PAGODA

  • Create an account
  • Forgot your username?
  • Forgot your password?
or

Connection

Your e-mail is required to ensure the proper functioning of the Website and its services and we make a commitment not to reveal it to third parties

  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ
PAGODA
  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ

เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก

เข้าสู่ระบบ

  • สมัครสมาชิก
  • ลืมชื่อผู้ใช้?
  • ลืมรหัสผ่าน?

Search

  • หน้าแรก
  • เสียง
  • พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
  • เมื่อดอกไม้ไร้ผึ้งตอม
เมื่อดอกไม้ไร้ผึ้งตอม รูปภาพ 1
  • Title
    เมื่อดอกไม้ไร้ผึ้งตอม
  • เสียง
  • 13272 เมื่อดอกไม้ไร้ผึ้งตอม /aj-visalo/135.html
    Click to subscribe
    • Share
    • Tweet
    • Email
    • Share
    • Share

ผู้ให้ธรรม
พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
วันที่นำเข้าข้อมูล
วันจันทร์, 16 ธันวาคม 2567
ชุด
ธรรมะสั้นๆ ก่อนอาหารเช้า 2567
  • แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [ลองพูดคุยกับ AI ทาง Line]

  • พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 5 กันยายน 2567
    เดี๋ยวนี้อยู่ที่ไหนๆ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ ก็ต้องเจอกับมลภาวะ อันนี้คือสิ่งที่เราต้องเจอ เพื่อแลกกับความสะดวกสบาย และมลภาวะนี้เราก็ทราบดีอยู่แล้วว่า มันก่อปัญหาหลายอย่างกับสุขภาพของเรา ทำให้เกิดโรคมะเร็ง ทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ
    แล้วก็เชื่อว่ามีผลต่อสมองคนเรา มีส่วนทำให้เกิดความจำเสื่อม หรือแม้กระทั่งอารมณ์ เช่นโรคซึมเศร้า
    ตอนนี้เรายังมีความรู้น้อยว่า มลภาวะมันก่อปัญหาให้กับเราอย่างไรบ้าง เพราะว่ามันมีสารใหม่ๆ มีองค์ประกอบใหม่ๆ มาอยู่เรื่อย อย่างเช่น pm 2.5 ตอนนี้ก็เพิ่งรู้ว่า ทำให้เกิดโรคมะเร็งปอดกับคนที่ไม่ได้สูบบุหรี่เลยด้วยซ้ำ
    เดี๋ยวนี้ก็พบว่ามลภาวะไม่ใช่แค่ทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ แต่ว่ามันอาจจะมีผลทำให้เกิดความอดอยากหิวโหย หรือเกิดการขาดแคลนอาหารในวันหน้าก็ได้ อันนี้เป็นข้อมูลใหม่
    แค่ทำให้เกิดความเจ็บป่วยนี่ก็แย่แล้ว ถ้าต่อไปอาหารขาดแคลนนี่ก็ยิ่งลำบากเข้าไปใหญ่เมื่อประชากรมีมากขึ้นเรื่อยๆ
    เมื่อเร็วๆนี้ เขาพบว่ามลภาวะโดยเฉพาะแก๊สที่เกิดจากการเผาไหม้น้ำมันมีส่วนทำให้ผึ้งหรือว่าแมลงไปผสมเกสรน้อยลง
    การผสมเกสรของผึ้ง ของแมลง เช่น มอธ (Moth) นี่สำคัญ เพราะว่าอาหารที่เรากิน 1 ใน 3 หรือ 35% มาจากพืชที่ต้องอาศัยการผสมเกสร และการผสมเกสรเกิดขึ้นได้ก็เพราะสัตว์ เช่น แมลงหรือว่าผีเสื้อ หรือตัวมอธ ซึ่งหากินเวลากลางคืน แต่คราวนี้ผึ้งหรือแมลงเหล่านี้ ถ้าไปเจอมลภาวะ กลิ่นของต้นไม้หรือดอกไม้มันจะเจือจางมาก จนกระทั่งหาต้นไม้หรือหาดอกไม้ไม่เจอ แล้วเขารู้ได้ไง
    เขาทดสอบ เอาแปลง เอาสวนเลือกมา 2 ประเภท
    ประเภทแรก เขาก็จะมีเครื่องปล่อยสารที่ทำให้เกิดมลภาวะ เช่น โอโซน หรือไนโตรเจนออกไซด์ ซึ่งเป็นแก๊สที่ออกมาจากการเผาไหม้ด้วยน้ำมัน มีเยอะตามโรงงานไฟฟ้าหรือว่าจากรถยนต์ เขาปล่อยแก๊สเหล่านี้ในบริเวณสวนที่มีผลไม้ หรือว่าที่จะออกพืชผล แล้วก็เปรียบเทียบกับสวนที่ไม่ได้ปล่อยแก๊สดังกล่าว
    ปรากฏว่าสวนกลุ่มแรกเมื่อเทียบกับสวนกลุ่มที่สองก็พบว่าแมลงไปตอมน้อยลงถึง 70%
