พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้า วันที่ 1 กันยายน 2567
มีสาวชาวฟิลิปปินส์คนหนึ่งมาเที่ยวเมืองไทย แล้ววันหนึ่งก็ไปเที่ยวที่ไอคอนสยาม เดินเที่ยวเดินชมสินค้าอยู่สักพัก ยังไม่ได้ซื้ออะไรก็รู้สึกหิวข้าว ก็เดินไปที่ร้านอาหารในไอคอนสยามนี่แหละ สั่งอาหารแล้วพอจะจ่ายเงินตกใจนะ ไม่เจอกระเป๋าเงิน หาเท่าไหร่เท่าไหร่ก็ไม่เจอ เธอร้อนใจมาก
เพราะว่าในกระเป๋าเงินนั้นมีทุกอย่างยกเว้นโทรศัพท์มือถือ โชคดีนะหรือเป็นเพราะเธอระวังอยู่แล้วก็เลยถ่ายรูปกระเป๋าเอาไว้ แล้วก็เอารูปถ่ายนั้นไปให้เจ้าหน้าที่ที่ไอคอนสยามดูว่า มีใครเจอกระเป๋าใบนี้ไหม ไม่มีใครเจอ หรือเจอแล้วอาจจะไม่ได้เอามาคืน
พอไม่ได้กระเป๋าเธอก็ไปที่ท่าเรือสาทร เพราะว่าก่อนที่จะไปไอคอนสยามนี้ก็นั่งเรือที่ท่าเรือสาทร ไม่แน่ใจว่ากระเป๋าเธอตกระหว่างนั่งเรือหรือเปล่า ปรากฏว่านายท่าเรือนี้บอกว่าไม่มี ไม่เจอ เห็นรูปแล้วบอกไม่มีใครมาเอากระเป๋านี้มาคืนเลย เธอก็หน้าซีดเลยนะ แต่ว่านายท่าเรือนี้เห็นสาวชาวฟิลิปปินส์นี้แล้วก็สงสารนะ ก็เลยควักเงินให้ 200 บาท เป็นค่าเดินทางกลับที่พัก
เธอดีใจมาก ซาบซึ้งใจนะ 200 บาทสำหรับเธอมันก็ไม่ได้เยอะอะไร แต่ว่าก็ประทับใจมาก ที่เขาให้เงินเธอ 200 บาททั้งที่ฐานะของนายท่าก็คงจะไม่ได้ร่ำรวยเท่าไหร่
ครั้นพอนั่งเรือกลับโรงแรม เจ้าหน้าที่ก็ไม่เก็บเงินค่าโดยสารของเธอ เพราะว่ารู้ว่าเธอไม่มีเงิน ที่จริงเธอก็มีเงินนะ 200 บาท แต่เพราะเห็นว่าเธอกำลังลำบากนะ ก็เลยไม่เก็บเงินเลยสักบาทเดียวให้นั่งฟรี เธอก็ซาบซึ้งมากนะ
พอไปถึงโรงแรมเธอก็ตามเลยนะ ติดต่อทางไอคอนสยามว่ามีใครเจอกระเป๋าของเธอไหม ร้อนใจมาก ผ่านไปเป็นคืนก็ไม่เจอ พอรุ่งขึ้นเธอก็ติดตามอีกนะ เรียกว่าไม่ลดละเลย
ปรากฏว่าในที่สุดนี้ทางไอคอนสยามก็แจ้งมาว่า มีคนเจอกระเป๋าของเธอแล้ว ให้มารับได้ที่บริการ Lost & Found ที่ไอคอนสยาม เธอรีบไปเลยนะ ดีใจมาก แล้วก็รู้สึกประหลาดใจว่า ขนาดกระเป๋าเงินนี้หายเป็นวัน 24 ชั่วโมงนี้ก็ยังได้คืน เป็นเรื่องที่เธอประหลาดใจมาก สงสัยที่ฟิลิปปินส์เหตุการณ์แบบนี้คงเกิดขึ้นไม่บ่อย
