พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 1 สิงหาคม 2567
เทศกาลโอลิมปิกผ่านไปแล้วเกือบอาทิตย์ มีหลายรายการมากที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจ สนุกสนานให้กับผู้ชม แต่ก็มีบางรายการที่สร้างความสะเทือนใจให้กับคนดูทั่วโลกเลย
เมื่อ
2- 3 วันก่อนมีการแข่งยูโดหญิง ไม่ใช่รอบชิงชนะเลิศ แต่ก็เป็นรอบลึกๆ รอบ 16 คนสุดท้าย ระหว่างนักกีฬาญี่ปุ่นชื่ออูตะ อาเบะ กับนักกีฬาอุซเบกิสถาน อาเบะเป็นเต็งหนึ่งเพราะว่าได้แชมป์โอลิมปิกมาครั้งก่อน แล้วยังได้แชมป์โลก 4 สมัย เรียกว่าดีกรีสูงมาก
แต่ปรากฏว่าพอเล่นไปๆ อาเบะก็โดนคู่แข่งจับตัวทุ่มหลังแตะพื้นก็เลยแพ้ทันทีเลย ท่านี้ในวงการเขาเรียกว่าท่าอิปปง เป็นท่าพิฆาต ถ้าถูกทุ่มแล้วหลังแตะพื้นก็แพ้ทันที ไม่เคยเกิดขึ้นในการแข่งขันระดับสูงระดับโลก หรือยิ่งโอลิมปิกแล้ว ไม่ค่อยมีใครที่แพ้ด้วยท่านี้ แล้วยิ่งไม่น่าจะเกิดขึ้นกับนักกีฬาเต็งหนึ่งที่เป็นแชมป์โอลิมปิกสมัยที่แล้ว แล้วก็แชมป์โลก 4 สมัยอย่างอาเบะ
พอถูกกรรมการจับแพ้ อาเบะนี้งงเลย เรียกว่าช็อกไปเลย มันเป็นไปได้ยังไง แพ้หนักแล้ว มาแพ้ด้วยท่าอิปปงนี้มันยิ่งแล้วใหญ่ พอลงจากสังเวียนเธอก็ไปกอดโคชแล้วก็ร้องไห้ ร้องเสียงดังเลย มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาแต่เป็นการกรีดร้อง แล้วสุดท้ายก็ทรุดตัวลง ร้องเสียงลั่นอยู่นานเลย กว่าเธอจะเดินกลับเข้าห้องพักได้ก็นาน แล้วก็ไม่ยอมให้สัมภาษณ์ เพราะว่าไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะพูดอะไรได้
คนดูเห็นแล้วก็สงสารสะเทือนใจ มันเป็นน้ำตาของแชมป์ที่ไม่คาดว่าจะต้องตกรอบด้วยท่าพิฆาตแบบนี้ เราดูเราก็สะเทือนใจ แต่ว่าก็ควรจะได้บทเรียนจากเหตุการณ์นี้ ก็คือว่าไม่มีอะไรที่แน่นอน อะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้ คนที่เป็นแชมป์ระดับโลกอาจจะพลาดท่าเสียทีด้วยท่าที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้
จากที่มีแนวโน้มว่าจะชนะแน่ก็กลับกลายเป็นแพ้ แล้วตกรอบไป เรียกว่าอะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ ท่าที่จะเรียกว่าเป็นท่าที่ง่ายก็คงไม่ใช่ แต่ว่าเป็นท่าที่มันไม่ค่อยเกิดขึ้นกับนักกีฬาระดับโลก แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว
อันนี้ก็เป็นข้อเตือนใจเรา หรือเป็นการย้ำเตือนว่า ไม่มีอะไรที่แน่นอน อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้
คนที่ความจำดีวันดีคืน อาจจะหลุด จำบางเรื่องไม่ได้ ลืมบางเรื่องที่สำคัญ แม้กระทั่งลืมลูกก็มี แม่ที่รักลูกมากแต่วันดีคืนดีก็ลืมลูก ทิ้งลูกไว้บนรถ ตัวก็ออกไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า แบบนี้ก็มี
คนที่เขียนเก่งแล้วมันก็เขียนไม่ออก ไม่ออกยาวเลย หรือคนที่พูดเก่ง แต่วันดีคืนดีก็พูดไม่ออก หรือพูดผิดๆ ถูกๆ มันเกิดขึ้นได้เสมอ แล้วมันก็เป็นการตอกย้ำอย่างหนึ่งว่า ไม่มีอะไรที่สามารถยืนยันได้แน่นอนว่า จะไม่เกิดขึ้น
