พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้า วันที่ 24 กันยายน 2567
ที่ประเทศอินเดียเมื่อเร็ว ๆ นี้ มีผู้ชายคนหนึ่งขับรถผ่านป่าแห่งหนึ่ง จู่ ๆ ก็เห็นช้างตัวใหญ่มายืนขวางถนน ทีแรกก็นึกว่าช้างอาจจะไม่พอใจคนที่ใช้ถนนเส้นนี้ ก็กลัว และเตรียมพร้อม จะถอยรถก็ไม่ทันแล้ว แต่ปรากฏว่าช้างจู่ ๆ ก็คุกเข่าลง คุกเข่าเพื่ออะไร คุกเข่าเพื่อขอความช่วยเหลือ
สัตว์เขาก็มีวิธี แม้เขาพูดภาษาคนไม่ได้ แต่เขาแสดงอากัปกิริยาให้คนรู้ว่าเขากําลังต้องการความช่วยเหลือ แล้วช้างตัวนี้ก็ไม่ได้คุกเข่าอย่างเดียว ร้องด้วย ส่งเสียงเหมือนเขากําลังมีความทุกข์ คนจึงลงจากรถ
พอคนลงจากรถช้างก็ลุกขึ้นเลย แล้วก็เดินเหมือนกับจะพาคนให้ตามไป แล้วช้างก็เดินเข้าไปในป่าไม่ไกล ก็เห็นบ่อน้ำแห่งหนึ่ง ในบ่อมีช้างอยู่ 3 ตัวอยู่ที่ก้นบ่อ บ่อก็ไม่ลึก
ช้าง 3 ตัวนั้นมีอาการที่ตกใจมาก และดูร่องรอยแล้วก็พยายามที่จะป่ายปีนขึ้นจากบ่อ แต่ว่าบ่อสูงท่วมหัวช้าง ช้าง 3 ตัวนี้ ตัวหนึ่งคิดว่าเป็นแม่ อีกสองตัวคือลูก และลูกมีสองขนาด ขนาดกลางกับขนาดเล็ก ตัวเล็กมาก เข้าใจว่าลูกคงจะลื่นไถลตกลงบ่อ แม่รักลูกมาก อยากจะช่วยลูก จึงลงไปในบ่อ และลงไปแล้วขึ้นไม่ได้ ตัวเองนอกจากช่วยให้ลูกขึ้นไม่ได้แล้ว ตัวเองยังขึ้นไม่ได้ด้วย
ช้างตัวพ่อเห็นก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ลงไปก็ช่วยไม่ได้ คงนึกถึงคนว่าคนจะช่วยได้ จึงไปดักรอคนบนถนน เดชะบุญ คนนี้จับสัญญาณของช้างได้ว่าต้องการความช่วยเหลือ จึงไปที่บ่อ และเห็นแล้วว่ามันทุลักทุเลมาก เพราะว่าช้างตัวน้อยทำท่าจะจมน้ำ ถ้าจมน้ำก็เสร็จเลย เพราะช้างต้องหายใจ
ช้างตัวแม่กับตัวพี่ก็พยายามที่จะหนีบช้างตัวเล็กเอาไว้ และดันให้หัวพ้นน้ำ แสดงให้เห็นว่าเขารักกันมาก และเขาฉลาด แต่ว่าคงจะทำอย่างนี้ไม่ได้นาน และไม่รู้ว่าตกอยู่ในสระนี่นานเท่าไร อาจจะเป็นวันแล้วก็ได้
ชายคนนั้นจึงไปเรียกคนมาช่วย ช่วยอย่างไร จะอุ้มก็คงเป็นไปไม่ได้ จะดึงก็คงเป็นไปไม่ได้ จึงใช้รถแบคโฮมาทำทาง มาทำลายขอบบ่อให้เป็นทางลาด แทนที่จะตั้งชัน
พอทางเกิดขึ้น ช้างก็ค่อย ๆ ขึ้นจากบ่อ ช้างตัวพี่ขึ้นก่อน และช้างตัวแม่ขึ้นตาม แต่ขึ้นมาแล้วก็ยังห่วงลูกตัวน้อย จึงยื่นงวงให้ลูกยึดเอาไว้ และฉุดลูกขึ้นมา เป็นอันว่าปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูก เป็นภาพที่ประทับใจมาก และมีคนถ่ายคลิปเอาไว้
