พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 25 สิงหาคม 2567
มีผู้ชายคนหนึ่ง กำลังดำน้ำอยู่ในทะเล เพราะว่ากำลังศึกษาเรื่องพฤติกรรมของสัตว์น้ำ เพลินกับการสังเกตุพฤติกรรมของปลานานาชนิด จนไม่ได้ระแวงสงสัยเลยว่ามีอะไรอยู่ข้างหลังตัวเอง มารู้อีกทีก็เพราะว่ามันมีอะไรมาดุนหลังของตัว
เหลียวกลับไปมอง ปรากฏว่าเป็นปลาโลมา ปลาโลมานี้มาดุนหลังของเขา ทีแรกเขานึกว่ามันคงอยากจะมาเล่นกับเขา เพราะปลาโลมานี้เขาไม่ค่อยดุเท่าไหร่ เป็นมิตรกับคน ปลาโลมาตัวนี้พอดุนหลังเขาเสร็จ ก็อยู่นิ่งๆ นะ ไม่ได้ทำท่าจะเข้ามาเล่นด้วย แล้วมันก็มองตาเขา สักพักมันก็ดำดิ่งลงไป
เขาเห็นผิดสังเกต มีอะไรบางอย่าง มันทำให้เขาว่ายน้ำดิ่งลงไปตามปลาโลมา พอไปถึงพื้นทะเลปรากฏว่า มีปลาโลมาอีกตัวหนึ่งถูกตาข่ายของชาวประมงมาพันตัว ไปไหนไม่ได้ เขารู้เลยว่านี้อันตรายแล้วเพราะว่าปลาโลมานี้มันต้องขึ้นมาหายใจอยู่เป็นระยะ ๆ มันไม่มีเหงือกแบบปลาทั่วไป ถ้าอยู่ในน้ำนานเกินไปก็อาจจะขาดใจตายได้ และนี่ก็ไม่รู้ว่าอยู่ในน้ำนี้นานเท่าไหร่แล้ว เพราะว่าตาข่ายมันรัดเอาไว้
เขาก็เลยต้องรีบนะ รีบขึ้นไปที่ผิวน้ำเพราะว่าลูกสาวเขาขับเรือลอยคออยู่ใกล้ๆ บอกลูกสาวว่าเอามีด เอากรรไกรมา เพราะว่าเขาไม่มีอะไรติดตัวเลย ลูกสาวก็ส่งกรรไกรส่งมีดมาให้ แล้วเขาก็รีบดำลงไปเลย ปรากฏว่าสามารถตัดตาข่ายได้ทันเวลา พอปลาโลมาเป็นอิสระ มันก็รีบผุดขึ้นมาเลย อีกตัวหนึ่งก็ดีใจมาก
และในเวลาไม่นานปรากฏว่าปลาโลมาตัวที่ถูกตาข่ายมัดเอาไว้นี้ มันก็ออกลูก มันท้อง มันใกล้จะคลอดแล้ว และที่เขาสามารถช่วยปลาโลมาได้นี้ไม่ใช่แค่ตัวเดียว แต่สองตัวนะ ตัวแม่กับตัวลูกที่อยู่ในท้อง โอ้ ดีใจมากเลย ทั้งพ่อทั้งแม่ดีใจที่มีลูกคลอดออกมา และคนที่ไปช่วยนี้ทั้งพ่อและลูกก็ดีใจนะที่ได้ช่วยปลาโลมา
เรื่องคนช่วยปลาโลมานี้เราก็เคยได้ยินอยู่ แต่ที่มีบ่อยนี้ก็คือปลาโลมาช่วยคน มีผู้ชายคนหนึ่งเล่นน้ำอยู่กลางทะเล ปรากฏว่าจู่ ๆ ก็หายไป เพื่อนก็ตามแต่หาไม่เจอ อันนี้เป็นเรื่องเลยต้องไปเรียกยามรักษาการหรือยามชายฝั่งนี้มาช่วยหา หาไม่เจอก็ต้องใช้เรือ เป็นเรือกู้ภัยตามหาเป็นชั่วโมง ๆ ก็ไม่เจอ