อันนี้น่าจะมาสอนเตือนพวกเรา หรือสอนเตือนเรากันเองว่า เวลาเราเจอเหตุการณ์บางอย่าง บางคนจะบอกว่า มันไม่มีทางเกิดขึ้นกับฉันได้หรอก ไม่มีวันจะเกิดขึ้นกับฉันอย่างแน่นอน การพูดเช่นนี้ถือว่าประมาท เพราะว่าอะไรที่ยังไม่เกิดขึ้นกับเรา หรืออะไรที่ยังไม่ได้เห็นกับตานี่ไม่สามารถจะยืนยันว่าจะไม่เกิดขึ้นกับเราแน่นอน 100 %
พูดแต่เพียงว่า โอกาสที่จะไม่เกิดขึ้นกับเรามีสูงถึง 90% แต่ถ้าคิดว่าแน่นอน 100 % จะไม่เกิดขึ้น ถ้าคิดเช่นนี้ถือว่าประมาท เพราะว่าถ้ามันยังไม่เกิดขึ้นก็ยังบอกไม่ได้ว่า แน่นอน 100 % บอกได้แต่เพียงว่าโอกาสจะไม่เกิดขึ้นนี่สูงถึง 90% หรือ 95% หรือ 99% ก็ได้
เพราะเราก็เห็นมากมาย โดยเฉพาะจากกีฬานัดสำคัญๆ บางทีเต็งหนึ่งก็ตกรอบส่วนที่ไม่อยู่ในสายตาของใครกลับได้เป็นที่หนึ่งอย่างเมื่อ 20 ปีก่อน ทีมกรีซไม่อยู่ในสายตาใครเลยก็ได้เป็นแชมป์ยูโร เขาบอกว่าโอกาสเกิดขึ้นแบบนี้แค่หนึ่งในร้อย หรือหนึ่งในพัน แต่มันก็เกิดขึ้นได้ เจ้าภาพโปรตุเกสซึ่งใครๆ บอกว่าชัวร์ได้เป็นแชมป์แน่นอน ปรากฏว่าไม่ได้แชมป์
คำว่าแน่นอน 100 % มันยังพูดไม่ได้ ถ้ามันยังไม่เกิดขึ้นต่อเมื่อเกิดขึ้นแล้วจึงบอกได้ว่า แน่นอน 100 % บางคนเห็นคนเมาเหล้าก็บอกว่า ไอ้นี่มันโง่ฉิบหายเลย กินเหล้าแต่โดนเหล้ากิน พูดด้วยท่าทีเหยียดหยามเหมือนกับจะบอกว่า ไอ้แบบนี้ไม่เกิดขึ้นกับฉันหรอก ปรากฏว่าไม่กี่ปีต่อมาติดเหล้า ติดเหล้าเมามาย สุดท้ายก็ตายเพราะเหล้า คนที่เคยมั่นใจว่า ฉันไม่มีวันติดเหล้าหรอก ฉันไม่โง่เหมือนกับไอ้หมอหรอก
มีเยอะเลย บางคนเป็นพระดูถูกคนที่กินเหล้า แต่พอสึกออกไป เมา ตายเพราะเหล้าก็มี รถชนตายเพราะเมาเหล้าก็มี เพราะฉะนั้นอะไรที่เราคิดว่ามันจะไม่เกิดขึ้นกับเรา หรือเราจะไม่ทำอย่างนั้นอย่างเด็ดขาด อย่าเพิ่งตายใจ ถึงแม้ว่ามันจะห่างไกลจากเราตอนนี้ แต่ว่าใครจะรู้ อยู่ไปๆ เรากลับเดินเข้าหามันก็ได้ เหมือนคนที่เห็นคนติดพนันติดยา แล้วดูถูกว่าพวกนี้มันโง่ สุดท้ายกลับกลายเป็นคนติดเหล้าติดการพนัน ติดยาก็มี
บางคนรังเกียจผู้ชายที่ตบเมีย มันทำร้ายเมียได้ไง ทำร้ายคนรักได้ยังไง แต่ผ่านไปไม่นานตัวเองเป็นเอง เผลอๆ ตัวเองไปทำร้าย หรือลงมือฆ่าเลยก็มี
ฉะนั้นอะไรที่ยังไม่เกิดขึ้นกับเรา หรือเรายังไม่ได้ทำนี่ อย่าเพิ่งมั่นใจว่ามันจะไม่เกิดขึ้นกับเรา หรือเราจะไม่ทำอย่างนั้นอย่างแน่นอน 100 % เพราะว่าคนเรานี่มันกลายเป็นคนใหม่ได้เสมอ ดีกว่าเดิมก็ได้ เลวกว่าเดิมก็ได้ ตั้งอยู่ในความไม่ประมาทดีกว่าว่า มันอาจจะเกิดขึ้นได้
แล้วก็อย่าทำแค่นั้น ให้เตรียมตัวระมัดระวัง ไม่ใช่อยู่ในความวิตกกังวลว่ามันอาจจะเกิดขึ้นกับฉันก็ได้ ก็เลยจมอยู่ในความทุกข์ อันนั้นไม่ใช่ท่าทีที่ถูกต้อง
สิ่งที่ควรทำคือเตรียมตัวระมัดระวังป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นกับเรา แล้วอีกอย่างหนึ่งที่จะต้องทำก็คือ ไม่มั่นใจว่า ไม่มีทางเกิดขึ้นกับฉันหรอก เพราะว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ ไม่มีอะไรที่แน่นอน