พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 4 กันยายน 2567
มีสัตว์ทะเล 2 ชนิดที่คล้ายๆ กัน หลายคนก็แยกไม่ออก ก็คือสิงโตทะเลกับแมวน้ำ มันคล้ายกันมาก นิสัยใจคอคล้ายกัน พฤติกรรมก็คล้ายกัน แต่มันแตกต่างกันหลายอย่าง
สิงโตทะเลมีหู หูเล็กๆ บางทีคนเขาเรียกว่าแมวน้ำมีหู แล้วอย่างที่สองคือว่า ครีบทั้ง 4 ของมันแข็งแรง สามารถจะใช้เพื่อเคลื่อนไหวบนบกได้ และเร็วด้วย คล่องแคล่ว
แมวน้ำก็มีครีบทั้ง 4 เหมือนกัน แต่ว่าพอขึ้นบกแล้วมันก็คลานกระดึ๊บๆ ไม่ค่อยคล่องแคล่วหรือไปได้ไกลเท่าไหร่
แต่ทั้ง 2 ชนิดก็มีนิสัยเหมือนกันอย่างหนึ่งคือกลัวคน ปกติมันก็จะชอบจับกลุ่ม อยู่บนชายหาดคงจะอาบแดด แล้วพอได้เวลาก็ออกไปหากิน หาปลาในทะเล
มีวันหนึ่งมีคนเห็นสิงโตทะเลตัวใหญ่ มันแปลกกว่าตัวอื่น แทนที่จะเกาะกลุ่มอยู่บนชายหาด มันกลับคืบคลานเข้ามาหาคน แล้วก็คืบคลานเข้ามาอย่างรวดเร็วด้วย ข้ามถนนจนถึงร้านค้าริมชายหาด
คนเห็นก็แตกตื่น แล้วก็ประหลาดใจ และดีใจคิดว่ามันเชื่องที่มันมาหาคน มาหาของกินหรือเปล่า หรือมาให้คนเซลฟี่ บางคนก็ถ่ายรูปสิงโตทะเลตัวนี้ แต่มีคนหนึ่งสังเกตว่า มันมีพฤติกรรมที่แปลก สีหน้าแววตาของมันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ สงสัยว่ามันมีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจ มันคงมาหาคนเพื่อให้คนช่วยเหลือ
เขาก็เลยเดินไปที่ชายหาด พอสิงโตทะเลตัวใหญ่นั่นเห็นอย่างนั้นก็รีบคืบคลานนำหน้า พาชายคนนั้นไปที่ชายหาดมีฝูงสิงโตทะเลอยู่เป็นร้อย พอมันเห็นคนก็แตกตื่นลงทะเล
แต่มีสิงโตทะเลตัวหนึ่งมันขยับเขยื้อนลำบากมาก เพราะอะไร เพราะว่ามีแหอวนรัดมันแน่นโดยเฉพาะตรงบริเวณคอ จนคอมันมีบาดแผล ยิ่งมันดิ้นก็ยิ่งรัดแน่น มันพยายามหนีก็หนีไม่ได้ คนที่ตามมาด้วยกัน 2-3 คนก็เลยจับตัวสิงโตทะเลตัวนั้นที่ตัวมันเล็กกว่าสิงโตทะเลตัวที่มาขอความช่วยเหลือจากคนเยอะเลยนะ ตัวที่โตคงเป็นแม่
แล้วพบว่าสิงโตทะเลตัวที่ถูกแหอวนรัดไม่ได้มีตัวเดียว มีถึง 2 ตัวอยู่ใกล้ๆ กัน คนก็ช่วยกันจับแล้วช่วยกันตัดแหอวนจนเชือกขาด พอตัวแรกมันเป็นอิสระก็รีบคืบคลานไปที่ทะเล แต่สักพักมันก็หยุด หยุดทำไม พอเพื่อนตัวที่สองเป็นอิสระ ตัวที่สองก็รีบคืบไปที่ทะเล ตัวแรกนี่รออยู่ พอเพื่อนมาถึงก็ลงทะเลไปด้วยกัน
ส่วนตัวแม่นี้ก็ลงตามไปด้วย สัตว์นี่เวลามันมีความทุกข์บางทีไม่ได้ทุกข์เพราะตัวมันเอง ไม่ใช่ว่าตัวเองเดือดร้อนแต่ว่าลูกเดือดร้อนมันก็พลอยทุกข์ไปด้วย แล้วมันก็รู้ว่ามีแต่คนที่จะช่วยได้ แม้ว่ามันจะกลัวคน แต่ว่ามันก็กล้าไปหาคน อาจจะเป็นเพราะว่า ผู้คนแถวนั้นมีความเป็นมิตรกับสิงโตทะเล มันก็เลยยอมบากหน้าไปขอความช่วยเหลือ ทั้งที่ก็เสี่ยง
อันนี้คล้ายๆ กับเรื่องที่เกิดกับนักประดาน้ำคนหนึ่ง แต่ว่าสัตว์ที่มาขอความช่วยเหลือไม่ใช่สิงโตทะเล แต่เป็นปลาวาฬ เขากำลังสำรวจสัตว์น้ำในทะเลอยู่ดีๆ ก็มีปลาวาฬตัวหนึ่งว่ายเข้ามาหา อันนี้มันผิดวิสัยปลาวาฬ เพราะพวกนี้มันมักจะอยู่ห่างคน แล้วก็ป้วนเปี้ยนอยู่ตรงนั้นแหละ