ที่จริงในเมืองไทยเหตุการณ์แบบนี้ก็เกิดขึ้นไม่บ่อยเหมือนกัน โดยเฉพาะในกรุงเทพ แต่ว่าพอเธอได้รับกระเป๋าเงินคืน เธอก็มีความไม่ใช่แค่ความสุขอย่างเดียว มีความซาบซึ้งใจคนไทยว่า คนไทยนี้มีน้ำใจ มีความเอื้อเฟื้อ แล้วเธอก็เลยเข้าใจว่าทำไมคนต่างชาติถึงอยากมาท่องเที่ยวที่เมืองไทย
อันนี้ก็เป็นประสบการณ์ดีๆ ที่นักท่องเที่ยวคนหนึ่งได้รับจากคนไทย นั่นคือ ความเมตตากรุณา ความเมตตากรุณาของคนไทยนี้ก็เป็นที่รู้จัก นักท่องเที่ยวจำนวนมากก็ได้สัมผัสแล้วก็ซาบซึ้งใจ
แต่ว่ามันจะดียิ่งขึ้นนะถ้าความเมตตากรุณาของคนไทยนี้ เผื่อแผ่ไปถึงคนที่ไม่ใช่นักท่องเที่ยวด้วย คนที่เขาอาจจะลำบากยากจน แต่งตัวปอนปอน แถมไม่ใช่คนไทยด้วย เป็นพม่าบ้าง เป็นลาวบ้าง เป็นเขมรบ้าง หรือเป็นคนไทยแต่ว่าก็ไม่ถูกนับเป็นคนไทย เช่น ชาวเขาคนเหล่านี้เขาอาจจะแต่งตัวไม่เรียบร้อย ไม่เหมือนนักท่องเที่ยว แต่ว่าบางครั้งหรือบ่อยครั้งก็ประสบความยากลำบาก
เพราะฉะนั้น ถ้าเขาได้รับความเมตตากรุณาจากคนไทย ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่นี้ มันก็จะช่วยทำให้เขาเกิดความซาบซึ้ง
จริงอยู่นักท่องเที่ยวเขาแต่งตัวดี เวลาเขาเดือดร้อนมันก็แสดงว่าเขาเดือดร้อนจริง อาจจะไม่เหมือนกับคนยากคนจนที่มาขอเงินเราตามร้านอาหาร หรือตามสถานีรถหมอชิต หรือตามข้างถนน บางคนเจอคงบ่อยเลยมาขอเงินบอกว่าไม่มีค่าอาหาร หรือว่าไม่มีค่ารถกลับบ้าน ลูกป่วย พ่อป่วย หรือบางคนก็เดิมก็มีค่ารถหรอก แต่ว่าโดนล้วงกระเป๋าไป
เวลามาขอเงินเรานี้ บางทีเราหรือบางคนก็ไม่อยากให้ แทนที่จะเป็นประเภทที่ว่าควักเงินให้ทันทีอย่างนายท่าควักเงิน 200 บาทให้กับนักท่องเที่ยวฟิลิปปินส์ คงจะไม่ค่อยเกิดขึ้นเท่าไหร่กับกรณีที่ยกมานี้ เพราะเราอาจจะไม่แน่ใจว่าเขาลำบากจริงหรือเปล่า เขาจะเอาเงินไปซื้อยาไหม หรือเขาจะเป็นพวกสิบแปดมงกุฎหรือเปล่า เพราะเราก็คงเคยโดนหลอกแบบนี้อยู่บ้าง
เพราะฉะนั้น พอเจอเหตุการณ์แบบนี้หลายคนก็ไม่ให้นะ ทั้งที่คนที่เขามาขอเงินเราเขาอาจจะลำบากจริงก็ได้ แต่เนื่องจากเขาแต่งตัวปอนปอน หรือว่าเขาเป็นคนต่างชาติ ไม่ใช่ฝรั่งยุโรปนะ แต่ว่าเป็นเขมร ลาว พม่า เราก็เลยไม่ค่อยจะไว้ใจเท่าไหร่
