พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้า วันที่ 9 กันยายน 2567
ผู้ชายคนหนึ่งมีบ้านอยู่ริมทะเล ทุกเช้าเขาก็เดินเล่นบนชายหาด วันหนึ่งไปเจอปลาโลมาตัวขนาดรุ่น ๆ คือยังไม่โตเต็มที่ มันเกยอยู่บนชายหาด คงเป็นชั่วโมงแล้ว
ปลาโลมาถ้าไม่ได้อยู่ในน้ำต่อเนื่องก็ตาย เพราะฉะนั้น พอมันเกยอยู่บนชายหาด มันก็ทำท่าจะแย่ ชายคนนั้นจึงอุ้มปลาโลมาตัวนี้เอาไปปล่อยที่ทะเล มันดีใจมาก ได้กลับคืนสู่ท้องทะเล และคงจะดีใจที่ได้กลับไปเจอเพื่อน ๆ เจอครอบครัว
และสิ่งที่เขาไม่คาดคิดคือว่าวันรุ่งขึ้นปลาโลมาตัวนี้ว่ายมาหาเขา ไม่ได้มาเปล่า ๆ โยนแตงกวาทะเล (ปลิงทะเล) มาให้ มันคงอยากจะขอบคุณที่เขาช่วยชีวิตมันเอาไว้
วันต่อมาก็มาอีก คราวนี้โยนปลามาให้ คงรู้ว่าเขากินปลา เขาก็ขอบคุณปลาโลมาตัวนี้ แล้วคงจะสนทนากับปลาโลมาตัวนี้อยู่พักหนึ่ง คุ้นเคยกัน
วันที่ 3 ปลาโลมาตัวนี้ก็มาอีก คราวนี้โยนลูกบอลมาให้ ไม่รู้ไปเจอลูกบอลตรงไหนกลางทะเล เขาก็โยนลูกบอลกลับไปให้ปลาโลมาตัวนี้ มันก็ใช้ปากงับแล้วโยนลูกบอลมาให้เขา จึงใช้ลูกบอลเล่นกัน โยนกันไปโยนกันมา และปลาตัวนี้ก็แม่น พอเขาโยนลูกบอลไปมันก็รับได้ แล้วก็โยนมาให้เขาได้อย่างถูกต้อง
วันต่อมา เขาไปเล่นเจ็ทสกี ปรากฏว่าปลาโลมาตัวนี้ก็มาหาเขา และทำท่าเหมือนกับชวนเขาให้ออกไปทะเลกว้าง เขาก็ตามไปเพราะเชื่อว่าปลาโลมาตัวนี้ปรารถนาดีกับเขา ปรากฏว่าไปเจออะไรรู้ไหม ไปเจอปลาวาฬ
โลมาตัวนี้ ที่จริงไม่ได้มีตัวเดียว มีหลายตัว คงไปชวนปลาวาฬมา หรือไม่ก็รู้ว่ามีปลาวาฬ จึงพาเขาไปหาปลาวาฬ และปลาวาฬตัวนี้เหมือนกับเชื่อง มันเห็นคนก็ทำท่าจะเริงระบำในทะเล บางทีก็ดำผุดลงไปในทะเล บางทีก็โผล่ขึ้นมาพ้นน้ำ
และรอบ ๆ ปลาวาฬก็มีปลาโลมาอยู่หลายตัว แล้วปรากฏว่าจริง ๆ ไม่ใช่ปลาวาฬตัวเดียว มีปลาวาฬอีกหลายตัว ปลาโลมาตัวนี้กับฝูงคงจะเป็นเพื่อนกับปลาวาฬ และคงอยากจะให้เขาได้มาเห็นอะไรที่สวย ๆ ที่ประหลาด ๆ หรืออยากจะมาแนะนําให้รู้จักเพื่อนของเขา คือปลาวาฬ