นักประดาน้ำสงสัยว่าเขาคงจะอยากให้เราช่วยเหลือก็เลยว่ายไปยังทิศทางที่ปลาวาฬตัวนั้นมา พอมันรู้มันก็ว่ายนำเลยนะ ปรากฏว่าไปเจอปลาวาฬตัวใหญ่อยู่กลางทะเล จมน้ำไม่ยอมขึ้นบก ปลาวาฬตัวนี้มันอ้าปาก มันปิดปากหรืองับปากไม่ได้ เพราะว่ามีแหอวนไปติดปากมัน มันเลยปิดปากไม่ได้ แล้วก็คงจะหากินอะไรไม่ได้
แม่คงแสดงให้ตัวลูกรู้ว่าแม่กำลังเดือดร้อน ก็เลยหาทางช่วย ช่วยเอาแหอวนออกจากปาก แต่ช่วยแม่ไม่ได้ก็ต้องไปหาคน ลูกก็ไม่รู้ว่าจะบอกคนยังไงก็ได้แต่ว่ายน้ำอยู่ใกล้ๆ แต่คนจับสัญญาณได้ว่าเขาก็ต้องการความช่วยเหลือ ก็เลยตามไปเจอแม่ที่กำลังเดือดร้อน แล้วก็ตัดเอาเชือกที่พันอยู่รอบปากด้านล่างให้ขาด พอเชือกขาด ตัวแม่ก็งับปากได้แล้ว ดีใจมาก ตัวลูกก็ดีใจ
ระหว่างที่คนตัดเชือกปลาวาฬนี่มันก็ยอม ปกติมันจะกลัวคนแต่มันยอมให้ตัดเชือกตัดแหตัดอวนจนขาด เดี๋ยวนี้มีสัตว์ทะเลที่เดือดร้อนถึงตาย เพราะว่าแหอวนของชาวประมง รวมทั้งเชือกที่ใช้จับปลา หรือว่าตกปลาเยอะมาก
เรื่องที่เล่ามาหลายครั้งก็เป็นเรื่องนี้แหละ ปลาวาฬบ้าง ปลาโลมาบ้าง ติดอวน ติดแหที่ชาวบ้านหรือชาวประมงทิ้งเอาไว้ คิดว่าทะเลเป็นถังขยะ ทิ้งอะไรลงไปก็ได้ แต่ที่ไหนได้มันไปสร้างความเดือดร้อน สิงโตทะเล แมวน้ำ ปลาวาฬ ปลาโลมา เต่า รวมทั้งปลาฉลามจำนวนมากตายเพราะแหอวนที่คนเราทิ้งเอาไว้
สัตว์นี่มันก็อยู่ดีๆ แต่พอมีคนเข้ามาเกี่ยวข้อง แล้วคนก็ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ใช้อะไรใช้เสร็จแล้วก็ทิ้งลงทะเล แทนที่จะกำจัดให้มันถูกวิธี คิดว่ามันไม่เป็นอะไรเพราะทะเลมันกว้าง มหาสมุทรมันใหญ่นะ แต่ที่ไหนได้สัตว์เดือดร้อนมาก
ไม่มีคนนี่สัตว์ก็อยู่สบาย แต่พอมีคนสัตว์ก็เริ่มเดือดร้อนแล้ว ทั้งที่ทุกคนก็ไม่ได้ตั้งใจทำร้ายมัน แต่ว่าก็ยังดีที่สัตว์มันยังรู้สึกว่าคนบางถิ่นบางแห่งเป็นมิตร เวลาเดือดร้อนก็เลยขอความช่วยเหลือ แต่บางทีคนก็จับอาการไม่ถูก จับสัญญาณไม่ได้ก็ไม่สามารถจะช่วยได้
ที่จริงคนเราก็เหมือนกัน บางคนก็มีความทุกข์แล้วเขาไม่รู้จะบากหน้าไปหาใคร ก็อาจจะไปหาคนที่คุ้นเคย แต่ว่าคนที่เข้าไปหาบางทีจับสัญญาณไม่ได้ว่า เขากำลังซึมเศร้า ว่าเขากำลังจะฆ่าตัวตาย เพราะคนเราพอมีอาการแบบนี้ก็ไม่ค่อยอยากจะเปิดเผยตัวชัดเจนนะว่า กำลังซึมเศร้า กำลังคิดฆ่าตัวตาย
แต่ถ้าคนเราจับสัญญาณได้ พยายามให้ความใส่ใจเขาหน่อย พอได้รับความใส่ใจ บางคนเขาก็รู้สึกดีขึ้น เปลี่ยนใจไม่คิดฆ่าตัวตาย แต่จะให้เขามาขอความช่วยเหลือบอกว่าฉันกำลังจะตายแล้ว ไม่ไหวแล้ว บางทีเขาก็ไม่บอก
พวกเราก็ต้องมีความไวในการจับสัญญาณความทุกข์ของผู้คน ถ้าจับสัญญาณได้ก็สามารถจะช่วยเขาได้ ให้ความเป็นเพื่อนกับเขา มันก็ช่วยทำให้เขาใจโปร่งเบา แล้วก็อาจจะได้สติ เปลี่ยนความคิดที่จะฆ่าตัวตาย
เดี๋ยวนี้มีประเภทนี้เยอะมากที่ขอความช่วยเหลือแล้วไม่ได้รับการช่วยเหลือ เพราะอีกฝ่ายจับสัญญาณไม่ได้ อันนี้ก็น่าเสียดาย.