แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
หลวงพ่อฝากไว้ ลำดับที่ 92
วันที่ 30 กันยายน 2557
เจริญธรรมญาติโยมทุกคนทุกท่าน ขอให้ญาติโยมจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจน ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมา เราได้สร้างความรู้ตัวให้ต่อเนื่อง เราได้สำรวจใจของเรา เราได้สำรวจกายของเรา ว่าอะไรควรทำก่อน อะไรควรทำหลังแล้วหรือยัง ถ้ายังก็พยายามเริ่มหัดวิเคราะห์ตัวเรา วิเคราะห์ใจของเรา ก็รีบแก้ไข ไม่ใช่ไปปล่อยปละละเลย ผัดวันประกันพรุ่ง เสียดายเวลา
ไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถไหน ยืน เดิน นั่ง นอน กิน อยู่ ขับถ่าย ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์อย่างไร ให้รู้ว่าใจปกติ ความปกติของใจ ใจที่ไม่เกิดเป็นอย่างไร ใจที่ไม่มีกิเลสเป็นอย่างไร อันนี้เพียงแค่ความปกติ นี่ยังคว่ำอยู่ สมมติยังครอบงำอยู่ ถ้าเราสังเกตเห็นใจคลายออกจากความคิดได้เมื่อไหร่ นั่นแหละเขาถึงจะเรียกว่า ‘พลิกจากสมมติไปหาวิมุตติ’ แต่การละกิเลสต้องมีอีก การดับความเกิดต้องมีอีก อันนี้เป็นชั้นของละเอียด ซึ่งเป็นส่วนนามธรรม เราก็รู้อยู่ เห็นอยู่ ทำความเข้าใจอยู่แบบโลก ๆ เราไม่ได้ตามดู รู้ทุกเรื่อง แก้ไขตัวเราทุกเรื่อง
เพียงแค่ระดับของสมมติก็ยังพากันทำไม่ได้เลย ทำไม่ดีเลย ปล่อยปละละเลย ความรับผิดชอบต่อสมมติต่าง ๆ ในสิ่งที่เราเข้าไปยุ่งเกี่ยว อย่างเช่น ที่พักที่อาศัย ที่หลับที่นอน ที่อยู่ที่กิน ห้องส้วมห้องน้ำ ยังไม่รู้จักวิเคราะห์เลย มีตั้งแต่พากันทำลาย จากความไม่มี ก็ทำให้มี ให้สมมติสมบูรณ์ ไม่ได้ลำบาก จากความมีแล้ว ก็ไม่รู้จักพากันดูแล ไม่รู้จักพากันรักษา ทำให้มันดี ยิ่ง ๆ ขึ้นไป
ขาดการวิเคราะห์ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ไม่ว่าอยู่บ้าน อยู่ไร่ ทำการทำงาน เราอาศัยอิงปัจจัยสี่ อาศัยสมมติอยู่ เราก็พยายามทำให้ดี ไม่เห็นแก่ความเกียจคร้าน มีความเป็นระเบียบ มีความเสียสละ มีความอดทน รู้จักฝักใฝ่ รู้จักสนใจ ทำให้ดี กว่าจะมีขึ้นมาได้แต่ละชิ้นแต่ละอัน ให้พวกท่านได้อยู่ดีมีความสุข ต้องอาศัยความเพียร อาศัยกาลเวลา อาศัยบริวาร อาศัยแรงบุญแรงศรัทธาของทุกคน เริ่มจากไม่มี ก็ค่อย ๆ ทำให้มันมี ทำให้มันดีขึ้นไปเรื่อย ๆ มันไม่ดีเราก็พยายามรีบทำให้ดี
ไม่ว่าเด็ก ไม่ว่าผู้ใหญ่ ไม่ว่าพระ ไม่ว่าชี ความรับผิดชอบต้องสูง ความเสียสละต้องสูง ความอดทนอดกลั้น ยิ่งเรามาอยู่รวมกันมาก ๆ นี่แหละ ไม่ว่าอยู่กันคนละทิศละที่ละทาง บางทีก็มาแล้วก็มารู้จักแก้ไขตัวเอง มองเห็นหนทางเดิน รีบเดินให้ถึงจุดหมาย บางคนบางท่านมาแล้วก็มาสร้างสะสมกิเลสใส่ตัวเอง อคติคนโน้น อคติคนนี้ อันโน้นก็ไม่ดี อันนี้ก็ไม่ดี ฝึกหัดปฏิบัติธรรมทำอะไรก็ไม่เป็น แก้ไขตัวเองไม่ได้ ใช้ตัวเองไม่เป็น จะเอาตัวเองรอดได้อย่างไร
