แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
หลวงพ่อฝากไว้ ลำดับที่ 85
วันที่ 14 กันยายน 2557
เจริญธรรมญาติโยมทุกคนทุกท่าน ขอให้ญาติโยมจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจน ตั้งแต่เช้าขึ้นมาเราได้สร้างความรู้ตัวให้ต่อเนื่อง ให้เชื่อมโยงแล้วหรือยัง ถ้ายังก็เริ่มเสียนะ ได้สักนิดนึงก็ดี ฟังไปด้วย น้อมสำเหนียกเสียงก็สักแต่ว่าเสียง นั่งตามสบาย วางกายให้สบาย วางใจให้สบาย ไม่ต้องพนมมือ
ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาว ๆ เพียงแค่เรื่องการหายใจเข้าออก เราก็อย่าไปบังคับ การสูดลมหายใจยาว ๆ ผ่อนลมหายใจออกมายาว ๆ กายของเราก็จะสบายขึ้นเยอะ ความรู้สึกรับรู้ เวลาลมกระทบปลายจมูกของเรา นั่นแหละเขาเรียกว่า ‘สติรู้กาย’ ถ้ารู้ให้ต่อเนื่อง เขาเรียกว่า ‘สัมปชัญญะ’ มีความรู้ตัวทั่วพร้อม
การเจริญสติเน้นลงอยู่ที่กายของเรา อยู่ที่ลมหายใจของเรา ก็เพื่อที่จะให้รู้ลึกลงไปอีก รู้ความปกติของใจ เวลาใจเกิด การก่อตัวอาการของใจเป็นอย่างไร อาการของความคิดเป็นอย่างไร กำลังสติรู้ตัวอยู่ปัจจุบันเป็นลักษณะอย่างไร ตรงนี้สำคัญ ถ้าเราไม่ทำให้ต่อเนื่อง ไม่ทำให้เชื่อมโยง ก็ยากที่จะรู้เท่าทันใจ รู้ลักษณะอาการของความคิด ของอารมณ์ว่าเขาเกิดอย่างไร เขาไปอย่างไร
รู้จักวิธีแก้ไขปรับปรุงตัวเรา ตื่นขึ้นมาเราก็รีบดู อะไรควรละ อะไรควรเจริญ อะไรควรดำเนิน จนกระทั่งเข้านอนโน่นแหละ ก่อนที่จะเข้านอน เราก็สำรวจดูอีกว่า ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมา เราพลั้งเผลอให้กิเลสอะไรบ้าง ใจส่งออกไปภายนอกสักกี่เรื่อง ความคิดผุดขึ้นมาปรุงแต่งใจของเราสักกี่ครั้ง เหตุจากภายนอกทำให้ใจเกิด หรือเกิดขึ้นจากภายใน เราจะหาวิธีอย่างไรที่จะแก้ไขปรับปรุงตัวเรา ขัดเกลากิเลสออกจากจิตจากใจของเราให้ได้ ก็ต้องอาศัยความเพียรที่ถูกต้อง อย่าไปปล่อยปละละเลย
ศรัทธานั้นมีกันทุกคน การฝักใฝ่ การสนใจการทำบุญให้ทานนั้นมีกันทุกคน แต่เป็นการทำบุญให้ทาน ศรัทธาอยู่ในระดับของสมมติ อยู่ในระดับของโลกียะ ยังหลงอยู่ เพราะว่าใจยังเกิดอยู่ ถ้าไม่หลงก็ไม่เกิด
เขาเกิดมา เขาหลงมาสร้างกายเนื้ออยู่ในภพของมนุษย์ เขาเรียกว่า ภพของมนุษย์ กายเนื้อมีอะไรบ้างที่ท่านบอกว่าเป็นกองเป็นขันธ์ มีวิญญาณเข้ามาครอบครอง ขันธ์ทั้งห้าเป็นของหนัก ทำอย่างไรเราถึงจะเห็นตรงนี้ เราถึงได้มาเจริญสติ มาสร้างความรู้ตัวตัวใหม่ ลงอยู่ที่กายของเราให้ต่อเนื่องให้เชื่อมโยง
เพียงแค่การสร้างสติให้ต่อเนื่อง พวกเราก็ยังทำกันไม่ต่อเนื่อง ก็เลยที่จะรู้เท่าทันใจ ก็ได้แค่ทำบุญให้ทาน ศรัทธาไปตามแรงเหวี่ยงของกรรม บางทีก็กุศลกรรม บางทีก็เอาอกุศลกรรม บางทีก็มลทิน อคติ เพ่งโทษ สารพัดอย่าง กิเลสตัวละเอียด ๆ มองโลกในแง่ร้าย มองโลกในแง่ดี เราต้องพยายามศึกษาขัดเกลากิเลสออกจากจิตจากใจของเราให้มันหมด คลายความหลงให้ได้ หมายถึงแยกรูปแยกนาม
ถ้ากำลังสติเราสังเกตรู้เห็นเท่าทัน จนใจของเราคลายออกจากขันธ์ห้าได้ เราถึงจะมองเห็นความเป็นจริง ซึ่งเรียกว่า ‘สัมมาทิฏฐิ’ ความรู้แจ้งเห็นจริงเปิดทางให้ การตามทำความเข้าใจ การรู้เหตุรู้ผลตั้งแต่ต้นเหตุ ก็จะมองเห็นความเป็นจริง เราก็จะเข้าใจในคำสอนของพระพุทธองค์ ว่าท่านสอนเรื่องอะไร คำว่า ‘อัตตา’ เป็นอย่างไร ‘อนัตตา’ เป็นอย่างไร ‘สมมติ’ เป็นอย่างไร ‘วิมุตติ’ เป็นอย่างไร
การพูดง่าย แต่การลงมือ เราต้องมีความเพียรอย่างเลิศเลยทีเดียว อย่างต่อเนื่องเลยทีเดียว ต้องเป็นบุคคลที่มีความขยัน เพียงแค่ระดับของสมมติทำไมเราถึงลำบาก เพียงแค่เรื่องของกาย ทางสมมติก็ลำบาก ทางด้านวิมุตติบางคนก็มีพร้อมเพรียง ขาดอันหนึ่ง ล้นอันหนึ่ง เราต้องพยายามศึกษาให้ละเอียดทำความเข้าใจกันเอา อย่าพากันปล่อยวันเวลาทิ้ง การที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ก็นับว่าเป็นบุญแล้วแหละ การสร้างการทำความเข้าใจต่อก็ค่อยดำเนิน ล้มแล้วลุกขึ้นมาใหม่ แก้ไขใหม่ปรับปรุงตัวเราใหม่ถึงเวลาก็จะต้องเข้าใจ
สร้างความระลึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจให้ชัดเจน แล้วก็ให้ต่อเนื่อง ให้เชื่อมโยงกันสักระยะนะ ถึงไม่ได้ต่อเนื่องกันได้ตลอด
พากันไหว้พระพร้อม ๆ กัน พยายามไป ทำความเข้าใจให้ได้ทุกอิริยาบถ