เขาถ่ายคลิปเอาไว้เพราะเขาไม่เชื่อสายตาว่าจะได้เจอสิ่งที่ไม่คาดฝัน ถ้าไม่ถ่ายคลิปเอาไว้คงไม่มีใครเชื่อว่าปลาโลมาตัวนี้มีความเป็นมิตรมาก มีความรู้สึกกตัญญูรู้คุณ นอกจากหาของแปลก ๆ มาให้แล้ว ยังพาไปดูอะไรที่แปลก ๆ ที่คนธรรมดาคงยากที่จะได้เห็น คือปลาวาฬเริงระบำในน้ำ
เดี๋ยวนี้เรามีโอกาสจะได้เห็นได้ดูเรื่องแบบนี้เยอะเพราะมีการถ่ายเป็นคลิปเอาไว้ เรื่องนี้ก็เป็นคลิปเหมือนกัน สั้นๆ พอเราเห็นแล้วเราก็สบายใจ รู้สึกมีรอยยิ้มอยู่ในใจ เป็นคลิปที่เห็นถึงมิตรภาพระหว่างคนกับสัตว์ และช่วยบํารุงจิตใจเราให้ชื่นบาน เป็นการประเทืองอารมณ์
ต่างจากคลิปมากมายที่ดูแล้วทำให้จิตใจหดหู่ ห่อเหี่ยว หรือว่าเกิดความหงุดหงิด เช่น คลิปเกี่ยวกับข่าวสารการเมืองซึ่งหลายคนก็ติด ทั้ง ๆ ที่ดูแล้วเครียด ดูแล้วหงุดหงิดก็ยังอยากดู
แต่ที่จริง ถ้าหากว่าเราเลือกมาดูคลิปที่เกี่ยวกับสัตว์โลกผู้น่ารัก หรือคลิปที่เกี่ยวคนที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันอย่างที่เล่าเมื่อวาน จิตใจเราจะชื่นบาน จิตใจเราจะผ่องใส และเราก็จะเกิดแรงบันดาลใจในการทำความดี
เช้า ๆ เวลาตื่นขึ้นมา เราเลือกได้ว่าจะมีจิตใจที่ผ่องใสเบิกบาน หรือว่าจะมีจิตใจที่หดหู่ ห่อเหี่ยว หงุดหงิด เราเลือกได้อย่างไร เราเลือกได้ด้วยการเลือกดู เลือกดูคลิป เลือกดูข่าวสาร เดี๋ยวนี้มีคลิปหลากหลายมาก และถ้าเราเลือกเป็น ดูคลิปเกี่ยวกับสัตว์โลกผู้น่ารัก เป็นต้น จิตใจเราจะผ่องใสตั้งแต่เช้า
แต่ถ้าไปดูคลิปเกี่ยวกับการเมือง วิพากษ์วิจารณ์กัน เราอาจจะรู้สึกหงุดหงิด หัวเสีย เห็นความไม่ถูกต้อง เห็นความไร้คุณธรรมของนักการเมือง จิตใจก็ห่อเหี่ยว
แต่เราเลือกได้ว่าเราจะมีอารมณ์ความรู้สึกแบบไหนตั้งแต่เช้า ง่าย ๆ ด้วยการเลือกดู เลือกเสพ เลือกรับข้อมูลข่าวสารหรือคลิปต่าง ๆ
แต่ถ้าจะให้ดี ตื่นเช้าขึ้นมา นอกจากจะรู้จักเลือกรับรู้คลิป ดูคลิปต่าง ๆ แล้ว ลองเลือกที่จะเอาใจมาอยู่กับกายบ้าง ทำอะไรด้วยความรู้เนื้อรู้ตัวดูบ้าง นี่ก็เลือกได้ เลือกทำอะไรด้วยความรู้สึกตัว ทำอะไรอย่างมีสติ
ตื่นเช้าขึ้นมาเก็บที่นอน ล้างหน้า ถูฟัน ไม่จำเป็นต้องไปคว้าโทรศัพท์มาดูคลิปก็ได้ เราเอาใจมาอยู่กับเนื้อกับตัว อาบน้ำ ถูฟัน ล้างหน้าด้วยความรู้สึกตัว ทำให้ใจผ่องใสได้
