แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 14 ตุลาคม 2567
มีกิจกรรมยามว่างอย่างหนึ่งที่น่าสนใจ นั่นก็คือการดูดาว ไม่ได้ดูเฉยๆ แต่ว่าถ่ายภาพดาวด้วยยิ่งดี เพราะมันให้อะไรหลายๆ อย่างที่ดีๆ กับเราโดยที่เงินซื้อไม่ได้ เพราะว่ามันต้องอาศัยความเพียรพยายาม ความอดทน มีกลุ่มหนึ่งที่มีสมาชิกในเฟซบุ๊กมาก กลุ่มนี้ชื่อว่า ล่าดาวด้วยมือถือ สมาชิกเยอะมาก ราว 140,000 คน ที่น่าสนใจคือว่า ผู้ก่อตั้งกลุ่มนี้เป็นพระ ท่านใช้ชื่อในเฟซบุ๊กว่า อารยะ คชทีป มีคนไปสัมภาษณ์ท่าน ท่านบอกว่า การดูดาวมันต้องใช้อะไรหลาย ๆ อย่างนอกจากความเพียรพยายามแล้ว มันต้องมีความอดทน เพราะบางทีรอดูดาวทั้งคืนเพียงเพื่อจะได้เห็นดาวตกแค่วูบเดียว บางทีตั้งหน้าตั้งตารอจะดูดาว แต่ปรากฏว่ามันมีเมฆก็ต้องอดทนรอจนกว่าเมฆจะจางหายไป หรือบางทีก็อดดูทั้งคืน
และนอกจากนั้น ยังต้องไม่กลัวความมืด ใครที่กลัวความมืด กลัวผี ก็ดูดาวไม่ได้ แต่ถึงกลัวถ้าลองดูไปเรื่อย ๆ ก็อาจหายกลัวได้ แถมยังช่วยทำให้อยู่ง่ายไม่ติดยึดกับความสบาย เพราะว่าดูดาวบางทีก็เจอยุง เจอแมลง และบางทีก็ต้องไปที่ไกล ๆ ไปทำไม ก็เพราะว่าต้องดูในที่มืด ไม่มีแสงไฟ แค่เจอไฟจากโซลาร์เซลล์ หรือไฟจากตะเกียงโซลาร์ก็ทำให้มองไม่เห็นดวงดาวแล้ว แล้วเดี๋ยวนี้แทบจะทุกหนทุกแห่งที่เป็นเขตชุมชนก็มีไฟสว่าง ถ้าอยากจะเห็นดาวก็ต้องไปที่ไกลๆ ไปอุทยานก็ต้องยอมอดทนกับความยากลำบาก แล้วต้องอาศัยความรู้ด้วย ว่าช่วงไหนที่เป็นช่วงข้างขึ้นข้างแรม ช่วงไหนที่เหมาะกับการดูดาว จะดูดาวอะไร เรียกว่าต้องอาศัยหลายสิ่งหลายอย่าง แต่สิ่งที่ได้คือสมาธิ หลายคนอาจจะไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไหร่ แต่พอเริ่มมาดูดาว และไม่ใช่ดูดาวอย่างเดียว ยังต้องตั้งหน้าตั้งตารอเพื่อจะถ่ายภาพดาวนั้นต้องอาศัยสมาธิมาก ซึ่งก็ทำให้ลืมเรื่องหลายสิ่งหลายอย่าง บางคนกังวลเรื่องงานการ บางคนทุกข์เรื่องสุขภาพ บางคนรู้สึกว่าชีวิตย่ำแย่ แต่พอเลือกมาดูดาว ก็ตามล่าถ่ายภาพดาวจนลืมไปเลย แต่อย่างน้อยเราก็ได้ความผ่อนคลาย แล้วเป็นการฝึกให้จิตใจมีสติอยู่กับปัจจุบัน
