พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567
มีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อนิว เธอเกิดมาก็มีมือที่ผิดรูป แล้วก็เป็นธรรมดาที่ถูกเพื่อนล้อตั้งแต่เรียนอนุบาล บางทีเขาก็ไม่ได้ล้อแต่เขาทักว่า ทำไมมือเป็นอย่างนี้ แต่บางคนก็พูดถึงขั้นว่า ไม่สวยเลยน่ารังเกียจ ก็เจออย่างนี้มาตลอด เรียนชั้นประถมมัธยมก็มีคนทัก บางคนก็บอก มือเธอเหมือนกับรถแบคโฮ เธอก็รู้สึกแย่กับตัวเอง
ยิ่งพอมาเรียนมหาวิทยาลัย ตอนแรกก็ทำใจได้ เพราะคุ้นกับคำล้อ แต่บางคนล้อหนักที่เขาเรียกว่าบูลลี่ จนบางครั้งเธอกลับหอพักก็ร้องไห้เสียใจ แต่ตอนหลังนึกถึงคำสอนของญาติผู้ใหญ่ พ่อแม่ลุงป้าน้าอาบอกว่า นิวไม่ได้พิการ นิวแค่ไม่มีเหมือนคนอื่น และสิ่งที่นิวมีมันก็ไม่มีใครมีเหมือนกัน จึงเป็นความพิเศษ อยู่ที่ว่านิวจะทำให้มันพิเศษได้ยังไง
ส่วนลุงก็บอกว่า คนเรามีทั้งคนชมและคนนินทา ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกมองแบบไหน ถ้าเราจะมองหรือได้ยินแต่เสียงนินทาว่าร้าย เราก็ทุกข์ แต่ถ้าเราเลือกที่จะเอาคำพูดดีๆ คำชื่นชม เราก็มีความสุขได้
ตอนหลังเธอก็ทำใจ ปรับใจได้ แล้วก็ไม่รู้สึกละอายหรือรู้สึกแย่เกี่ยวกับมือ หรือรูปร่างของตัวเอง แล้วก็เอาเรื่องราวของเธอขึ้นโซเชียลมีเดีย ทำติ๊กต็อกเกี่ยวกับเรื่องราวของตัวเธอ ไม่อายที่จะให้คนเห็นว่ามือของเธอผิดรูป
แล้วเธอก็บอกว่า อยากเป็นแบบอย่างและเป็นกำลังใจให้กับคนที่มีรูปร่าง หรืออวัยวะไม่เหมือนคนอื่น หรือว่าผิดปกติ แล้วก็อยากจะให้ทุกคนได้รู้ว่าจะไปจมอยู่กับความทุกข์ไปทำไม ไม่มีประโยชน์
แต่ว่าติ๊กต็อกเธอไม่ได้มีแค่นั้น เธอก็ยังแสดงถึงความสามารถทางด้านหัตถกรรมของเธอด้วย คุณยายเก่งด้านการถักการทอการจักสาน เธอก็เรียนมาจากคุณยาย แล้วก็นำผลงานเธอมาแสดงผ่านติ๊กต็อก
ซึ่งมันก็สะท้อนให้เห็นการที่เธอรู้จักมอง อย่างที่ลุงบอกว่า คนเรามันต้องรู้จักมอง เราเลือกมองได้ แล้วเธอก็เลือกมองสิ่งดีๆ ที่เธอมี อันนั้นก็ได้แก่ความสามารถทางด้านหัตถกรรม กระเป๋าจักสานหรือว่าบายศรีของเธอก็สวย เป็นที่ต้องการของผู้คน
อันนี้ก็เรียกว่าเธอมีดีที่จะไม่ใช่แค่อวดอย่างเดียว แต่เพื่อที่จะยืนยันว่า เธอไม่ใช่เป็นคนที่ด้อยหรือไร้ค่าอย่างไร
คนเราไม่ว่าจะมีบางส่วนที่ไม่สมบูรณ์ มีความบกพร่องอย่างไร อาจจะตาบอดหูหนวก อาจจะรูปร่างเตี้ย หรืออะไรก็ตามที่มันเห็นชัด แต่ว่าเราก็ยังมีดีหลายอย่าง เช่น คุณธรรม ความดี ความมีน้ำใจ หรือความสามารถ ถ้าเรารู้จักมอง มองสิ่งดีๆ ที่เรามี แล้วก็จะเกิดความภูมิใจในตัวเอง
