แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ตามความเป็นจริง ลำดับที่ 98
วันที่ 24 ธันวาคม 2557
มีความสุขกันทุกคน ขอให้ญาติโยมจงเจริญสติ สร้างความรู้ตัวให้มีให้เกิดขึ้นในกายในใจของเรา โดยการสร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจน นั่งฟังไปด้วยน้อมสำเหนียก สร้างความรู้ตัวไปด้วย ไม่ต้องพนมมือ หลวงพ่อเพียงแค่พูด แค่ชี้แนะอุบายวิธีการเจริญสติเท่านั้น พวกท่านจงไปทำ ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ทุกอิริยาบถ การสร้างความรู้ตัว การรู้ลมสัมผัสของลมหายใจวิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเรา
ความหมายของการเจริญสติเพื่อที่จะรู้เท่าทันใจ รู้จักควบคุมใจ อบรมใจ จนใจของเราคลายออกจากความคิด รู้เท่าทัน ใจคลายออกซึ่งเรียกว่า ‘แยกรูปแยกนาม’ รู้ลักษณะของใจที่คลายออก ใจที่หงาย พลิกจากของที่คว่ำ รู้จักความว่าง ลักษณะของความว่าง การเกิดการดับของใจ การเกิดการดับของความคิด
ทำไมใจถึงหลง ทำไมใจถึงเกิด ความรู้ตัว หรือว่าสติของเราต่อเนื่องหรือไม่ เราก็ต้องพยายาม เพียงแค่การสร้างขึ้นมา รู้จักว่าลักษณะของคำว่า ความรู้ตัวเป็นลักษณะอย่างนี้ รู้กายเป็นลักษณะอย่างนี้ รู้ใจเป็นลักษณะอย่างนี้ อะไรคือใจ อะไรคือสติปัญญา อะไรคืออาการของใจอีก ต้องให้รู้ให้เห็น แล้วก็ทำความเข้าใจกับภาษาธรรม
คำว่าเกิด ๆ ดับ ๆ เป็นอย่างไร อนิจจัง-ทุกขัง-อนัตตาในขันธ์ห้า ในความคิด ซึ่งเป็นฝ่ายนามธรรมเป็นอย่างไร ใจของเราส่งไปภายนอก เป็นกุศลหรือว่าอกุศล หรือว่าเป็นกลาง ๆ เป็นเรื่องอะไรที่เขาเกิด มันมีอยู่ตลอดเวลา แต่กำลังสติของเรามีไม่เพียงพอ เข้าไปควบคุมใจก็ไม่ได้ อบรมใจก็ไม่ได้ มีตั้งแต่ใจกับขันธ์ห้าส่งไปภายนอกอย่างเดียว เขาก็หาเหตุหาผลมาโต้แย้ง มาโต้แย้งกับการเจริญสติปัญญาของเราเหมือนกัน กำลังฝ่ายไหนจะมาก
ท่านถึงบอกว่าให้สร้างอานิสงส์สร้างตบะบารมี ด้วยการเอาออก ด้วยการให้ ด้วยการคลาย มองโลกในทางที่ดี เจริญพรหมวิหาร มีสัจจะมีความจริงใจต่อตัวเอง สัจจะนี่สำคัญ ถ้าเรามีสัจจะกับตัวเองแล้วก็ มีสัจจะก็จะเข้าถึงธรรมได้เร็วได้ไว มีความจริงใจ มีการฝักใฝ่ มีการสนใจ ล้มแล้วลุกขึ้นมาใหม่ แก้ไขใหม่
วันเดือนปีผ่านไปเร็วไว เดี๋ยวนี้ก็ใกล้จะถึงวันสิ้นปี วันปีใหม่วันที่ 31 วันสิ้นปี วันที่หนึ่งก็จะเป็นวันปีใหม่ ทางวัด ท่านเจ้าคุณก็จะได้พาสวดมนต์ข้ามปี ทุกวัน ทุกปี การสวดมนต์สวดพรเพื่อที่จะน้อมนำไปประพฤติไปปฏิบัติ คำที่เราสวดก็มีตั้งแต่ความเป็นสิริมงคล ถ้ารู้ลึกลงไปในสิ่งที่เราสวดว่าสวดเรื่องอะไร ก็จะเข้าใจ นำไปประพฤติไปปฏิบัติไปขัดเกลา ไปชำระสะสางกิเลสที่มีอยู่ในใจของเราอีก ยิ่งดีใหญ่
อย่าพากันเกียจคร้าน ถ้าเราเข้าใจในชีวิตของเรา เราจะดูใจรู้ใจตั้งแต่ตื่นขึ้นมาจนกระทั่งนอนหลับ สติ ปัญญา สมาธิเขาก็จะรักษาเรา แต่เวลานี้ กำลังสติมีไม่เพียงพอ เราต้องสร้าง สร้างขึ้นมาแล้วไปอบรมใจให้รู้การเกิดของใจตั้งแต่ต้นเหตุ ให้คลายใจออกจากขันธ์ห้า ใจเกิดกิเลสก็รู้จักละกิเลส ละทีนั้นและทีนี้ กิเลสก็เหือดแห้งไป
ก็ต้องพยายาม ล้มลุกขึ้นมาใหม่ แก้ไขใหม่ หมั่นพร่ำสอนตัวเรา แก้ไขตัวเรา ปรับปรุงตัวเราอยู่ตลอดเวลา สักวันนึงก็คงถึงจุดหมายปลายทางกัน ไม่ถึงจุดหมายปลายทางช้า ก็ต้องถึงจุดหมายปลายทางเร็วไว ไม่ถึงวันนี้ก็พรุ่งนี้ ไม่ถึงพรุ่งนี้ก็เดือนหน้าปีหน้า ไม่ถึงปีหน้า ปีต่อ ๆ ไปก็อาจจะถึง ไม่ถึงจริง ๆ ก็ไปต่อภพหน้า เพราะว่าตราบใดที่ใจยังเกิดอยู่ ก็ต้องพยายามกันนะ
สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจให้ชัดเจน ให้ต่อเนื่องเชื่อมโยงกันสักนาที สองนาทีก็ยังดี ดีกว่าไม่ได้ทำ
พากันไหว้พระพร้อม ๆ กัน ค่อยไปศึกษาทำความเข้าใจต่อกันเอานะ