เพราะถ้าใจไม่อยู่กับปัจจุบัน ไม่อยู่กับภาพที่เห็นอยู่ข้างหน้า หรือท้องฟ้าที่รากฎอยู่เบื้องหน้า ก็ไม่มีทางที่จะเห็นดวงดาวได้
ยิ่งถ้าจะรอถ่ายรูปด้วย มันต้องรอจังหวะมาก กลุ่มนี้เขาเน้นเรื่องการถ่ายภาพดวงดาว แต่ไม่ใช่ด้วยกล้องราคาแพง ใช้โทรศัพท์มือถือเท่านั้น ซึ่งมันมีความสามารถที่จะถ่ายได้ อย่างไปดูเฟซบุ๊กของเขา มีคนถ่ายภาพดาวหางชื่อ จื่อจินซาน-แอตลัส (Tsuchinshan-ATLAS) ที่เวียนมาใกล้โลกเมื่อเร็ว ๆ นี้ 2-3 วันมานี้ก็ยังมองเห็นอยู่แถวภาคอีสานทางทิศตะวันออก เขาก็ถ่ายภาพด้วยมือถือ แล้วก็เห็นเลย เห็นดาวหางนี้เหมือนมันจะพุ่งลงมาสู่โลก เหนือขอบฟ้าไม่เท่าไหร่ น่าทึ่งมากที่ถ่ายภาพนี้ได้ด้วยโทรศัพท์มือถือ ไม่ใช่กล้องราคาแพง ไม่ใช่กล้องดูดาว จะทำอย่างนี้ได้ต้องมีความรู้ มีเทคนิคที่เกิดจากการฝึกฝน และที่สำคัญคือความอดทน พร้อมที่จะเจอกับความผิดหวังได้
มีเรื่องหนึ่งในนั้นเล่าว่ามีผู้ชายคนหนึ่ง อายุวัยกลางคน ชีวิตย่ำแย่มาก อาจจะเป็นเพราะว่า ธุรกิจล้มละลาย การงานก็เสียหาย รู้สึกชีวิตนี้ไม่มีคุณค่า หมดอาลัยตายอยากกับชีวิตไม่รู้จะอยู่ไปทำไม คิดฆ่าตัวตายหลายครั้ง วันหนึ่งก็มาเห็นเฟสบุ๊คนี้ก็เกิดความสนใจว่ามันจะทำได้เหรอ ถ่ายภาพดาวด้วยโทรศัพท์มือถือ ชายคนนี้ก็ติดต่อคุยกับแอดมิน แอดมินซึ่งเป็นพระบอกว่าได้ ใช้โทรศัพท์มือถือราคาถูก ๆ ก็ได้ แกสนใจนะ ไปขอเงินพี่สาวซื้อโทรศัพท์มือถือราคาถูก ๆ ไม่แพง ท่าทางคงจะไม่ค่อยมีเงิน ขนาดเป็นผู้ใหญ่แล้วแต่ว่าค่าโทรศัพท์มือถือยังต้องไปขอพี่สาว แล้วเก็บข้าวของใส่ถุงกระสอบถุงปุ๋ย ขี่มอเตอร์ไซค์โทรม ๆ ตระเวนตามอุทยานแห่งชาติต่าง ๆ เพื่อที่จะดูดวงดาว แล้วก็รอถ่ายภาพ จากเดิมที่มีความทุกข์พอทำไป ๆ มันเพลิน ลืมความทุกข์ไปเลย ที่เคยหมดอาลัยตายอยากกับชีวิต ที่เคยคิดจะฆ่าตัวตายหายไปเลย รู้สึกว่าตัวเองมีชีวิตใหม่ขึ้นมาอย่าง เขียนไปบอกแอดมินว่า ตอนนี้ผมได้ชีวิตใหม่แล้ว ต้องขอบคุณมากเลย
