แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
หลวงพ่อฝากไว้ ลำดับที่ 93
วันที่ 31 ตุลาคม 2557
เจริญธรรมญาติโยมทุกคนทุกท่าน ขอให้ญาติโยมจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจน ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมา เราได้สร้างความรู้ตัว แล้วหรือยัง พยายามฝึกให้เกิดความเคยชิน ทำความเข้าใจให้ถูกต้อง รู้จักแก้ปัญหาตัวเอง รู้จักแก้ปัญหาชีวิตของเรา ปัญหามันมีหลายอย่าง คนทั่วไปส่วนมากจะแก้ปัญหาตั้งแต่ระดับภายนอก ไม่แก้ปัญหาตั้งแต่ต้นเหตุ ตั้งแต่ความหลงโน้นแหละ ถ้าไม่หลงก็ไม่เกิด
การเกิดของวิญญาณ การมาสร้างภพของมนุษย์ การมาหลงมายึด ท่านถึงให้มาเจริญสติเข้าไปวิเคราะห์ ดูรู้ให้เท่าทันการเกิดของจิตของวิญญาณว่าเขาเกิดอย่างไร ความคิดเกิดอย่างไร เขารวมกันได้อย่างไร เขาหลงกันได้จนเป็นสิ่งเดียวกันได้อย่างไร โน้นคลายความหลงข้างในให้สำเร็จเสียก่อน หรือว่าแยกรูปแยกนามนั่นแหละ
แยกรูปแยกนาม ทำอย่างไรเราถึงจะแยกได้ เราก็ต้องมาสร้างความรู้ตัวให้ต่อเนื่อง ให้เชื่อมโยง แล้วก็รู้เท่ารู้ทัน รู้การก่อตัว รู้การเกิด รู้การเคลื่อนไหว รู้การรวมของใจกับอาการของใจ รู้เห็นความเป็นจริง ตามดู เข้าใจในหลักของ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เข้าใจการเกิด การดับ
การส่งใจออกไปภายนอก ภาษาธรรมเขาเรียกว่า ‘สมุทัย’ การส่งใจออกไปภายนอก เดี๋ยวนี้ทั้งใจของเราทั้งเกิดด้วย ยึดด้วย หลงด้วย ทั้งมีความทะเยอทะยานอยากด้วยสารพัดอย่าง เราก็ค่อยมาแก้ไข มาขัดมาเกลาตัวเราอยู่ตลอดเวลา ขัดเกลากายของเรา ขัดเกลาวาจาของเรา ขักเกลาใจของเรา ไม่ใช่ไปปล่อยปละละเลย ถึงเราแยกเราคลายไม่ได้ ก็ให้ใจของเรามองโลกในทางที่ดี คิดดี ทำดี พูดดี สำรวมกาย วาจา ใจ ของตัวเราอยู่ตลอดเวลา ก็ต้องพยายามมันไม่เหลือวิสัยหรอก
เพราะว่าดวงจิตแต่ละดวงปรารถนาที่จะหาทางดับทุกข์กันทั้งนั้น บางทีก็เดินทางผิดพลาดบ้าง ล้มแล้วลุกขึ้นมาใหม่ แก้ไขใหม่ ปรับปรุงตัวเราใหม่ ว่าเราขาดตกบกพร่องอะไร ทำไมเราชีวิตของเราถึงลุ่ม ๆ ดอน ๆ ความขยันหมั่นเพียรของเรามีเพียงพอหรือไม่ ความกระตือรือร้น การกระทำ การขวนขวาย การสังเกตจิตใจของเรามีความซื่อสัตย์ต่อตัวเองหรือเปล่า อย่าไปน้อยใจตัวเอง พยายามแก้ไข แก้ไขได้ ไม่แก้ไขได้ ก็ต้องพยายาม สักวันหนึ่งก็คงจะเดินถึงจุดหมายปลายทาง
อานิสงส์ผลบุญผลทานของเรามีเต็มเปี่ยมหรือเปล่า ผลทานนี่ส่งไปให้มีความสุข ไม่ได้อด ไม่ได้อยาก ไม่ได้ลำบาก ถ้ายิ่งการให้ทานไม่มี มีแต่ความอด ความอยาก ความหิว ถ้าเรารู้จักให้ทาน มันก็ค่อยสร้างสะสมขึ้นไปเรื่อย ๆ การกระทำของเราก็ต้องถึงพร้อม ถึงจะเกิดประโยชน์ อย่าไปโทษคนโน้น อย่าไปโทษคนนี้ จงโทษตัวเราเอง แก้ไขตัวเราเอง อะไรผิดพลาดเราก็รีบแก้ไขเสีย มีไม่มาก แต่มันทำยาก ถ้าไม่ขยันหมั่นเพียรให้ถูกทางถูกวิธี
