แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
เมื่อคืนที่นี่ก็ฝนตกหนัก ฝนไม่เท่าไร พายุลมแรงมาก ทั้งชาววัดชาวบ้านก็คงจะตื่นมากลางดึกเพราะว่าลมมันแรงจริงๆ ขนาดศาลาน้ำนี้ยังเขย่าเลย ประตูหน้าต่างที่ปิดไว้ถูกลมพัดเปิดหลายบานเลย แสดงว่าแรงมาก เพราะว่าหน้าต่างปกติก็ฝืดอยู่แล้ว แต่ว่าที่อื่นหนักกว่านั้น เจอทั้งต้นไม้โค่นล้มมากมายเหลือเกินปิดทางขวางทางหลายจุดแล้วก็น้ำท่วมด้วย ศาลาน้ำนี้ น้ำไม่ท่วมมาหลายปีแล้วเพราะว่าระยะหลังเราก็มีการระบายน้ำที่ดีขึ้น ถ้าไม่ได้ขุดลอกสระก็คงจะหนักกว่านี้ ก็เรียกว่าได้ประสบการณ์ พวกเราหลายคนอาจจะไม่เคยได้ลิ้มรสชาติของพายุในป่าแบบนี้ ก็เป็นรสชาติแบบอ่อนๆ เพราะว่าถ้าเป็นที่อื่นหนักกว่านี้ อันนี้ก็ถือว่าเราโชคดี ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะค่อนข้างรุนแรงเมื่อเทียบกับชีวิตตามปกติของที่นี่ แต่ก็ถือว่าเบากว่าหลายที่หลายแห่งเขาเจอกัน หลายแห่งสูญเสียชีวิต แต่นี่เราไม่มีใครบาดเจ็บเลยด้วยซ้ำ สูญเสียแค่ทรัพย์สิน ทรัพย์สินก็ไม่ได้เสียหายอะไรมาก หนังสือก็โดนน้ำท่วมไปจำนวนหนึ่งแต่ไม่มาก
จริงๆ แล้วมันก็เป็นโชคที่มาเกิดขึ้นตอนกลางคืน ในแง่ที่ว่าต้นไม้กิ่งไม้ที่โค่นล้มลงมาอย่างที่เราเห็นนั้น หลายต้นก็โค่นลงมาตรงทางเดิน ถ้าเป็นตอนกลางวันมันโค่นลงมาก็อาจจะมีคนได้รับบาดเจ็บ แต่นี่มันโค่นมาตอนกลางคืน ผู้คนก็อยู่ในกุฏิกัน ไม่มีใครที่มาเดินเล่นอยู่หรือว่าเดินทำธุระอยู่ตรงถนนเหมือนอย่างตอนกลางวัน ไม่อย่างนั้นอาจจะมีคนบาดเจ็บกัน มองดูให้ดีสิ่งที่เกิดขึ้นถึงแม้ว่าเราจะเรียกว่าเป็นเหตุร้าย แต่ว่ามันก็มีด้านดีหรือเรียกว่าโชคได้เหมือนกัน การที่เรามีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นความรู้อย่างหนึ่งที่เราได้ ต่อไปเวลาเราเจอพายุเราก็ได้รู้ว่าจะระมัดระวังตัวอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำท่วม กิ่งไม้ต้นไม้โค่นล้ม ก็ระมัดระวังตัวได้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเราแม้ว่ามันจะไม่ดีอย่างไร มันก็มีข้อดีให้เราได้เก็บเกี่ยวอยู่เสมอ อยู่ที่ว่าเราจะมองเป็นหรือเปล่า หรืออยู่ที่ว่าเราจะใช้เป็นหรือเปล่า
