พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 1 ตุลาคม 2567
มีฝรั่งครอบครัวหนึ่งชอบแมว และเลี้ยงแมวไว้ 2 ตัว ตัวหนึ่งเป็นแมวไทยวิเชียรมาศ ชื่อเรนโบว์ วันหนึ่งครอบครัวนี้ไปเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน รัฐไวโอมิง ห่างจากบ้านเกิดประมาณ 1,500 กิโลเมตร เพราะบ้านของครอบครัวนี้อยู่ที่แคลิฟอร์เนีย
ฝรั่งไปเที่ยวก็จะเอาแมวไปด้วย ยิ่งไปหลายวันยิ่งจำเป็นต้องเอาแมวไป พอไปถึงเยลโลว์สโตน์ก็ให้แมวเป็นอิสระ ให้แมวได้เที่ยว ได้เดินเล่น ไม่ให้อยู่ในกรง แต่พอจะกลับ หาแมวตัวหนึ่งไม่เจอ ตัวนั้นคือเรนโบว์
เขาคิดว่าเรนโบว์ออกไปเที่ยวเล่น แต่รอแล้วยังไม่กลับ จึงตามหา เจ้าหน้าที่อุทยานช่วยตามหาด้วย ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย อุทยานแห่งชาติใหญ่ ใช้เวลา 5 วันยังหาไม่เจอ คิดว่าคงจะหมดโอกาสที่จะเจอแล้ว เรนโบว์คงจะหลงไป และหาทางกลับมาไม่ได้ หรือไม่ก็โดนสัตว์ร้ายกิน งูบ้าง หรือว่าอาจจะเป็นพวกหมาจิ้งจอก ก็เสียใจ แต่ทำอย่างไรได้ พากันกลับบ้าน
หลายเดือนต่อมา มีโทรศัพท์มาถึงภรรยาของบ้านนี้ ถามว่าแมวของคุณหลงไปใช่ไหม เธอตอบว่าใช่ แมวชื่อเรนโบว์ใช่ไหม เธอบอกว่าใช่ ตอนนี้เราพบเรนโบว์ที่เมืองโรสวิลล์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ห่างจากเยลโลว์สโตน 1,500 กิโล ไกลขนาดไหน ขนาดกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ 2 เที่ยว เพราะกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ 700 กิโล และเมืองโรสวิลล์ห่างจากบ้านเกิดของสามีภรรยาคู่นี้ประมาณ 300 กิโล
เป็นไปได้อย่างไร มันจะเดินทางตั้ง 1,500 กิโล และมาถูกทางได้อย่างไร ทีแรกเจ้าของบ้านไม่เชื่อ คิดว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือแก๊งมิจฉาชีพจะมาหลอกเอาเงิน แต่ตอนหลังคิดว่ามีแนวโน้มที่เป็นจริง จึงเดินทางไปที่เมืองโรสวิลล์
แล้วก็จริง เจอเรนโบว์ เขาดีใจมาก และอดทึ่งไม่ได้ เรนโบว์เดินทางเป็นระยะทาง 1,500 กิโลเมตร เพื่อกลับมาบ้าน มันเดินด้วยเท้าแน่นอน ไม่ได้ขึ้นรถ เพราะว่าเท้าหรือขาของมันโทรมมาก น่าทึ่งว่าแมวเมื่อพลัดหลงจากบ้านหรือจากเจ้าของ มันพยายามที่จะหาทางกลับบ้านให้ได้แม้ว่าจะอยู่ไกล
