แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ตามความเป็นจริง ลำดับที่ 96
ในวันที่ 22 ธันวาคม 2557
ขอให้ญาติโยมเราทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของตัวเราเอง ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมา เราได้สร้างความรู้ตัวแล้วหรือยัง เราได้วิเคราะห์กายของเรา วิเคราะห์ใจของเราแล้วหรือยัง ถ้ายังก็เริ่มเสียนะ อย่าพากันปล่อยเลยตามเลย ฟังไปด้วยน้อมสำเหนียก น้อมสำเหนียก
สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจน ลองหายใจเข้าไปยาว ๆ ลึก ๆ สักสองสามเที่ยว ความคิดต่าง ๆ ก็จะหยุดไป กายของเราก็สงบตั้งมั่นขึ้น เราพยายามฝึกให้เกิดความเคยชิน แล้วก็ทำความเข้าใจให้ถูกต้อง ลักษณะของสติปัญญาที่เราสร้างขึ้นมาใหม่ ก็เพื่อที่จะเข้าไปอบรมใจของเรา
การเกิดของใจเป็นอย่างไร ทำไมใจถึงเกิด ทำไมความคิดกับใจเขารวมกันเป็นสิ่งเดียวกัน ทำให้เกิดอัตตาตัวตน ทำให้เกิดความยึดมั่นถือมั่น ทำไมใจถึงเป็นทาสของกิเลส การก่อตัวของใจเป็นอย่างไร เราจะเอาอะไรไปประหัตประหารกิเลส เราต้องมาสร้างสติ มาเจริญสติ เข้าไปอบรมใจของตัวเราเอง หมั่นสังเกตหมั่นวิเคราะห์จนกว่าใจของเราจะคลายออกจากขันธ์ห้า ซึ่งเรียกว่า‘แยกรูปแยกนาม’ ตรงนี้ไม่ค่อยจะเข้าถึงกันเท่าไหร่ แต่การควบคุมใจกันก็มีอยู่ การสร้างตบะบารมีนั้นมีกันมานาน การสร้างคุณงามความดี การให้ทาน การบริจาค การละกิเลส การควบคุมใจได้เป็นบางเรื่อง บางครั้งบางคราว
แต่เราต้องรู้ทุกเรื่องว่า วิญญาณในกายของเราทำหน้าที่อย่างไร กายของเราทำหน้าที่อย่างไร ทวารทั้งหกทำหน้าที่อย่างไร ต้องรู้ด้วย เห็นด้วย เข้าถึงด้วย แล้วก็อบรมใจของเราให้ได้ด้วยหมั่นสังเกต สังเกตบ่อย ๆ ทำความเข้าใจบ่อย ๆ ไม่เข้าใจเราก็เริ่มอยู่ตลอดเวลา ไม่เข้าใจเราก็เริ่มใหม่
เพียงแค่การสร้างความรู้ตัว พวกเราก็ยังทำกันไม่ปะติดปะต่อกัน ก็เลยเข้าไม่ถึงตัวใจสักที ก็ต้องพยายามกัน ไม่ว่างานภาระหน้าที่สมมติ เราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดี ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน อยู่ที่บ้าน ที่ไร่ ที่นา ที่ทำการทำงาน ทุกอิริยาบถ เราต้องรู้ใจของเราให้เป็นหลัก แล้วก็บริหารกายบริหารใจ บริหารสมมติ ด้วยสติด้วยปัญญา อยู่ด้วยปัญญา
ท่านถึงบอกว่าให้รอบรู้ในกองสังขาร ให้รอบรู้ในขันธ์ห้า ให้รอบรู้ในโลกธรรม แล้วก็แก้ไขปรับปรุงตัวเราอยู่ปัจจุบัน อยู่ขณะนี้ ให้ดี ทุกคนมีโอกาสที่จะถึงจุดหมายปลายทางกัน จะถึงช้าหรือถึงเร็ว ก็ขึ้นอยู่กับวิบากกรรม ก็ขึ้นอยู่กับการกระทำ ก็ขึ้นอยู่กับวิเคราะห์สังเกตที่ถูกต้อง
อะไรควรละ อะไรควรเจริญ อะไรควรดำเนิน อะไรควรดำเนินก่อน อะไรควรดำเนินหลัง จัดระบบระเบียบของกายของใจของเรา ตั้งแต่ความคิด ตั้งแต่อารมณ์ ดับความเกิดของใจ คลายใจออกจากขันธ์ห้า ละกิเลสออกจากใจ ดับความเกิดของใจให้หมดจด มองเห็นหนทางเดินว่าเราจะได้กลับมาเกิด หรือไม่กลับมาเกิดกัน
เรามีโอกาสได้สร้างอานิสงส์กันมากมาย เรามีโอกาสได้สร้างตบะบารมีกันมากมาย ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ความขยันหมั่นเพียรของเรามีเพียงพอหรือไม่ ความรับผิดชอบ ความเสียสละ การฝักใฝ่การสนใจ การแสวงหาด้วยวิธี ด้วยการเจริญสติ รู้เท่า รู้ทัน รู้กัน รู้แก้ แล้วก็ทำความเข้าใจ การได้ยินได้ฟังได้อ่าน ตำราทุกคนศึกษามาดี แต่จะน้อมเข้าไปศึกษา รู้เห็นการเกิด การดับของใจ การเกิดการดับของขันธ์ห้า ต้องลงอยู่ที่กายของเรา อยู่ที่ฐานของใจของเราอย่างเดียว ถึงจะเข้าถึง ถึงจะรู้ ถึงจะเห็นด้วย ทำความเข้าใจได้ด้วย จนหมดความสงสัยได้ด้วย นี่แหละถึงจะเข้าถึงสภาวะที่แท้จริง ก็ต้องพยายามกัน
สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกของเราให้ชัดเจนกันนะ ทำใจให้โล่ง สมองให้โปร่ง มีความรับรู้อยู่ที่ปลายจมูกของเราให้ชัดเจนกัน
ไหว้พระพร้อม ๆ กันค่อยไปสร้างสานต่อเอานะ