เมื่อ 2-3 วันก่อนก็ได้อ่านเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่ง แกทำงานแถวสีลม ประมาณสัก 2-3 ทุ่มไปส่งเพื่อน แล้วขากลับก็เดินผ่านซอย มีมอเตอร์ไซค์มาดึงเอากระเป๋าของเธอไป กระเป๋าของเธอไม่ได้สะพายแบบธรรมดา คือสะพายพาดตัว เพราะฉะนั้นพอถูกดึง ตัวเธอก็ปลิวไปด้วย ลอยไปด้วยกับกระเป๋า พอล้มศีรษะก็ไปกระแทกกับของแข็งทำให้มีเลือดคลั่งที่สมอง เธอบอกว่าไม่รู้ตัวเลย เดินอยู่ดีๆ ก็วูบไปเลย ทั้งหมดทั้งปวงนี้ก็มีคนมาเล่าให้ฟังทีหลังว่าเธอหัวฟาดกับของแข็ง แล้วก็อาการหนักด้วย
แต่เธอก็มาเล่าเหตุการณ์นี้เรียกว่าอย่างสบายอารมณ์เลย แล้วเธอก็บอกว่ามีโชคดีหลายอย่างเกิดขึ้นกับเธอ เริ่มตั้งแต่ว่าโชคดีที่เธอติดบัตรเจ้าหน้าที่ เพราะฉะนั้นพอสลบ คนที่เห็นเหตุการณ์ก็รู้ว่าเธอชื่ออะไร ทำงานที่ไหน เวลาไปโรงพยาบาลก็สามารถจะเช็คได้ว่าเธอมีประกันสังคมที่ไหนบ้าง อันนี้ก็เรียกว่าทำให้มีความมั่นใจระดับหนึ่ง แล้วพอรู้ว่าเธอทำงานที่ไหนก็สามารถจะแจ้งให้เจ้านายทราบ พอเจ้านายรู้ เจ้านายก็รีบไปที่โรงพยาบาลทันที เธอบอกว่าโชคดีที่ได้เจ้านายที่ดี แล้วก็โชคดีที่โทรศัพท์ของเธออยู่ในกระเป๋าด้วย ทำให้มีการแจ้งผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทันท่วงที รวมทั้งพ่อแม่ด้วย พ่อแม่โทรไปว่า ๔ ทุ่มแล้วเธอไม่กลับมา เจ้านายซึ่งได้โทรศัพท์ของเธอก็บอกว่าตอนนี้ตัวเธออยู่โรงพยาบาล พ่อแม่ก็รีบมาทันทีมาดูอาการ เธอบอกเธอโชคดีด้วย ได้หมอที่เก่ง หมอไม่ได้ทำงานที่เลิดสินแต่ว่าคงจะอยู่ช่วยงานที่นั่นอยู่บ้างเป็นครั้งคราว พอได้รับแจ้งข่าวก็มาทันทีเลยเพราะเคสเธอเป็นเคสที่วิกฤตมาก แล้วหมอก็เก่ง
เธอบอกเธอโชคดีอีกหลายอย่าง เธอก็จำแนกมา เช่นว่ามีเพื่อนมาเยี่ยมเยอะมากเลย ไม่เคยรู้เลยว่าเรามีเพื่อนเยอะอย่างนี้ โชคดีที่ได้กลับมาอยู่ใกล้ชิดกับแม่อีกครั้งหนึ่ง ใกล้ชิดกับพ่ออีกครั้งหนึ่ง ได้กลับมาเป็นเด็กดื้อของพ่อแม่อีกครั้งหนึ่ง เธอบอกว่าตั้งแต่อายุ 16 พอเข้ามหาวิทยาลัยแล้วก็ไม่ได้อยู่ใกล้พ่อแม่เท่าไร ตอนนี้ก็ได้กลับมาอยู่ใกล้พ่อแม่ พ่อแม่ก็มาดูแลตั้งแต่ที่โรงพยาบาลจนกระทั่งกลับมาบ้าน โชคดีที่ได้หยุดงาน 3 เดือน ขนาดลาคลอดยังไม่ได้หยุดนานขนาดนั้นเลย แต่นี่เธอได้หยุดนาน แล้วก็ไม่ต้องทำอะไร มีคนดูแลให้เสร็จ แล้วตลอด 3 เดือนนี้เธอก็โชคดีมากเลย ไม่เหงาเลย เพราะเพื่อนๆ เอาของมาให้ เอาพวกเลโก้มาให้ เธอก็ได้เอาเลโก้มาต่อเล่น มีคนเอาคอลเลคชั่นอะไรมาให้เธอเยอะแยะ โชคดีมากเลย ไม่เคยได้กินพวกรังนกพวกแบรนด์เลย พอป่วยนี่ มีกินเพียบเลย 3 เดือนแล้วยังเหลืออยู่ เธอบอกเธอโชคดีมากเลยพออยู่บ้านพักฟื้น 3 เดือนก็ได้มีโอกาสพัฒนาทักษะอย่างอื่น เช่น การวาดรูปในเครื่องคอมพิวเตอร์ แล้วทำให้เธอได้ออกแบบสติ๊กเกอร์ไลน์ ผลพลอยได้ของการป่วยของเธอคือได้ออกแบบสติ๊กเกอร์ไลน์แล้วก็เอาไปขาย ก็ได้มีรายได้อีก แล้วก็ภูมิใจสติ๊กเกอร์ของเธอที่มีคนใช้ เธอบอกเธอโชคดีหลายอย่าง
โชคดีอีกอย่างหนึ่งก็คือว่า เคสของเธอมี 4 ช้อยส์ที่จะเกิดขึ้น 1. ตาย 2. เป็นเจ้าหญิงนิทรา 3. อัมพาต และ4. พักฟื้นแล้วก็ฟื้นฟูร่างกาย เธอโชคดีที่เธอได้เคสที่ 4 ก็คือไม่ตาย ไม่อัมพาต ไม่เป็นเจ้าหญิงนิทรา ก็ได้พักฟื้นจนกระทั่งหาย หมอบอกว่าใช้เวลา 6 เดือน เธอทำกายภาพบำบัดแค่ 1 เดือนก็ดีขึ้น เธอก็แจกแจงมาว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันมีโชคอะไรบ้างประมาณ 15 รายการว่าเป็นโชคที่เกิดขึ้นกับเธอ ที่อาตมาเล่ามาก็แค่ครึ่งเดียว เธอเขียนได้เยอะมากกว่านั้น
อันนี้ก็เรียกว่าเป็นคนที่รู้จักหาโชคในท่ามกลางเคราะห์ โชคบางอย่างก็ช่วยทำให้เคราะห์เบาบาง เช่น ได้หมอที่ดีมาช่วยผ่าตัดได้ทันท่วงที แล้วก็ไม่ถึงกับลงเอยเป็นเจ้าหญิงนิทราหรือตายไป โชคบางอย่างก็เป็นผลพลอยได้จากความเจ็บป่วย ได้หยุดงาน ได้อยู่ใกล้พ่อแม่ ได้พักฟื้น ได้พักผ่อน ได้พัฒนาทักษะ เรียกว่าเธอเป็นคนที่มองบวกมาก และอาจจะเป็นเพราะว่าการที่เธอมองบวก อารมณ์ดี ก็ทำให้การพักฟื้นของเธอใช้เวลาสั้นมาก จากเดิมที่หมอบอก ๖ เดือน เธอทำแค่เดือนเดียวก็ดีขึ้น กลับไปทำงานได้
อันนี้ก็เรียกว่าเป็นมุมมองที่น่าสนใจ คนจำนวนมากพอเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็จะรู้สึกว่าทุกข์ร้อน เราไปทำกรรมอะไรมาเราถึงเจอแบบนี้ คนบางคนเขาโดนแย่งกระเป๋าก็น่าจะเสียแค่เงิน แต่นี่ทำไมเราต้องมาเจ็บตัวด้วย ต้องมาพักฟื้นที่โรงพยาบาล เกือบตาย คนมองแง่ลบก็จะมองแบบนี้ มองแล้วก็ซ้ำเติมตัวเอง แต่ว่าคนที่มองบวกเขามองแล้วเขาก็รู้สึกว่าเราโชคดีหลายอย่าง โชคดีตั้ง ๑๕ อย่าง ซึ่งมันก็ทำให้ถึงแม้ว่ากายจะป่วยแต่ว่าใจก็ไม่ทุกข์อะไร ถ้าเราหัดมองแบบนี้บ้าง ไม่ว่าเจอเคราะห์อะไรก็ตาม ก็จะเห็นโชคเกิดขึ้นอยู่เสมอ