มันรู้ได้อย่างไรว่าบ้านของมันอยู่ที่ไหน มันจึงเดินทางมาถูก เกือบจะถึงแล้ว ห่างจากบ้าน 300 กิโลเท่านั้น ตลอดเวลาหลายเดือนที่มันเดินทาง ในระหว่างทางก็อาจจะมีหมาบ้าง หรือมีสัตว์ร้ายบ้าง เรนโบว์สามารถที่จะเอาตัวรอดได้ ความเป็นแมวไทยวิเชียรมาศทำให้มีใจหรือมีเลือดนักสู้ ฉะนั้น จึงมีความสามารถรักษาตัวให้รอดมาได้จนเกือบจะถึงบ้าน
แต่ว่าความกล้า ความเก่งอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีความฉลาดด้วย ต้องรู้ด้วยว่าบ้านอยู่ทิศไหน มันดูแผนที่ไม่เป็นแน่นอน และมันก็ถามใครไม่ได้ แต่มันมาถูก ถ้าให้เวลาอีกสักหนึ่งเดือน หรือไม่ถึงเดือน แค่สองอาทิตย์ เรนโบว์คงจะกลับมาถึงบ้านของตัวได้ แต่ว่ามาไกลขนาดนี้ก็ถือว่าเก่งแล้ว
เจ้าของบ้านบอกว่าโชคดีที่ฝังชิปเอาไว้ มีชิปอยู่ในตัวของแมวตัวนี้ ชิปมีการบันทึกว่าแมวชื่ออะไร พันธุ์อะไร เจ้าของคือใคร บ้านเลขที่อะไร โทรศัพท์อะไร มีข้อมูลฝังอยู่ในชิป เพราะฉะนั้น พอเรนโบว์มาถึงเมืองโรสวิลล์ มีศูนย์พักพิงช่วยเหลือสัตว์จรจัด คงมีคนเอาเรนโบว์ไปส่งศูนย์พักพิง ศูนย์พักพิงเขาจึงจัดการตรวจสอบว่าเจ้าของของเรนโบว์คือใคร จึงโทรศัพท์มาถูกที่
อันนี้มีสาเหตุว่า สัตว์มีความผูกพันกับเจ้าของ มีความผูกพันกับบ้าน แม้จะอยู่ไกลเพียงใดก็หาทางดั้นด้นกลับถึงบ้านจนได้ กรณีนี้ยังไม่ถึงแต่ก็เกือบถึงแล้ว 1,500 กิโล ไม่ใช่ง่าย ขนาดคนเราเดินเท้าเปล่า 1,500 กิโล กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เชียงใหม่-กรุงเทพฯ คงจะเลิกเสียก่อน ไม่ไหว
แต่แมวทั้งที่มันไม่รู้ว่าจะขอข้าวใครกิน ทำไม่เป็น แต่ว่าเอาตัวรอดมาได้ ต้องถือว่าถ้าไม่ใช่ความรัก ความความคิดถึงบ้าน หรือความผูกพันกับบ้าน แมวคงไม่มาถึงขนาดนี้
ที่จริงคนก็มี เคยมีคนหนึ่งเดินทางเป็นหมื่น ๆ กิโล ข้ามน้ำข้ามทะเลเพื่อกลับบ้าน ออกจากบ้านหรือหลงจากบ้านอยู่ตั้งแต่อายุ 5 ขวบ เป็นเด็กอินเดีย วันหนึ่งขึ้นรถไฟเที่ยวกลางคืนไปกับพี่ชาย พี่ชายจะไปสถานีหนึ่งเพื่อจะไปขโมยเอาถ่านหินจากรถไฟที่จอดที่สถานี ทำอย่างนี้ทุกคืน
วันหนึ่งเด็กน้อยอยากจะผจญภัย จึงตามพี่ชายไป พอไปถึงสถานีที่ว่าก็ลง พี่ชายไปหาถ่านหิน ส่วนเด็กชื่อซารู ง่วงนอนมากเพราะดึก จึงนอน ตื่นขึ้นมาหาพี่ชายไม่เจอ ตกใจ เห็นรถไฟจอดอยู่ที่สถานีเปล่า ๆ ว่าง ๆ จึงขึ้นไปหา หาไม่เจอ บังเอิญง่วง หลับต่อ
