พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 28 สิงหาคม 2567
อย่างที่รู้กัน เดี๋ยวนี้เรามีชีวิตที่สะดวกสบายขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ความสะดวกสบายส่วนหนึ่งก็ได้มาจากไฟฟ้า น้ำประปา อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญมากที่เราอาจจะมองข้ามไป เพราะมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้วก็คือ พลาสติก
สมัยที่พลาสติกยังราคาแพง หรือว่ายังไม่มีพลาสติก บางคนอาจจะนึกออกคือ ตอนเด็กๆ จะไปซื้ออาหารก็ต้องพกปิ่นโตไป มิฉะนั้นอาหารหรือของที่ซื้อก็ต้องห่อด้วยใบตอง ซึ่งก็ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ แต่พอพลาสติกมีการค้นพบ แล้วก็ราคาถูก เวลาไปไหนมาไหนไม่ต้องพกอะไรไปเลย ไปมือเปล่า จะซื้ออะไรเขาก็ใส่ถุงพลาสติก หรือห่อด้วยพลาสติกให้เรา
ถุงพลาสติกหรือว่าถุงที่ใช้ห่อพวกก๋วยเตี๋ยว มันทำให้สะดวกมาก ยังไม่นับโฟม และพลาสติกก็ทำให้อะไรๆ ก็ราคาถูกแล้วก็สะดวกขึ้น รองเท้าเดี๋ยวนี้พลาสติกก็มีส่วนสำคัญมาก เครื่องใช้ไฟฟ้าแทบทุกอย่างที่เราใช้ต้องมีพลาสติกเป็นส่วนประกอบสำคัญ แม้กระทั่งหม้อต้มน้ำ ไมโครเวฟ โทรทัศน์ โทรศัพท์ แม้แต่บ้านถ้าไม่มีพลาสติกลำบาก เก้าอี้ เฟอร์นิเจอร์ไม่รู้จะไปหามาจากไหน เพราะไม้ราคาแพง เหล็กก็ราคาแพง
การมีพลาสติกมันทำให้ชีวิตเราสะดวกสบายขึ้นกว่าคนรุ่นปู่รุ่นย่ามาก แต่เดี๋ยวนี้เราก็รู้แล้วว่า พลาสติกมันสร้างปัญหาไม่ใช่น้อยเลย โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดขึ้นกับธรรมชาติ การผลิตพลาสติกมันก็ทำให้เกิดมลภาวะทางอากาศ พลาสติกที่ทิ้งแล้วก็ทำให้เกิดขยะ ทำให้ดินเสีย
แถมไปอุดท่อน้ำ ทำให้เกิดน้ำท่วมได้ง่าย เดี๋ยวนี้กรุงเทพฯ ฝนตกหนักเมื่อไหร่ น้ำก็ท่วมเมื่อนั้น เพราะว่าขยะพลาสติกไปอุดท่อระบายน้ำ เป็นกันทั่ว และไม่ใช่มีผลเสียต่อธรรมชาติอย่างเดียว เดี๋ยวนี้เราพบว่ามันมีอันตรายต่อร่างกายของเราด้วยฃ
เดี๋ยวนี้ก็พบว่าร่างกายของเรา อวัยวะทุกส่วนเลยมีพลาสติกปะปนอยู่ เขาเรียกว่าไมโครพลาสติกหรือพลาสติกจิ๋ว ขนาดเล็กแต่ใหญ่กว่า pm 2.5 เขาพบว่าไม่ว่าอวัยวะใด เช่น ปอด อวัยวะสืบพันธุ์ รก อัณฑะ มดลูก ตับ ไต เข่า ศอก เส้นเลือดเรียกว่าทุกส่วนเลยที่ประกอบเป็นตัวเรา มีไมโครพลาสติกหรือว่าพลาสติกจิ๋วปะปนอยู่ และล่าสุดก็พบว่า แม้แต่สมองของเราก็มีพลาสติกจิ๋วปะปนอยู่ แล้วเยอะด้วย
