม่นี้ไม่เหมือนการไปท้วงติง การท้วงติงก็อย่างหนึ่ง แต่ไปว่าด้วยอารมณ์ มันไม่ดีนะ แต่คนเราก็กล้าทำ แต่เวลาจะขอโทษไม่กล้า อย่างนี้เป็นแม้กระทั่งพ่อแม่กับลูก พ่อแม่นี่ว่าลูก ใช้คำพูดแรงๆ พอมารู้ว่าผิด ไม่กล้าขอโทษ ถามว่าขอโทษเป็นความดีไหม เป็นความดี มันเป็นการทำผิดให้เป็นถูก เปลี่ยนผิดให้เป็นถูก แต่คนก็ไม่กล้า
เราจะต้องปรับ ปรับจิตปรับใจเสียใหม่ เวลาทำชั่วนี่มันกล้า เพราะอัตตามันสั่ง กิเลสมันสั่งให้ทำแล้วก็ไม่คิดหน้าคิดหลัง มันจะเป็นกิเลสที่ชื่อว่า โลภะหรือว่าตัวโทสะ หรือตัวมานะ มานะไม่ได้แปลว่าพยายาม มานะแปลว่าความถือตัวถือตนว่ากูแน่ กูเก่ง ต้องการไปยกพวกตีกัน เพื่อแสดงว่ากูเก่งหรือว่าตามเพื่อนไป ไปตีกับเขาทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้เกลียดชังอะไรเขาเลย ไม่ได้รู้จักด้วย แต่ว่าต้องการการยอมรับ ไอ้นี่ก็ตัวมานะ การทำชั่วเป็นเรื่องง่ายหรือกล้าทำได้มากขึ้น เพราะว่าปล่อยให้ตัวกิเลสมันครอบงำ แต่ว่าเวลาจะทำดีนี่ กิเลสมันรู้สึกเสียหน้า จะไปขอโทษนี่เสียหน้า ไอ้ตัวอัตตามันไม่ยอม หรือว่าเกิดไปทำดีแล้วผลประโยชน์มันได้น้อยลง ตัวโลภะมันก็ไม่ยอม มันก็เลยเกิดปรากฏการณ์ที่แพร่หลายไปทั่วประเทศเลย กล้าทำชั่ว กลัวทำดี
ต้องเปลี่ยนใหม่ก็คือ “ไม่กล้าทำชั่ว และก็ไม่กลัวทำดี” สำคัญมากเลย อะไรที่เป็นความดีก็เรียกว่า รีบเข้าไปทำเลย ไม่มีการรั้งรอ แม้ว่าตัวกิเลส ตัวอัตตามันจะยั้ง มันจะห้าม แต่ว่าเราก็ทำ ไม่ว่าจะเป็นการขอโทษ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือคนอื่น ใครเขาจะพูดอย่างไรมันก็เป็นเรื่องของเขา เพราะว่าบางทีเสียงรอบข้างมันก็เป็นมิจฉาทิฐิ กินเหล้าก็เหมือนกัน หลายคนไม่อยากกินเหล้าแต่ต้องกิน เพราะกลัวเพื่อนว่า กลัวเขาจะไม่ยอมรับ อันนี้ก็เรียกว่า จัดอยู่ในประเภทกล้าทำชั่ว แต่เวลาจะทำดี คือว่า ฉันไม่กิน เพราะมันไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ มันเป็นอันตรายต่อร่างกาย มันเปลืองเงิน ไม่มีใครกล้าที่จะพูดกับเพื่อนว่า ฉันไม่กินเหล้านะ ถามว่าการทำอย่างนี้ดีไหม ดีนะ พระพุทธเจ้าก็สรรเสริญ แต่ไม่กล้า เป็นอย่างนี้กันเยอะ ผู้ใหญ่บางทีกินเหล้าไปสักพัก หรือว่ากินเหล้าเฮฮาสักพัก ก็ชวนกันไปเที่ยวผู้หญิง บางคนก็รักลูกรักเมีย แต่ต้องไปนะ กลัว กลัวที่จะขัดขืน กลัวที่จะบอกว่า ฉันไม่ไปนะ ลูกเมียรออยู่ แต่ไปเลย อันนี้ก็เหมือนกัน