มารู้อีกทีปรากฏว่ารถไฟเคลื่อนขบวนไปแล้ว แล้วเคลื่อนยาวไปเรื่อย ๆ ไปเรื่อย ๆ ซารูไม่รู้จะลงที่ไหน สุดท้ายก็ลงปลายทางซึ่งคือ 5 วันหลังจากนั้น ไม่รู้เอาข้าวที่ไหนกิน ปลายทางคือกัลกัตตา ห่างจากบ้านเกิดเป็นพันกิโล
ที่สถานีกัลกัตตาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เพราะว่าเด็ก 5 ขวบ ชื่อหมู่บ้านก็จำไม่ได้ นามสกุลตัวเองก็จำไม่ได้ จึงต้องเอาตัวให้รอด แก๊งอันธพาล แก๊งลักพาเด็กเยอะแยะ แต่ว่าก็เอาตัวรอดมาได้ จนกระทั่งมีคนไปส่งสถานีตำรวจ สถานีตำรวจก็ประกาศหาพ่อแม่ ติดประกาศเอาไว้ที่สถานีรถไฟกัลกัตตา ไม่มีใครมาติดต่อ
บังเอิญมีการประกาศรับพ่อแม่บุญธรรม มีฝรั่งคนหนึ่งอาสารับเป็นแม่บุญธรรมให้ เพราะว่าเด็กคนนี้ตามหาพ่อแม่ไม่เจอเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว สุดท้ายจึงมีแม่บุญธรรมซึ่งเป็นชาวออสเตรเลีย แม่บุญธรรมพากลับไปออสเตรเลียและเลี้ยงจนโต
จนอายุ 25 ผ่านไป 20 ปี ตลอดเวลาซารูคิดถึงบ้าน แต่ไม่รู้จะกลับบ้านอย่างไร จนกระทั่งพออายุ 25 คิดว่าต้องหาทางกลับบ้านแล้ว ทำอย่างไร ใช้ Google
ทีแรกจำได้ว่าถ่านหินที่พี่ชายเคยไปขโมยเป็นอย่างไร ค้นหาว่าอยู่ตรงไหน มีชุกตรงไหนในอินเดีย พบว่าอยู่แถวรัฐอุตตรประเทศ แล้วคราวนี้ต้องลงรายละเอียดอยู่ตรงหมู่บ้านไหน เมืองไหน อาศัยความจําว่ามีทัศนียภาพอย่างไร พยายามหาภาพถ่ายจาก Google Map จนกระทั่งได้เห็นภาพบางภาพที่คิดว่าคุ้นเคยตอนเด็ก จึงเดินทางไปอินเดีย
สุดท้ายก็เจอ แต่เรื่องมันยาว เอาสั้น ๆ ว่าเจอบ้านเกิด แล้วแม่ก็อยู่ที่นั่น ดีใจกันมาก แม่บอกว่าตลอดเวลามีความหวังว่าซารูจะกลับบ้าน จึงไม่เคยย้ายเมือง ย้ายบ้านเลย อยู่ตรงนี้ รอว่าเมื่อไรชารูจะกลับบ้าน รอตั้ง 20 ปี อันนี้ความรักของแม่
แล้วความรักความผูกพันกับบ้านเกิดก็มีอยู่ในใจของซารู แสดงว่าคนเรามีความผูกพันกับบ้าน แม้ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหนหรือว่าเวลายาวนานเพียงใดก็ยังคิดถึงบ้าน และหาทางกลับบ้านจนได้ เผอิญซารูมาอยู่ในยุคที่มี Google Map เขาจึงสามารถที่จะกลับบ้านได้ ขึ้นเครื่องบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปอินเดีย
อันนี้เรียกว่าความรักความผูกพันกับบ้านเกิดฝังอยู่ในใจของผู้คนมาก ไม่ว่าคนหรือสัตว์ ถ้ามีทางก็จะหาทางกลับบ้านจนได้.