จนกระทั่งใกล้จะค่ำแล้ว ปรากฏว่าตรงจุดที่มันห่างจากชายคนนั้นลงว่ายน้ำ ประมาณ 7-8 กิโล มียามรักษาการเห็นฝูงปลาโลมา 4-5 ตัวมาอยู่บนผิวน้ำ และคล้ายๆ กับมาวนอยู่รอบๆ ถ้าไม่สังเกตก็ไม่เห็นนะเพราะว่าทะเลมันกว้าง ยามชายฝั่งก็เลยเข้าไปดูใกล้ ๆ เพราะว่าอันนี้ก็เป็นพฤติกรรมของปลาโลมาที่ไม่เป็นธรรมชาติ
พบว่ารอบ ๆนั้นที่เป็นปลาโลมาฝูงนั้น มีคนลอยคออยู่กลางทะเล ก็คน ๆ นั้นแหละที่ถูกใคร ๆ กำลังตามหา ไม่รู้ว่าไปลอยคออยู่กลางทะเลไกล ๆ อย่างนั้นได้อย่างไร และทำท่าจะแย่แล้วเพราะว่าคนเราอยู่กลางทะเลนาน ๆ ก็ไม่ไหวนะ ถึงแม้ว่าจะเป็นคนที่แข็งแรง ก็เลยพากันช่วยคน ๆ นั้นกลับขึ้นฝั่งและก็ทำการปฐมพยาบาล
ก็กลายเป็นว่าคนนั้นรอดตาย รอดตายเพราะปลาโลมาเขามาช่วยเอาไว้ ปลาโลมานี้เขารู้นะเวลาคนกำลังเดือดร้อน แต่ว่าเขาก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไร ก็เลยเพียงแค่ว่าว่ายหรือวนอยู่รอบ ๆ คอยช่วยรักษาความปลอดภัยให้ เพราะอาจจะมีฉลามมา และขณะเดียวกันมันก็เป็นสัญญาณด้วยนะ เพราะว่าพอปลาโลมาหลาย ๆ ตัววนอยู่รอบ ๆ นี้ แสดงว่าต้องมีอะไรซักอย่างอยู่กลางวงนะ ก็คือคนที่กำลังต้องการความช่วยเหลือนั่นเอง
อันนี้ไม่ใช่ความบังเอิญที่ปลาโลมาต้องการช่วยคน รู้ว่าคนกำลังเดือดร้อน คนช่วยปลาโลมาและปลาโลมาก็ช่วยคนนี้ เป็นความสัมพันธ์ที่งดงามมาก ที่จริงธรรมชาตินี้ก็เกื้อกูลต่อคนมาก และก็สมควรที่คนจะเกื้อกูลต่อธรรมชาติ
แต่ทุกวันนี้ คนเราไม่ได้ตระหนักเลยว่า ธรรมชาตินี้มีคุณกับเราอย่างไร เราพากันทำลายธรรมชาติ ตอนนี้มันถึงเวลาแล้วนะที่เราจะต้องปรับความสัมพันธ์ของเรากับธรรมชาติใหม่ เนื่องจากตระหนักว่าธรรมชาติช่วยเรา เกื้อกูลต่อเรา และเราควรจะเกื้อกูลต่อธรรมชาติ ถ้าธรรมชาติเริ่มย่ำแย่นี้เราต้องช่วยกันฟื้นฟู นอกจากช่วยกันรักษาแล้ว
เมื่อวานนี้ได้พูดถึงแร้ง ที่มันกำลังจะสูญพันธุ์นี้เพราะว่าคนไปทำร้ายเขาโดยไม่รู้ตัว ทำร้ายโดยไม่ตั้งใจ หลายแห่งหลายที่นี่เขาก็พยายามฟื้นฟูนะ พาแร้งกลับคืนมาสู่ธรรมชาติ อย่างห้วยขาแข้งนี้ แต่ก่อนก็มีแร้งเยอะ แต่ตอนหลังนี้แร้งพากันตาย ตายเพราะยาเบื่อ ยาเบื่อจากไหน ยาเบื่อจากที่คนนี้เอามาสอดมาแทรกไว้ในซากของเก้งเพื่อมาเป็นเหยื่อล่อเสือ