    ส่วนดอกไม้ในแปลงกลุ่มแรกมีผึ้งมาตอมน้อยลงถึง 90% เมื่อเทียบกับแปลงอีกกลุ่มหนึ่ง ถ้าผึ้งมาตอมน้อยลง การผสมเกสรก็เกิดขึ้นได้ยาก หรือเกิดขึ้นไม่ได้เลย
    เพราะฉะนั้นแม้ปลูกต้นไม้ไปถึงจะออกดอกแต่ไม่ออกผล อันนี้เป็นการค้นพบที่แม้แต่กระทั่งผู้วิจัยก็ตะลึง เพราะว่ามันมีผลชัดเจน ความแตกต่างมันปรากฏชัดเจนมาก ถ้าแปลงไหนมีแก๊สที่เกิดจากการเผาไหม้น้ำมัน หรือเกิดจากการใช้รถยนต์ การเกิดผลขึ้นมาลดต่ำอย่างฮวบฮาบเลย
    เขาก็พยายามหาเหตุผลว่า ทำไมแมลงจึงไม่ไปตอมแปลงที่มีแก๊ส หรือว่ามลภาวะฟุ้งกระจาย ก็สันนิษฐานเป็นเพราะว่า แก๊สพวกนี้ไปทำให้กลิ่นของดอกไม้เจือจาง ซึ่งผึ้งหรือว่าแมลงหลายชนิดรวมทั้งมอธ มันอาศัยกลิ่นของดอกไม้เป็นตัวนำทาง
    แล้วผึ้งหลายชนิดไวมาก แม้กระทั่งกลิ่นที่ฟุ้งกระจายเป็นกิโลๆ มันก็ยังได้กลิ่น แล้วก็ตามหาต้นตอคือดอกไม้
    พอมันไปตอมเพื่อจะเอาน้ำหวาน มันก็เกิดการผสมเกสรขึ้นมาทำให้เกิดผล แต่พอมีแก๊สพวกนี้ฟุ้งกระจาย กลิ่นของดอกไม้มันก็จะเจือจางลงอย่างรวดเร็ว แล้วก็กระจายไปได้ไม่ไกล เขาพบว่ามันกระจายไปแค่ 1 ใน 3 ของสิ่งที่ควรจะเป็นหรือว่าของปรากฏการณ์ธรรมชาติ
    อันนี้ก็เป็นเรื่องใหญ่ เพราะว่ามลภาวะตอนนี้มันกระจายไม่ใช่แค่ในเมืองหลวงอย่างเดียว แม้กระทั่งในชนบทที่ห่างไกลอย่างบ้านใหม่ที่แถววัดนี้มันก็มีมลภาวะเยอะ
    แต่ก่อนเราคิดว่าเฉพาะยาฆ่าแมลง ยาปราบศัตรูพืชที่มันเป็นอันตราย ต่อพวกผึ้ง ต่อพวกแมลง เช่น ผีเสื้อ ทำให้ล้มตายจนกระทั่งไม่มีตัวผสมเกษร อันนั้นก็อย่างหนึ่ง แต่ถึงแม้ในหลายที่ที่เขาไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ไม่ใช้ยาปราบศัตรูพืชเลย แต่ถ้าเกิดมีการสัญจรด้วยรถยนต์ หรือมีโรงงานอยู่ใกล้ๆ แก๊สที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้น้ำมันก็สามารถทำให้พืชผลทางการเกษตรลดน้อยถอยลง
    คิดดู 35% ของอาหารที่เรากินมันมาจากพืชที่ต้องอาศัยการผสมเกสร ถ้าการผสมเกสรเกิดขึ้นน้อยลง มีดอกก็จริงแต่ไม่มีผล ชาวสวนชาวไร่ก็ขาดทุน แล้วไม่ใช่แค่ชาวไร่ชาวสวนขาดทุน มันยังส่งผลกระทบต่อคนอีกมากมาย รวมทั้งเราซึ่งเป็นผู้บริโภค
    อันนี้ก็เป็นเรื่องที่เราเพิ่งรู้นะว่ามลภาวะนี่มันก่อปัญหาไม่ใช่แค่กับปอด กับหัวใจ กับสมองของเรานะ แต่ว่ายังมีผลต่อท้องเราด้วย ทำให้การอิ่มท้องต่อไปก็จะเกิดขึ้นได้ยาก มันกลายเป็นปัญหาปากท้องเลยทีเดียว ไม่ใช่เป็นเรื่องของโรคภัยไข้เจ็บอย่างเดียว
    เพราะฉะนั้นที่เขารณรงค์กันเพื่อให้ลดการใช้น้ำมัน เป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก เพราะไม่ใช่แค่ช่วยทำให้โลกร้อนมันชะลอตัวลง หรือรุนแรงน้อยลง แล้วมันไม่ใช่แค่ช่วยทำให้สุขภาพกายเราดีขึ้น แต่มันยังมีผลทำให้ความมั่นคงทางอาหารไม่คลอนแคลน
    เดี๋ยวนี้เราก็พูดกันถึงเรื่องความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการที่มีดินฟ้าอากาศเป็นไปอย่างถูกต้องตามฤดูกาล แต่แค่นั้นยังไม่พอ
    พวกผึ้งพวกแมลงก็ต้องสามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ ถ้าการทำมาหากินของมัทรานเกิดสะดุดขึ้นมา ตามหาดอกไม้ไม่เจอ เพราะไม่มีกลิ่น
    ไม่ใช่แค่ผึ้งจะเดือดร้อน หรือแมลงเดือดร้อนเท่านั้น เราก็เดือดร้อน ชาวสวนก็เดือดร้อน ผู้บริโภคก็เดือดร้อน และอาชีพต่างๆ ที่อยู่ระหว่างชาวสวนกับผู้บริโภคนี้อีกเยอะเลยนะก็จะเดือดร้อนตามไปด้วย.

logo

  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • จดหมายข่าว
  • Privacy Policy
  • Terms of Service