หลวงพ่อฝากไว้ ลำดับที่ 95

วันที่ 9 พฤศจิกายน 2557

เจริญธรรมญาติโยมทุกคนทุกท่าน ขอให้ญาติโยมจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจน ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมาเราได้เจริญสติแล้วหรือยัง เรารู้จักเอาสติปัญญาของเราไปวิเคราะห์ใจของเราแล้วหรือยัง ใจของเราเกิดสักกี่เที่ยว กิเลสเกิดขึ้นที่กายหรือเกิดขึ้นที่ใจ อะไรควรทำก่อนอะไรควรทำหลัง อะไรประโยชน์ใกล้ ประโยชน์ไกล เรารู้จักวิเคราะห์พิจารณา คลายใจแยกใจของเราออกให้รับรู้ สติปัญญาชี้เหตุชี้ผล เหตุผลทางด้านนามธรรม เหตุผลทางด้านรูปธรรม

ความเกิดความดับของวิญญาณในกายของเราเป็นอย่างไร วิญญาณหรือว่าใจของเราเกิดกิเลสสักกี่เที่ยว กิเลสหยาบ กิเลสละเอียด เป็นกุศลหรือว่าอกุศล เป็นเรื่องของเราหรือว่าเรื่องของคนอื่น ปัญญาของเราต้องรู้เท่าทัน ตามทำความเข้าใจ แล้วก็ชี้เหตุชี้ผล อบรมใจของตัวเราเอง เป็นเรื่องของเราทุกคน ไม่ใช่เรื่องของคนอื่น

การแสวงหาใจตัวเรา ไม่ใช่ว่าใจไปแสวงหาธรรม ถ้าใจแสวงหาธรรมนี่ใจเกิดอยู่ตลอดเวลา ใจเขาหลงมานานเขาถึงเกิด แล้วเขาก็มาสร้างขันธ์ห้ามาปิดกั้นตัวเอง แล้วก็เป็นทาสของความทะเยอทะยานอยากอีก เขาก็จะหาเหตุหาผล หาเรื่องมาปิดกั้นตัวเองด้วยปัญญาของสมมติ ด้วยปัญญาของโลกีย์

ปัญญาของพระพุทธเจ้า ปัญญาในทางธรรมเราต้องเจริญ เจริญสติ เจริญผู้รู้ ให้เข้มแข็งให้ต่อเนื่อง จนกว่าใจจะคลาย ซึ่งเรียกว่า ‘แยกรูปแยกนาม’  ยอม ตามทำความเข้าใจให้ใจรับรู้ทุกเรื่อง จนใจของเรายอมรับความเป็นจริงได้ แล้วก็รู้จักละ รู้จักละ จะเอา จะมี จะเป็น ก็เป็นเรื่องของปัญญา อย่าไปปล่อยเวลาทิ้งเสียดายเวลา เกิดมาทั้งที ก็ต้องพยายามเดินให้ถึงจุดหมายปลายทางให้ได้

สิ่งพวกนี้เราจะไปบังคับกันไม่ได้เลย ขึ้นอยู่กับอานิสงส์บุญบารมี ขึ้นอยู่กับความเพียร การดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง ที่ถูกทางของแต่ละบุคคล เหมือนกับการปลูกผลหมากรากไม้ เราจะไปเร่งให้ออกดอกออกผลให้สุกวันเดียวไม่ได้ การปฏิบัติใจก็เหมือนกัน ถ้าเราดำเนินให้ถูกที่ถูกทาง ถึงเวลาก็ย่อมจะถึงจุดหมาย อาจจะถึงช้าหรือว่าถึงเร็วก็ขึ้นอยู่กับความเพียรของแต่ละบุคคล

อย่าไปปิดกั้นตัวเราเอง ทุกคนก็มีการผิดพลาด ผิดพลาดแก้ไขใหม่ ล้มขึ้นมา ลุกขึ้นมา แก้ไขใหม่ ทำไมเราถึงลำบาก ทำไมเราถึงมีไม่พร้อม ทำไมเราถึงไม่มีความสมบูรณ์แบบ ก็มาแก้ไขขณะที่เรายังมีลมหายใจอยู่นี่แหละ มีความสุข มีความพอใจในสิ่งที่เรามีเราเป็น ได้อัตภาพร่างกายขันธ์ห้ามาบริบูรณ์ก็เป็นบุญใหญ่แล้ว เราก็มาทำเสริมเติมแต่งให้เต็ม มาวิเคราะห์มาสำรวจตรวจตราให้ละเอียดว่าอะไรควรละ อะไรควรเจริญ อะไรควรดำเนิน ไม่เสียเที่ยวเสียเวลา

การได้ยิน ได้ฟัง ได้อ่าน การปรารถนาหาทางดับทุกข์ทุกคนมีมาแต่เดิม แต่การดำเนินให้ถูกต้องถูกทางต้องอาศัยปัญญาของผู้รู้ อาศัยปัญญาของพระพุทธองค์ ท่านได้ค้นพบมาตั้งหลายร้อยหลายพันปีแล้ว สัจธรรมของชีวิต ว่ามีอะไรบ้างท่านแจงออกมาให้เห็น จากหยาบไปหาละเอียด เราจงพยายามศึกษาให้ปรากฏขึ้นที่ใจของเราให้มองเห็นความเป็นจริง ท่านถึงบอกให้เชื่อ

ท่านก็สอนเรื่องชีวิตของเรานี่แหละ กายของเราจะดำเนินวิธีไหน ไปอย่างไร มาอย่างไร กายแตกดับวิญญาณจะไปไหน ท่านจะให้เจริญสติเข้าไปดูเหตุดูผล ชี้เหตุชี้ผล กายเนื้อก็มองเห็นด้วยตาเนื้อ ใจตัวซึ่งเป็นฝ่ายนามธรรม เราต้องสร้างความรู้ตัวหรือว่าเจริญสติ สติเป็นธาตุรู้ เป็นผู้รู้ จิตเป็นธาตุรู้ แต่เวลานี้เขายังเกิดอยู่ ถ้าไม่ต่อเนื่องไม่เห็นจริง ๆ ยากที่จะเข้าใจในสิ่งพวกนี้ เรารู้อยู่เฉพาะในภาพรวม

เราจงพยายาม ไม่ว่าพระ ว่าโยม ว่าชี ก็พากันขยันหมั่นเพียรกันนะ เรามีโอกาสได้มาอยู่ร่วมกัน เคยสร้างบุญสร้างอานิสงส์มาร่วมกัน อยู่หลายคนหลายท่านก็อยู่ใกล้อยู่ไกล พากันมารู้จักหน้าที่ รู้จักแก้ไข รู้จักรับผิดชอบตัวเราอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่ไประรานคนโน้น ระรานคนนี้ อันนั้นเป็นวิสัยของคนพาล

คนมีบุญมีอานิสงส์จะขัดเกลา อบรมพร่ำสอนตัวเองอยู่ตลอดเวลา กิเลสหยาบกิเลสละเอียดเป็นอย่างไร รักษาสำรวมกายวาจาใจของตัวเองอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ประโยชน์ตนประโยชน์ท่าน ประโยชน์ปัจจุบัน ประโยชน์ในโลกนี้ ประโยชน์ในโลกหน้า ก็พยายามรีบทำเอา

เอาล่ะวันนี้ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อม ๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อ ทำความเข้าใจกันเอานะ