วิธีการที่จะจับเสือนี้โดยที่ทำให้ไม่มีริ้วรอยเป็นรูเพราะรูกระสุนนี้ ก็คือใช้เก้งที่ผสมยาเบื่อเอาไว้ เพราะว่าคนต้องการหนังเสือที่มันไม่มีรูกระสุน หนังเสือที่ไม่มีรูกระสุนนี้จะมีราคาดี เขาก็เลยหาวิธีจับเสือโดยใช้เก้งนี้ ที่เอาซากของมันมาผสมยาเบื่อ
แต่ว่าก่อนที่เสือจะมากินซากเก้ง แร้งมากินเสียก่อน พอมากินก็โดนยาเบื่อของคนนี้แหละตาย พอตายเสร็จ ต่อไปพอมันมีซากสัตว์มันก็จะไม่มีตัวกำจัดซากสัตว์ที่รวดเร็วเหมือนแร้งแล้ว ซากสัตว์เหล่านั้นก็กลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค สัตว์มากินก็ติดเชื้อตาย เหมือนคนเราเวลากินอาหารที่ไม่ได้ปรุงสุกนี้ สุดท้ายก็ป่วย สัตว์ในป่านี้มันป่วยตายเพราะว่ากินซากสัตว์ที่เป็นแหล่งเพาะเชื้อ ธรรมชาติที่ห้วยขาแข้งนี้เสียสมดุลไปเลย
ตอนหลังหลาย ๆ คนที่รักธรรมชาติ เขาก็อยากจะฟื้นฟูสมดุลธรรมชาติขึ้นมา ทำยังไง? วิธีหนึ่งก็คือเอาแร้งมาปล่อยให้คืนสู่ธรรมชาติ มูลนิธิสืบนาคะเสถียรนี้เป็นกำลังสำคัญนะ ในการพาแร้งที่เลี้ยงไว้ในกรง เลี้ยงให้แข็งแรงแล้วก็พาไปปล่อยในธรรมชาติ ต้องฝึกปรือนะเพราะว่าแร้งที่เลี้ยงนี้มันยังไม่ค่อยรู้จักช่วยตัวเองในธรรมชาติสักเท่าไหร่
ก็เป็นเรื่องยากมาก กว่าแร้งจะกลับคืนสู่ธรรมชาติและเลี้ยงตัวเองได้ ล่าสัตว์กินเองได้ ตอนนี้ก็เริ่มมีแร้งกลับคืนสู่ห้วยขาแข้งแล้ว และก็หวังว่าอีกไม่นานมันจะทำให้ธรรมชาติที่ห้วยขาแข้งนี้ฟื้นฟูกลับมาเป็นสมดุล
อันนี้ก็เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆที่เราควรทำ นั่นคือ การทำให้ธรรมชาตินี้กลับคืนมาอย่างสมดุล ธรรมชาติตอนนี้เกื้อกูลเราเยอะจนกระทั่งกำลังย่ำแย่แล้ว เราก็ต้องเกื้อกูลธรรมชาติตามกำลังของเรา ปลูกต้นไม้ รักษาป่า หรือว่ารักษาสมดุลของธรรมชาติเอาไว้ อันนี้เป็นสิ่งที่เราต้องทำนะ เพื่อให้โลกนี้กลับมาปลอดภัยต่อมนุษย์และสัตว์นานาชนิดเหมือนเดิม.