เดี๋ยวนี้คลิปพวกนี้ทำให้เรารู้ว่าสัตว์เวลาเขามีความเดือดร้อนขึ้นมา หรือเขาต้องการความช่วยเหลือ เขาจะไปหาคน และมีวิธีการขอความช่วยเหลือแปลก ๆ
มีลูกกวางตัวหนึ่งไปยืนอยู่หน้าประตูของครอบครัวหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้ป่า ทีแรกเขานึกว่ามาหาอาหาร ที่จริงไม่ใช่ มาขอให้ไปช่วยแม่หน่อย แม่ถูกเชือกพันรัดเอาไว้ ไปไหนไม่ได้ ลูกกวางพูดภาษาคนไม่ได้ แต่ว่าใช้วิธียืนส่งสายตาวิงวอน ไม่ใช่ครั้งเดียว สองครั้ง ทีแรกไม่ได้ผล หายไปสักพักก็กลับมาใหม่ และมาส่งสายตาวิงวอน คนจึงรู้ว่าสงสัยลูกกวางตัวนี้กําลังเดือดร้อน จึงเดินตามไป
มีอีกรายหนึ่งเจอหมีอยู่ข้างถนน ถ้าหมีตัวใหญ่ ๆ ปกติมันไม่ค่อยมาเพ่นพ่านอยู่ข้างถนน แต่ตัวนี้มันนั่งอยู่ข้างถนน พอรถผ่านไปผ่านมามันก็โบกมือ คนนึกว่ามันทักทายคน แต่ว่ามีคนหนึ่งเอะใจ หยุดรถ พอหยุดรถหมีก็ลุกขึ้น และเดินเหมือนกับจะชวนให้เขาเดินตาม
ปรากฏว่าเดินไปสักพัก ไปเจอลูกตัวเล็ก ขวดพลาสติกครอบปากมันเอาไว้และรัดแน่นมาก แม่ช่วยไม่ได้ จึงคิดว่าคนจะช่วยได้ ซึ่งก็ไม่ยาก คนแค่ดึงเอาขวดพลาสติกออกมาจากปากของลูกหมีก็จบ
ที่น่าทึ่งอีกอย่างหนึ่งคือปลาโลมา ผู้ชายคนหนึ่ง กําลังสํารวจสัตว์น้ำในทะเล อยู่ดี ๆ ก็มีอะไรมาชนทีหลัง มาดุนที่หลัง เหลียวหลังไปดู โอ้ ปลาโลมา ทีแรกนึกว่าปลาโลมามันเล่น แต่ที่จริงไม่เล่น เพราะว่าทำท่าจะไม่ค่อยมีความสุขเท่าไร คงจะมีความทุกข์ จึงลองตามปลาโลมาไป
ไปเจอปลาโลมาอีกตัวหนึ่งอยู่ก้นทะเล มีตาข่ายอวนแหดักปลาพันเอาไว้อยู่และไปไหนไม่ได้ และปลาโลมาถ้าไม่ได้ขึ้นน้ำมาสูดหายใจภายใน 10 นาทีก็ตาย จึงต้องช่วยตัดแหตัดอวนที่พันปลาโลมาตัวนี้จนมันเป็นอิสระ เป็นอิสระแล้วมันก็ดีใจ มาว่ายวน ๆ รอบ ๆ คนที่ช่วยเขาเพื่อขอบคุณ
เวลาสัตว์เขาเดือดร้อน บางครั้งเขานึกถึงคน และเขาก็มีวิธีการขอความช่วยเหลือจากคนแปลก ๆ แต่ที่น่าสนใจอย่างหนึ่งคือว่า สัตว์พวกนี้เขามีความรัก รักลูก รักเมีย รักพ่อ รักแม่ และยอมเสี่ยงอันตรายเพื่อที่จะขอให้คนไปช่วย เรียกว่าความรักลูก รักเมีย ความรักพ่อแม่ หรือความกตัญญูอยู่ในสายเลือด หรือเป็นสัญชาตญาณของสัตว์
คนเราก็มี เพราะว่าเรามีปัญญา สัตว์เหล่านี้ก็มีสมอง สมองพอพัฒนาระดับหนึ่งแล้วทำให้เกิดความรัก ความผูกผันกับลูก กับเมีย กับพ่อ กับแม่ กับผัว คนเราก็มีสมอง และสมองเราพัฒนากว่าสัตว์เหล่านี้ เพราะฉะนั้น เราจึงไม่ได้แค่รักพ่อ รักแม่ รักลูก เราสามารถจะรักคนอื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัว รักคนในหมู่บ้าน รักเพื่อนบ้าน รักคนต่างชาติต่างศาสนา รักประเทศ รักโลกทั้งโลก