แต่ถ้าเราเลือกมองแต่สิ่งไม่ดี หรือสิ่งที่เราขาด เราก็จะทุกข์ แล้วถ้าเรารู้จักมองสิ่งดีๆ ที่เรามีเราก็จะเกิดความภาคภูมิใจ และเกิดความรู้สึกขอบคุณ ขอบคุณที่เรามีสิ่งนี้ หรือขอบคุณคนที่ช่วยทำให้เรามีสิ่งนี้
มีผู้ชายคนหนึ่งแกเป็นโปลิโอ สมัยก่อนมันไม่มีวัคซีนป้องกันโปลิโอ เด็กบางคนเกิดมาก็เป็นโปลิโอ สมัยก่อนก็ตายได้ เพราะว่าปอดหายใจลำบาก หรือถึงรอดมาได้ก็จะมีอาการที่ร่างกายพิการ เดินกะเผลกๆ แต่หนุ่มคนนี้เป็นคนที่มีความสดใสร่าเริง เรียนดีด้วย
เพื่อนก็ทักว่าทำไมคุณไม่มีความทุกข์เลย ที่ร่างกายไม่เหมือนคนอื่น เดินก็กะเผลกๆ แกก็บอกว่า เราอย่าไปเสียเวลาให้กับความทุกข์เลย พูดอีกอย่างว่า เวลาเรามีจำกัดในโลกนี้ เอาเวลาที่มีอยู่ไปรับรู้สิ่งดีๆ หรือมีความสุขดีกว่า เอาเวลาที่มีอยู่ไปจ่อมจมอยู่กับความทุกข์มันไร้ประโยชน์
อันนี้เหมือนกับที่นิวเขาบอกว่า คนเราอย่าไปเสียเวลาอย่าไปจมอยู่กับความทุกข์เลย มันไม่มีประโยชน์ และชายหนุ่มคนนี้แกยังบอกด้วยว่า แกมีคนแนะนำให้รู้จักมองสิ่งดีๆ ที่มี แล้วเขาก็เห็นว่า เขาก็มีสิ่งดีๆ หลายอย่างที่ทำให้เขาอยากจะขอบคุณ เขาเป็นชาวคริสต์ เขาก็เลยขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้เขามีพ่อแม่ที่ดี ทำให้เขามีสุขภาพดี ทำให้เขามีสติมีปัญญาสามารถจะเรียนหนังสือได้ เวลาเขามองเห็นสิ่งดีๆ ที่เขามีเขาก็ไม่รู้สึกว่าเขาเป็นคนด้อยหรือเป็นคนพิการ
มีคนหนึ่งเขาพูดดีว่า ความพิการมันอยู่ในใจเรา ความพิการนี้ไม่ได้อยู่ที่สายตาของคนอื่น อยู่ที่ใจของเรา ถ้าเรามองเห็นแต่ความพิการตัวเอง เราก็เป็นคนพิการ แต่ถ้าเราเห็นสิ่งดีๆ ที่เรามี ความรู้ความสามารถ ทักษะ
บางคนเป็นนักกีฬา บางคนทำสิ่งที่ยากให้สำเร็จ เช่น ปีนเขา ไม่ใช่เขาธรรมดา นี่เป็นเอเวอเรสต์เชียว ทั้งที่ตาบอด ทั้งที่ขาไม่สมประกอบ แต่ว่าพอไม่มอง ไม่สนใจตรงนั้น มองถึงความสามารถที่มี มันก็มีแต่สิ่งที่น่าภาคภูมิใจ ไม่รู้สึกด้อย
ใครเขาจะมองเรายังไงมันก็จะมีความหมายน้อยลง เพราะถ้าเราไม่เอาคุณค่าของเราไปผูกติดอยู่กับสายตาของคนอื่น แต่ว่ามาเห็น มารู้จักตัวเอง รู้จักมองก็จะรู้สึกภาคภูมิใจ ฉะนั้นเธอก็เลยไม่อายที่จะเอาเรื่องราวของเธอขึ้นติ๊กต็อก อย่างที่นิวทำ เธอเป็นคนที่สามารถที่จะก้าวข้ามความผิดปกติ ให้มาเน้นขับความเก่ง ความสามารถหรือความเด่นให้เป็นที่ยอมรับของผู้คนได้.