หรือเอาใจมาอยู่กับลมหายใจเข้าและหายใจออก พวกนี้ไม่มีพิษไม่มีภัย แถมยังทำให้ใจเราโปร่งเบาด้วย เพราะไม่มีเรื่องที่ชวนให้กลัดกลุ้ม
และที่จริงดีกว่าดูคลิป เพราะว่าถ้าเรารู้จักเอาใจมาอยู่กับตัว อยู่กับการกระทำ อยู่กับปัจจุบัน จิตใจเราก็ผ่องใสได้โดยที่ไม่ต้องคว้าโทรศัพท์มาดูคลิป เรียกว่าไม่ต้องพึ่งโทรศัพท์ ไม่ใช่ว่าอยากจะสดชื่นเบิกบาน ต้องหยิบโทรศัพท์ คว้าโทรศัพท์มาดูนั่นดูนี่ให้จิตใจมันสบาย กลายเป็นติดไป
เราสามารถที่จะทำให้ใจเราผ่องใสเบิกบาน สงบเย็นได้ ด้วยการเพียงแค่เอาใจมาอยู่กับเนื้อกับตัว ทำความรู้สึกตัวให้เกิดขึ้น อันนี้ดีกว่า แล้วเราเลือกได้โดยที่เราไม่ต้องพึ่งโทรศัพท์มือถือ ไม่อย่างนั้นต้องมีโทรศัพท์มือถือติดตัวเป็นประจำ หรือถึงมีโทรศัพท์แต่สัญญาณไม่มีก็หัวเสียแล้ว
แต่นี่ถึงแม้เราไม่มีโทรศัพท์เราก็เลือกที่จะมีความผ่องใสเบิกบาน ด้วยการพาใจกลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว มีความรู้สึกตัว
แล้วจะทำให้เวลาเราเจอสิ่งเร้าที่กระตุ้นให้เราหงุดหงิด ซึ่งเราห้ามไม่ได้ เสียงดังจากเพื่อนบ้าน หรือว่าลูกตื่นสาย โทรศัพท์หาย ไม่มีสัญญาณ เว็บล่ม เราก็ไม่หงุดหงิด เพราะว่าเรามีสติจากการที่เราฝึกให้ใจอยู่กับเนื้อกับตัว มีสิ่งเร้ามากระทบในปัจจุบันแต่ใจเราไม่ทุกข์ ไม่จมไปกับความหงุดหงิด เพราะว่าเรามีสติ มีความรู้สึกตัว กลับมารู้สึกตัวได้ไว
หรือถึงแม้ว่าเราจะมีเรื่องกังวล เราก็ไม่ปล่อยให้ใจจมอยู่ในความกังวล เพราะบางทีก็มี ดูคลิปสัตว์ ดูคลิปที่น่ารัก แต่ว่าใจกังวล จิตใจก็หม่นหมอง ไม่ผ่องใส
แต่ถ้าหากว่ามีความกังวลที่เกิดขึ้นเพราะงานเพราะการที่ยังค้างคาอยู่ เราก็รู้ทัน มีสติ แทนที่จะปล่อยใจให้ไปจมอยู่กับความหงุดหงิด ความเครียด เราก็เอาใจกลับมาอยู่กับปัจจุบัน สดชื่นแจ่มใส กินข้าวเราก็กินด้วยความรู้สึกตัว
พูดง่าย ๆ เราเลือกได้ เราเลือกว่าจะมีจิตใจที่ผ่องใสหรือว่าห่อเหี่ยว เบิกบานหรือว่าหงุดหงิด เราเลือกได้ เพราะเรารู้จักพาใจกลับมาอยู่กับสิ่งที่เป็นกุศล มาอยู่กับความรู้สึกตัว ซึ่งทำได้ตลอดเวลา ทำได้เดี๋ยวนี้เลย.