คนที่ค้นพบนี้ก็ตกใจมากเพราะพลาสติกที่มีอยู่ในสมองเรามันมากเป็น 10 หรือ 20 เท่าของพลาสติกที่สะสมในอวัยวะส่วนอื่น ไม่มีอวัยวะใดที่สำคัญเท่ากับสมอง แต่ว่าพลาสติกจิ๋วมันดันไปสะสมอยู่ในสมองคนเรามากเป็น 10 เท่า 20 เท่า คิดเป็นน้ำหนักประมาณ 0.5% ของน้ำหนักสมองของคนเรา อันนี้เขารู้ได้จากการที่ชันสูตรหรือว่าศึกษาร่างของคนตาย และพบว่าทุกรายเลยมีพลาสติกจิ๋วสะสมอยู่ในร่างกาย รวมทั้งในสมอง
แล้วก็ยังศึกษาพบว่า คนที่ตายเพราะโรคความจำเสื่อม เช่น อัลไซเมอร์มีพลาสติกจิ๋วอยู่ในสมองเป็น 10 เท่าของคนปกติ คนปกติคือคนที่ยังไม่เป็นโรคอัลไซเมอร์ แต่คนปกติก็มีพลาสติกจิ๋วสะสมอยู่ในสมองอยู่แล้วไม่ใช่น้อย แต่ว่าคนที่ตายเพราะโรคความจำเสื่อมหรืออัลไซเมอร์มีพลาสติกจิ๋วอยู่ในสมองมากเป็น 10 เท่าของคนที่ไม่ไม่ป่วยด้วยโรคนี้
มันแสดงให้เห็นถึงอันตรายที่พลาสติกจิ๋วมีต่อร่างกายคนเรา แล้วต่อลูกของเราด้วย เพราะพบว่าน้ำอสุจิก็มีพลาสติกจิ๋วปะปนอยู่ มดลูก อัณฑะ มีหมด และพบว่าปริมาณพลาสติกจิ๋วในร่างกายทุกวันนี้มากกว่าเมื่อ 8 ปีก่อนหลายเท่าถึง 50% ก็เป็นการเติบโตสะสมที่เร็วมาก
ตอนนี้ยังไม่พบชัดเจนว่า พลาสติกจิ๋วนี้มันมีโทษต่อร่างกายเราอย่างไรบ้าง นอกจากการสันนิษฐาน เช่น สันนิษฐานว่ามันจะมีผลต่อสมอง เพราะว่าคนที่ป่วยและตายด้วยโรคความจำเสื่อมมีพลาสติกอยู่ในสมองเยอะมากเป็น 10 เท่าของคนปกติ
แล้วเขาก็ศึกษาจากสัตว์ที่มีพลาสติกอยู่ในร่างกายแล้วตายเพราะมะเร็งบ้าง ตายเพราะหลอดเลือดหัวใจบ้าง ก็อนุมานได้ว่าคนเราก็คงจะเจ็บป่วยเพราะพลาสติกจิ๋วเหมือนกัน ตอนนี้เขาบอกว่ามันเป็นเรื่องที่น่าวิตกมาก ทำให้จำเป็นต้องกวดขันเรื่องพลาสติกกันให้มากขึ้น เช่น ในส่วนบุคคล เวลาจะกินน้ำ กินน้ำประปาจะดีกว่าน้ำที่บรรจุขวด วัดเราตอนนี้ก็ส่งเสริมให้กินน้ำที่กรองจะดีกว่าน้ำบรรจุขวด ใช้ไมโครเวฟก็ต้องระวัง รวมทั้งการลดใช้ถุงพลาสติก
เรื่องนี้จะเป็นปัญหาที่ทั่วโลกต้องออกมาตรการทำกันให้พร้อมเพรียง เพราะไม่เช่นนั้นสุขภาพคนจะเลวร้ายลงมาก ข่าวพวกนี้ทำให้เราเห็นว่า ความสะดวกสบายที่เราได้จากถุงพลาสติก มันไม่ได้มาเปล่าๆ ต้องแลกกับอะไรบางอย่าง หรือพูดอีกอย่างก็คือว่าความสะดวกสบายที่มากับถุงพลาสติก มันมีอะไรบางอย่างพ่วงติดมาด้วย ซึ่งไม่ดี ซึ่งเป็นโทษ