เราต้องพยายามสร้างความเข้มแข็ง สร้างความกล้าหาญ สร้างความอดทน ให้ละอายในสิ่งควรละอาย ให้กล้าหาญในสิ่งที่ควรกล้าหาญ มองโลกในทางที่ดี คิดดี ใจของเราเกิดกิเลสได้อย่างไร กิเลสหยาบกิเลสละเอียด ไล่จนกระทั่งถึงมลทินต่าง ๆ ใจของเรามีความกังวล ใจของเรามีความฟุ้งซ่าน
งานภายนอกเรามีความรับผิดชอบอยู่ในระดับไหน ไม่ใช่ว่าจะเอาตั้งแต่ชิงดีกัน ชิงเด่นกัน กูดีมึงดี ๆ แล้วก็ตายจากกัน แทนที่จะมีความสมัครสามัคคี อยู่ด้วยกันหลาย ๆ คน บางทีก็เป็นก๊กเป็นเหล่า กลุ่มนั้นไม่ดี กลุ่มนี้ไม่ดี อันนี้หลวงพ่อเล่าความจริง ที่นี่คงไม่มี ถ้ามีเราก็รีบพิจารณาตัวเอง แก้ไขตัวเอง
ต่อไปในวันข้างหน้า วัดเราก็ยิ่งจะมีญาติโยมเข้ามาเยอะ ไม่ว่าทางหน่วยราชการ ทางโรงเรียนต่าง ๆ เข้ามาศึกษา เข้ามาทำความเข้าใจ แต่ส่วนมากก็มาด้วยอำนาจของกิเลส ก็ต้องพิจารณา หน่วยงานต่าง ๆ โรงเรียนต่าง ๆ ก็ให้พิจารณา หน่วยโรงเรียนไหนที่มาแล้วมีความรับผิดชอบ เราก็ค่อยรับ โรงเรียนไหนมาแล้วไม่มีความรับผิดชอบ มาก็ขอให้ได้มาได้ครั้งเดียวแล้วก็ตัดออกไป เพราะว่าอะไร สาเหตุอะไร ความรับผิดชอบ ความเสียสละ เพียงแค่ มุ้ง หมอน เสื่อ ต่าง ๆ ก็ยังไม่รู้จักเก็บ ไม่รู้จักใช้ ไม่รู้จักรักษา มีเท่าไหร่ก็พังทลายหมด ยังจะให้พระ ให้โยม ให้ชี ตามไปกางให้ ตามไปเก็บให้ ตามไปซักให้ เพียงแค่ความรับผิดชอบเล็ก ๆ น้อย แค่นั้นก็ยังไม่มี ฝึกกันได้ยังไง มีแต่ความเสียหาย
พระเราก็เหมือนกัน ชีเราก็เหมือนกัน บางทีเอาไปใช้แล้วก็ทิ้งมันเกลื่อน ระเกะระกะไปทั่ว หาความเป็นระเบียบเล็ก ๆ น้อย ๆ แค่นั้นไม่มี ยังจะเอาธรรมะ จะทำงานใหญ่ได้ยังไง เพียงแค่สมมติก็ยังไม่รู้จักรับผิดชอบ สมมติก็ยังไม่รู้จักดูแลรักษา จะเอาตั้งแต่ธรรม เอาตั้งแต่ความสะดวกสบาย จะช่วยเหลือตัวเองได้อย่างไร หนักตัวเอง แล้วก็หนักสถานที่ แล้วก็หนักคนอื่น พยายามแก้ไขตัวเรา ปรับปรุงตัวเรา สิ่งเล็กๆ น้อยๆ พอช่วยเหลือตัวเราได้เราก็รีบช่วย ไม่ใช่ว่าขอให้ฉันได้อยู่ได้ใช้ สมมติภายนอกจะเป็นอย่างไรก็ช่าง จะดีหรือไม่ดีก็ อย่างงั้นคิดผิด เราจงเป็นบุคคลที่มีความเป็นระเบียบ ระเบียบต่อตัวเรา ระเบียบต่อส่วนรวม มีความเสียสละ การปฏิบัติธรรมขั้นสูงมันถึงจะดำเนินไปได้ เพียงแค่ระดับของสมมติก็ยังไม่รู้จักแก้ไข ยังไม่รู้จักรับผิดชอบ วาจาก็ไม่รู้จักรับผิดชอบ กายก็ไม่รู้จักรับผิดชอบ ส่วนใจ ความคิด อารมณ์ต่าง ๆ มีตั้งแต่อคติ มีตั้งแต่มลทิน เข้าครอบงำอยู่เป็นประจำ มันจะไปได้อะไร