อันนี้ชี้ให้เห็นว่า เพียงแค่การดูดาวถ้าตั้งใจดู มันก็ได้ประโยชน์เหมือนกัน ได้ประโยชน์มากด้วย สามารถที่จะเปลี่ยนชีวิตของคน ๆ หนึ่งได้ คน ๆ นั้นก็ยังจนเหมือนเดิม ปัญหาก็ยังมีเหมือนเดิม แต่ข้างในเปลี่ยนไป ไม่ท้อแท้ ไม่หมดอาลัยตายอยาก ไม่มีความคิดที่จะฆ่าตัวตาย ไม่มีความคิดที่จะฆ่าตัวตาย ชีวิตใหม่จริง ๆ แล้วก็คือเกิดจากความเปลี่ยนแปลงภายใน ไม่ใช่ว่าจะต้องมีงานใหม่ มีแฟนคนใหม่ มีบ้านหลังใหม่ มันอยู่ที่ใจ และใจที่เปลี่ยนแปลงไปได้ ส่วนหนึ่งก็อาศัยการทำกิจกรรมอย่างที่ว่า ซึ่งจะว่าไปแล้วมันก็เป็นงานอดิเรก เดี๋ยวนี้คนเราไม่ค่อยรู้จักงานอดิเรกแล้ว เวลาจะหาความสุขก็หาความสุขจากการกิน ดื่ม เที่ยวเล่น ช้อป เล่นในที่นี้หมายถึงเล่นการพนัน เล่นเกมออนไลน์ ดื่มก็ดื่มเหล้าหรือว่าดื่มเบียร์ จะเที่ยวก็ต้องไปเที่ยวที่ไกล ๆ เห็นสิ่งตื่นตาตื่นใจ ความสุขของคนสมัยนี้มีเท่านี้ ต้องใช้เงินมาก แต่ที่จริงเรามีความสุขจากสิ่งอื่นคือการทำ ทำสิ่งที่ชอบ ทำสิ่งที่ยาก และการทำที่ว่าอย่างหนึ่งก็คือการทำงานอดิเรก มีงานอดิเรกทำ
เดี๋ยวนี้คนสมัยนี้ไม่ค่อยรู้จักงานอดิเรก ไม่มีงานอดิเรกเลย ว่างเมื่อไหร่ก็ไถมือถือ ดูหนัง เล่นเกมส์ ถามว่ามีงานดิเรกทำไหม ไม่รู้จัก แปลว่าอะไรงานอดิเรก ที่จริงแล้วงานอดิเรกถ้าเรารู้จัก และเลือกที่เหมาะกับเรา มันทำให้เรามีความสุข ความทุกข์ที่มีมันก็ลืม ในขณะที่บางคนมีความสุขจากการฟังเพลง แต่บางคนมีความสุขจากการเล่นดนตรี การเล่นดนตรีกับการฟังเพลงมันต่างกัน ฟังเพลงคือการเสพ เป็นสุขจากการเสพ แต่เล่นดนตรีมันคือสุขจากการทำ และการทำอย่างหนึ่งคือการทำอย่างที่เล่ามาข้างต้น คือ การตามล่าถ่ายภาพดวงดาว เป็นงานอดิเรกสมัยใหม่ซึ่งไม่ได้ใช้เงินมาก งานอดิเรกของแต่ละคนก็ไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน บางคนก็ชอบถักโครเชต์ ถักนิตติ้ง บางคนก็ชอบปลูกต้นไม้
จะทำอะไรก็ตามถ้าหากว่าทำด้วยใจรัก อาศัยความอดทน ก็ทำให้เกิดความสุข ความสงบ
และมันอาจจะเปลี่ยนชีวิตของคนเราได้ ถ้าหากว่าตั้งใจทำจริงจัง อย่างกรณีของชายคนนี้ที่ตามล่าหาดวงดาว สุดท้ายก็พบความเปลี่ยนแปลงภายใน ที่เขาเปลี่ยนเป็นการเปลี่ยนชีวิตแบบง่าย ๆ โดยที่ไม่ต้องมาทำสมาธิ อาจจะเหมาะกับฆราวาส แต่ต้องลงทุน ลงทุนที่ว่าไม่ใช่ทุนที่เป็นเงิน แต่หมายถึงความเพียรพยายาม น้ำพักน้ำแรง ต้องอดทนบ้าง แล้วก็จะได้พบความสุข ความสงบ ความผ่อนคลายได้.