อันนี้เรียกว่ามนุษย์เราสามารถจะรักกว้างขวางกว่าสัตว์ ความรักของสัตว์มีขอบเขตที่แคบ แต่คนเรามีสมอง มีปัญญา จึงสามารถจะรักได้มากกว่าคนในครอบครัวหรือพวกพ้อง
แต่สมองของคนเราบางครั้งก็ทำให้คนเรามีความคิดที่คับแคบได้ หรือว่าความคิดของคนเราสามารถไปกดสัญชาตญาณทำให้ไม่สามารถที่จะรักคนที่อยู่ใกล้ตัวได้ ไม่มีความรัก หรือไม่รู้ว่าจะรักอย่างไร ไม่ว่ากับลูก กับพ่อแม่ แต่ไปรักอย่างอื่นแทน รักอะไร รักเงิน รักชื่อเสียง รักอำนาจ สัตว์ไม่มีอย่างนี้ เพราะว่าสัตว์ไม่มีความสามารถที่จะรักอะไรที่เกินเลยไปจากคนในครอบครัวได้
คนเราสามารถที่จะรักกว้างขวางกว่าคนในครอบครัว แต่บางครั้งเราก็รักแม้กระทั่งสิ่งที่เป็นนามธรรม รักศาสนา รักความดี แต่การที่เราสามารถรักนามธรรมได้ บางทีทำให้เราไปรักเงินทอง รักชื่อเสียง รักหน้าตา จนไม่สนใจที่จะรักคนใกล้ ๆ บางทีถึงกับทำร้าย
อย่างคนบางคนรักเงินมาก ถึงกับฆ่าพ่อฆ่าแม่ หรือทำร้ายพ่อแม่ได้ เพื่อแย่งมรดก บางทีก็รักโทรศัพท์มือถือจนกระทั่งสามารถที่จะทำร้ายคนอื่นได้ เพื่อไปแย่งชิงโทรศัพท์มือถือจากคนอื่น อันนี้เรียกว่าสมองคนเราสามารถที่จะกดข่มสัญชาตญาณ หรือว่าความฝ่ายดีของคนเราได้
ฉะนั้น ต้องเราอย่ายอม อย่าให้ความสามารถในการคิดของเราที่พัฒนากว่าสัตว์กลายเป็นว่าทำให้เราไม่สามารถที่จะรัก หรือไม่สามารถที่จะสํานึกในบุญคุณของคนที่มีบุญคุณกับเราได้ ต้องกลับมา กลับมารับรู้ความรู้สึกภายใน
อย่าให้ความคิดหรือว่าความเชื่อบางอย่างทำลายสัญชาตญาณของเราจนกระทั่งสามรถจะฆ่าได้ ฆ่าคนอื่นได้ เพียงเพื่อจะเอาเงิน เพียงเพื่อจะมีอำนาจ หรือเพียงเพราะเขานับถือคนละศาสนากับเรา พูดภาษาต่างจากเรา อันนั้นเรียกว่าเรากําลังกดข่มสัญชาตญาณใฝ่ดี เพราะว่าปล่อยให้ความคิดความเชื่อบางอย่าง หรือความหลงบางอย่างครอบงำใจ
ฉะนั้น ต้องกลับมาฟื้นฟูสัญชาตญาณที่พัฒนาเป็นความรักความเมตตา ไม่ใช่เฉพาะรักลูกรักเมีย รักพ่อแม่ แต่ว่ารักคนอื่นด้วย แม้จะต่างชาติ ต่างศาสนา ต่างภาษา แต่พื้นฐานคือต้องรักพ่อแม่ รักคนใกล้ตัวให้ได้เสียก่อน ถ้าทำอย่างนี้ไม่ได้ ไปรักเงิน ไปรับชื่อเสียง ก็มีแต่จะพาเราตกต่ำถลำไปในทางชั่วได้.