หลักธรรมมี ความจริงมี สัจธรรมมี พระพุทธองค์ท่านค้นพบแล้วก็มาเปิดเผย เดินอย่างนี้ ทำอย่างนี้ ถึงอย่างนี้ เห็นอย่างนี้ ใจที่ไม่เกิดเป็นอย่างนี้ ใจที่คลายจากขันธ์ห้าเป็นอย่างนี้ ใจที่ละกิเลสเป็นอย่างนี้ ท่านบอกไว้หมด มีหมด ท่านจะบอกว่าอย่างนี้วิปัสสนาญาณได้ยังไง วิปัสสนาภูมิได้ยังไง เห็นความเกิดความดับ รอบรู้ในดวงใจ รอบรู้ในกองสังขาร รอบรู้ในความคิด รอบรู้ในอารมณ์ แล้วก็รู้จักขัดเกลากิเลสตัวเองอยู่ตลอดเวลา ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นเขาบอกเขาบังคับ อะไรดีหรือไม่ดี อะไรควรเจริญ อะไรควรละ
การได้ยิน ได้ฟัง ได้อ่าน ทุกคนผ่านกันมาหมด แต่การจัดการกับกิเลสของตัวเราเอง ก็ขึ้นอยู่กับตัวของเราเอง ก็ต้องพยายามกัน อย่าสร้างสะสมความเกียจคร้าน ความเกียจคร้านแม้แต่นิด ๆ หน่อย ๆ คนเรานี่ก็แปลก มีมากก็ทุกข์ ไม่มีก็ทุกข์ มีน้อยก็ทุกข์ มันมีให้ได้อยู่ได้อาศัยได้นั่นก็นับว่าเป็นบุญ ไม่ได้ลำบากทางสมมติ ยังจะมาเกียจคร้าน ยังจะมาทะเลาะเบาะแว้ง ใช้การไม่ได้ แทนที่จะดำเนินให้มีความสมัครสมานสามัคคี มีอะไรก็ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จากหนักเป็นเบา จากเบามันก็จะได้สบายขึ้น ก็ต้องพยายาม กว่าจะได้มาเป็นสถานที่ให้น่าอยู่น่าอาศัยน่ารื่นรมย์ ก็อาศัยอานิสงส์บุญของทุกคน แรงบุญของทุกคนร่วมกันทำร่วมกันสร้างมา ไม่ใช่น้อย ๆ ปี เพียงแค่ระดับของสมมติ ความเป็นอยู่ระดับของสมมติให้น่าอยู่น่าอาศัย ผ่านกาลผ่านเวลาผ่านความเสียสละ พวกเรามาอยู่ด้วยกันคนละทิศคนละที่ละทาง เป็นพี่เป็นน้อง เป็นเพื่อนเกิดแก่ร่วมกัน ยังจะมากูดีมึงดี ทะเลาะเบาะแว้งกัน อย่างนี้ก็อย่าให้มี อย่าให้ได้ยิน ต่างคนก็ต่างแก้ไขตัวเอง ปรับปรุงตัวเอง มีอะไรก็ช่วยกัน
ตราบใดที่ใจยังเกิด ทุกคนก็ต้องพยายามดับความเกิด แก้ไขตัวเราเองอยู่ตลอดเวลา ไม่อยากจะให้มันเกิด มันก็เกิด เพราะว่ามันหลงมาตั้งนาน บางทีก็เกิดในกองกุศลบ้าง บางทีก็เกิดในกองอกุศลบ้าง ถ้าคนไหนเกิดอยู่ในกองอกุศลน่ะแย่ ต้องแก้ไขให้เร็วให้ไว ถ้าเป็นกองกุศลก็เจริญแต่ไม่ให้หลงไม่ให้ยึด ไล่เรียงลงไปเรื่อย ๆ ก็ต้องพยายาม
อันนี้ก็คงจะใกล้ ใกล้จะออกพรรษาอีกไม่นาน วันที่ 26 วันที่ 26 ก็จะได้เป็นวันถวายผ้ากฐินกัน ก็คงจะเหลืออีก 20 กว่าวัน มีโอกาสเราก็ได้ร่วมบุญกัน ทางสมมติก็ทำช่วยกัน ทางด้านกิเลสเราก็ค่อยขัดเกลาตัวเรา ปรับปรุงตัวเรา ก่อนที่จะพูดก่อนที่จะคิดมันเป็นประโยชน์หรือไม่ ก่อนที่จะทำอีก ประโยชน์ใกล้ ประโยชน์ไกล ประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน ประโยชน์ในโลกปัจจุบัน เรามีโอกาสมากที่สุด ที่ได้ทำได้สร้างบุญสร้างอานิสงส์ ยังจะพากันมามัวเมาเล่นอยู่ ก็ต้องแก้ไข
เอาล่ะวันนี้ก็เจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อม ๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อ ทำความเข้าใจกันเอา