แล้วไม่ใช่เฉพาะถุงพลาสติก ก็รวมถึงความสะดวกสบายทั้งหมดเลยที่เราได้รับ ให้เราตระหนักว่าไม่มีความสะดวกสบายใดที่ได้มาฟรีๆ เราต้องแลกกับอะไรบางอย่างที่สำคัญ หรือพูดอีกอย่างก็คือว่า ความสะดวกสบายที่เราได้มาจะมีโทษบางอย่างพ่วงติดมาด้วย
ไม่ใช่เฉพาะพลาสติกอย่างเดียว รถยนต์ก็ดูเหมือนว่าทำให้เรามีเวลามากขึ้นเพราะว่าใช้เวลาเดินทางน้อยลง แต่ดูดีๆ มันทำให้เราเสียเวลามากขึ้นกับการหาเงินเพื่อมาซื้อรถ เพื่อมาซื้อน้ำมัน เสียเวลากับการดูแล เสียเวลากับการหาที่จอดรถ
เอาเวลาที่เสียไปที่เกี่ยวกับรถมาหักลบกับเวลาที่ประหยัดจากจากการใช้รถ หรือเวลาที่ได้เพิ่มจากการใช้รถ เผลอๆ เราเสียเวลาเพราะรถมากกว่าเวลาที่ประหยัดจากการใช้รถเสียอีก และนอกจากนั้นรถก็ยังทำให้เกิดมลภาวะมากมาย ทำให้เกิดปัญหาโลกร้อนอย่างที่พูดกัน แล้วอีกอย่างหนึ่งมักจะบอกว่า มีรถมันสบายคือไม่เหนื่อย
แต่ความไม่เหนื่อยหรือความสบาย มันก็พ่วงโทษติดมาด้วย เพราะว่าพอสบายมากไปเดี๋ยวโรคหัวใจก็ถามหา โรคมะเร็งก็ถามหา เดี๋ยวนี้โรคที่เกิดจากความสะดวกสบายมันทำลายชีวิตคนปีหนึ่งๆ จำนวนมากทีเดียว โรคหัวใจ โรคเบาหวาน หรือแม้กระทั่งโรคที่เกิดจาก PM 2.5 เพราะว่าอยากใช้ชีวิตในเมืองที่มันสะดวกสบาย
โทรศัพท์มือถือก็เหมือนกัน โทรศัพท์มือถือทำให้เราสะดวกสบาย จะติดต่อใครก็ติดต่อสะดวกโดยที่ไม่ต้องออกจากบ้าน แต่ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้มิจฉาชีพเข้าถึงเราได้สะดวกขึ้นโดยที่ไม่ต้องปีนรั้วบ้านของเราเพื่อมาขโมยของ เขาก็อยู่บ้านของเขา และเขาก็สามารถจะขโมยเงินของเราได้
ในแง่หนึ่งการโอนเงินออนไลน์ก็สะดวกไม่ต้องไปธนาคาร แต่ว่ามันก็เปิดช่องให้พวกมิจฉาชีพมาล้วงเอาเงินของเราจากธนาคารไปได้สะดวกเหมือนกัน และล้วงไปได้เยอะ หมดบัญชีเลยก็ทำได้
เพราะฉะนั้นความสะดวกสบายที่เราได้รับแต่ละอย่างๆ อย่าไปยินดีเพลิดเพลินกับมันมาก ใคร่ครวญให้ดี ก็จะรู้ว่าไม่มีความสะดวกสบายอะไรที่ได้มาฟรี เราต้องจ่ายต้องแลกกับอะไรบางอย่าง ความสะดวกสบายที่เราได้รับ มันจะพ่วงเอาสิ่งไม่ดีติดมาด้วยเสมอ และเป็นแพ็กเกจด้วย แต่คนไม่ค่อยสังเกต คนไม่ตระหนัก มัวเพลิดเพลินยินดีกับความสะดวกสบาย
ไปไหนมาไหนนั่งรถก็สบายดี ไม่เหนื่อย แต่หารู้ไม่ว่าความสะดวกสบายแบบนั้น มันทำให้เราป่วยด้วยโรคต่างๆ มากขึ้น แล้วก็ตายเร็วได้ง่ายขึ้นด้วยทั้งโรคมะเร็งบ้าง โรคหัวใจบ้าง.