ลองดูดีดี ไอ้คำว่ากล้าทำชั่ว กลัวทำดีเป็นกันเยอะนะ อย่าไปคิดว่าเราก็ไม่เป็น เราก็เป็น เราพยายามปรับใจเสียใหม่ ให้เป็นคนที่เวลาทำดีนี่กล้า เวลาทำชั่วนี่ก็ไม่กล้าที่จะทำแต่กล้าขัดขืน กล้าทำดี กลัวทำชั่ว เพราะเห็นว่าทำชั่วแล้วมันเกิดผลเสียแล้วต่อไปจิตใจจะเข้มแข็ง จิตใจจะเข้มแข็ง พอเข้มแข็งแล้ว การทำความดี การทำเรื่องยากต่างๆ ก็จะทำได้ง่ายขึ้น เจออุปสรรค เจอความยากลำบากก็ไม่ท้อถอย เพราะมีความกล้า กล้าที่จะเผชิญกับอุปสรรค กล้าแม้กระทั่งล้มเหลว กล้าล้มเหลว แม้ว่าความล้มเหลวจะไม่ดีแต่กล้า เพราะว่าเราทำสิ่งที่ถูก ทำสิ่งที่ถูก ทำสิ่งที่ดี ล้มเหลวก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าเสียหาย
สมัยนี้ความเข้มแข็งในจิตใจสำคัญมาก เดี่ยวนี้เราเลี้ยงดูให้อ่อนแอ ครอบครัวก็ดี สังคมก็ดีทำให้คนอ่อนแอกันเยอะ รวมทั้งมันมีสิ่งยั่วยุ ทำให้เรายอมโอนอ่อนผ่อนตามง่ายๆ เสร็จแล้ววันดีคืนดี พอมีอะไรมากระทบ น้อยใจ เสียใจ มันทำสิ่งที่เลวร้าย หรือว่าสิ่งที่เสียหายได้เยอะเลย เมื่อเช้านี้ก็ได้ข่าวมีเด็กคนหนึ่ง อายุ 10 ขวบ อายุก็ไล่ๆ กับนักเรียนที่มาปลูกป่า เช้านี้ จะไปโรงเรียน แม่ให้ไปโรงเรียน ก่อนจะไปโรงเรียนแกก็ถือวิสาสะหยิบกระเป๋าเงินแม่ กระเป๋าสตางค์ แม่เห็นแม่ก็ว่า ทำอย่างนี้ได้ไงวิสาสะ เด็กเสียใจ ทีแรกเด็กโกรธก่อน เด็กก็เอะอะ โวยวาย เสร็จแล้วเด็กก็ตกลงว่าไม่ไปโรงเรียนแล้วก็นั่งซึมอยู่ในห้อง แม่ก็คิดว่าคงไม่มีอะไร เดี๋ยวก็คงจะดี เก็บตัวอยู่ในห้องสักพัก ชั่วโมง 2 ชั่วโมง พอตอนบ่าย ปรากฏว่า โดดคอนโดลงมา ฆ่าตัวตาย อาศัยอยู่ในคอนโดที่กรุงเทพ เด็กน้อยใจถูกแม่ว่า แม่ว่าอะไร แม่ว่าไปวิสาสะหยิบกระเป๋าสตางค์แม่ เด็กเดี่ยวนี้น้อยเนื้อต่ำใจง่าย ถูกพ่อแม่ว่าก็เสียใจแล้ว น้อยใจ บางทีไม่ใช่พ่อแม่ว่า บางทีคนรักว่าก็เสียใจ
อะไรทำให้คนสมัยนี้อ่อนแอ ถูกกระทบไม่ได้ อันนี้ก็เป็นคำถามนะ ส่วนหนึ่งก็อย่างที่บอกเอาไว้แล้ว คนเราไม่ได้ถูกฝึกมาให้เข้มแข็งในการที่จะทำสิ่งที่ยาก ซึ่งรวมถึงการที่เรากล้าที่จะทำความดีด้วย อะไรที่ดีเราก็กล้าทำ อะไรที่ชั่วเราก็ไม่กล้า อะไรที่มันเป็นผลเสีย เราก็หลีกเลี่ยง มันโยงกันไปหมด พฤติกรรมของเราในการเกี่ยวข้องกับสิ่งต่างๆ มันก็ส่งผลต่อคุณภาพจิตของเรา แล้วก็จะรวมถึงว่า เราจะพาชีวิตเราไปทางไหน พาชีวิตไปสู่ความสุข ความเจริญ แม้จะมีอุปสรรคมากมาย หรือว่าพาชีวิตลงเหว หรือว่าโดดลงมาจากตึก โดดลงมาจากสะพานมันก็ได้ทั้งแหละ จิตใจนี้ แม้จะไม่เจ็บไม่ป่วยก็ตาม ถ้าวางใจไม่เป็นมันก็พาไปสู่ความทุกข์ ความเดือดร้อน ความฉิบหายได้