ก็ต้องพยายาม ไม่ว่าพระ ว่าโยม ว่าชี มีขันธ์ห้าเหมือนกันหมด มีวิญญาณเหมือนกันหมด กำลังสติ กำลังปัญญาที่เราสร้างขึ้นมาจะไปอบรมใจของเราได้หรือไม่ ไปควบคุมใจของเราได้หรือไม่ ไปสังเกตจนกว่าใจของเราจะแยกออกจากความคิด แยกรูปแยกนามได้หรือเปล่า เพียงแค่การสร้างความรู้ตัวก็ทั้งยากลำบากให้ต่อเนื่องให้เชื่อมโยง
แต่การทำบุญ การให้ทานมีอยู่เป็นบางช่วงบางครั้งบางคราว แต่การควบคุมใจ อาจจะได้เป็นบางครั้งบางคราว ก็ต้องพยายามนะ มีอะไรก็ช่วยกัน สมมติภายนอกอะไรขาดตกบกพร่องเราก็แก้ไข ให้มันถูกต้อง ให้มันดี ก็จะส่งผลถึงอนาคต เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างก็สมมติกับวิมุตติก็อยู่รวมกัน จนกว่าจะหมดลมหายใจนั่นแหละ ถึงจะได้ทิ้งกายก้อนนี้ ทิ้งก้อนสมมติ แต่ใจถ้ายังเกิดเขาก็ต้องไปเกิดต่อ แต่ก็ขอให้เกิดในกองบุญกองกุศลถึงจะไม่ได้ลำบาก ถ้าเกิดในกองอกุศลแล้วก็ลำบาก
แต่ละวันตื่นเช้าขึ้นมาใจของเราเกิดสักกี่เที่ยว เรารู้หรือเปล่า เหตุจากภายนอกมาทำให้เกิด หรือว่าเกิดจากตัวใจโดยตรง หรือว่าเกิดจากอาการของขันธ์ห้ามาปรุงแต่งใจ อะไรคือส่วนรูปอะไรคือส่วนนาม ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาทุกเรื่อง ในชีวิตมีเรื่องเดียวนี่แหละ ที่หลวงพ่อพูดมาเป็นตั้งสามสิบกว่าปี ต้องให้รู้ต้นเหตุ สาเหตุ แล้วก็แก้ไข ขยันหมั่นเพียรทั้งภายนอกทั้งภายใน ไม่ใช่ว่าจะโยนกายของเราไปที่โน้น พากายของเราไปที่นี่ ไม่แสวงหาลงที่ใจแล้วก็แก้ไข ถ้าเราเข้าใจวิธีแนวทางแล้วก็ อยู่คนเดียวก็ต้องถึงจุดหมายปลายทางกัน ไม่จำเป็นต้องไปดิ้นรนที่ไหนเลย
ทำบุญให้กับตัวเราก่อน ให้เต็มเสียก่อน แล้วก็จะล้นไปสู่ภายนอก สู่พี่สู่น้อง สู่สังคม ไม่ใช่ว่ามีตั้งแต่ความทะเยอทะยานอยาก มีตั้งแต่การดิ้นรนแสวงหาด้วยอำนาจของกิเลส ให้หาด้วยสติ หาด้วยปัญญา ขยันด้วยสติ ขยันด้วยปัญญา แล้วก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีให้ถูก ก็จะส่งผลถึงอนาคตได้เอง เพราะว่าแนวทางนั้นมีอยู่ แต่บุญบารมีทางสมมติเราก็อย่าไปทิ้ง ไปที่ไหนเราพยายามสร้าง พยายามทำ
ทำบุญให้กับตัวเราเสียก่อน แล้วก็ล้นออกไปสู่พ่อสู่แม่ สู่พี่สู่น้อง สู่เพื่อนเกิดแก่เจ็บตายด้วยกัน มองคนใกล้ ๆ ตัวเราเสียก่อน ให้มีความสุขแล้วก็ล้นออกไปสู่คนรอบข้าง สู่หมู่ สู่คณะ สู่สังคม ถ้าเราไม่มีความเห็นแก่ตัว ความเป็นระเบียบ ความเป็นระเบียบ ความเสียสละ ความอดทน ความถูกต้อง ถูกต้องจากข้างใน ถึงเราเข้าไม่ถึงข้างในก็ขอให้ถูกต้องระดับของสมมติ ก็จะอยู่ดีมีความสุข ไม่วุ่นวาย
ยิ่งคนหมู่มาก ก็พยายามแก้ไขตัวเรา ปรับปรุงตัวเราให้ดี แล้วก็ต่างคนต่างรู้จักแก้ไขตัวเอง ปรับปรุงตัวเอง ถึงจะมากมายถึงขนาดไหนก็ไม่ได้วุ่นวาย ถ้าไม่รู้จักแก้ไขตัวเอง อยู่คนเดียวก็วุ่นวาย อยู่หลายคนก็วุ่นวาย กายก็ไม่รู้จักรักษา วาจาก็ไม่รู้จักรักษา ไอ้เรื่องใจนั่นไม่ต้องไปพูดถึงเลย เราก็ต้องพยายามแก้ไขกัน
เอาล่ะวันนี้ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อม ๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อนะ