แต่ถ้ามองในแง่หนึ่ง ก็คือว่า เผื่อว่าเขาเป็นมิจฉาชีพหรือว่าสิบแปดมงกุฎจริงๆเราให้เขาไป 100 บาทนี้ สำหรับเรา 100 บาทมันเล็กน้อยมาก และสำหรับคนเหล่านั้น 100 บาทก็อาจจะเล็กน้อยแต่ถ้าเกิดว่าเขาเป็นคนที่เดือดร้อนจริง 100 บาทของเรานี้แม้จะเล็กน้อยสำหรับเรา แต่ว่ามันยิ่งใหญ่สำหรับเขามากเลย เพราะมันทำให้เขาเกิดความซาบซึ้งประทับใจ
คนเราเวลาเดือดร้อนแล้วมีคนช่วยเหลือนี้ เงินเพียงเล็กน้อยมันมีความหมายต่อจิตใจมาก เรียกว่าบางทีทำให้เกิดความศรัทธาในมนุษย์เลยก็มี หรือว่าเกิดศรัทธาในความดี คือว่าฉันอุตส่าห์ทำความดีมา ตอนนี้ความดีที่ฉันได้ทำก็ส่งผลแล้ว ถึงเวลาเดือดร้อนก็มีคนช่วยเหลือ เกิดศรัทธาในธรรมะ ในความดีมากขึ้น
พอเขาได้ดิบได้ดี หรือว่าเขาลืมตาอ้าปากได้ เขาก็จะหันมาช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนบ้าง
เพราะฉะนั้น เงินที่เราให้กับคนที่เขาเดือดร้อนจริงๆ แล้วเขามาขอเงินเรานี้ โอ้ มันมีค่ามากนะ มันมีความหมายต่อจิตใจของเขา และก็มันจะมาส่งผลดีๆ ต่อคนอื่นๆ อีกมากมาย มันไม่ใช่แค่เงิน 100 บาทที่ซื้ออาหารได้แค่ 2 จาน แต่มันมีความหมายมากกว่านั้น แต่มันก็เป็นเรื่องที่เราต้องเสี่ยงนะ เพราะว่าเราไม่รู้เขาเดือดร้อนจริงหรือเปล่าหรือเขามาหลอกเงินเรา
แต่อย่างที่บอกถึงแม้เราถูกหลอก เงิน 100 บาทของเรามันเล็กน้อยมาก แต่ถ้าเขาเดือดร้อนจริง 100 บาทของเรานี้มันยิ่งใหญ่มากเลยนะ ไม่ใช่สำหรับสำหรับเราแต่สำหรับเขานะ อย่างนักท่องเที่ยวฟิลิปปินส์คนนี้ก็ซาบซึ้งมาก แกเขียนโพสต์ข้อความ เรียกว่ายกย่องคนไทยทั้งประเทศเลยนะ ว่ามีน้ำใจงาม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เจอกระเป๋าเงินตกก็ไม่เก็บเอาเข้าตัวแต่เอามาคืน
เขามีความสุขมากเลย ไม่ใช่แค่เพราะได้เงินคืนนะ แต่เพราะได้รับความเมตตากรุณา ได้รับความเอื้อเฟื้อ แล้วก็ได้รับสิ่งที่บันดาลใจ เพราะเชื่อว่าต่อไปนี้นักท่องเที่ยวคนนี้เวลาเจอใครที่เดือดร้อน ก็คงจะไม่อยู่เฉยนะ ก็คงจะช่วยเหลือ เพราะว่าได้รับแรงบันดาลใจจากคนไทยซึ่งเขาก็ไม่รู้จักนะ แต่ว่าความดีที่เขาได้รับนี้มันส่งผลกว้างไกลมาก อันนี้ก็เป็นธรรมชาติของคุณความดี
เพราะฉะนั้น เวลาเราเจอเงินตก 100 บาทของเราถ้าเกิดว่าเขาเดือดร้อนจริงนี้มันมีความหมายต่อจิตใจของเขา และก็ต่อคนอื่นอีกมากมายที่จะได้อานิสงส์จากความดีของเขา.