แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ตามความเป็นจริง ลำดับที่ 83
วันที่ 18 กันยายน 2557
ขอให้ญาติโยมเราทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจน แล้วก็ให้ต่อเนื่อง นั่งตามสบายเรามาสร้างความรู้ตัว ด้วยการเจริญอานาปานสติ ฟังไปด้วยน้อมสำเหนียกลองสูดลมหายใจเข้าไปยาว ๆ ลึก ๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาว ๆ การสูดลมหายใจเข้าไปยาว ๆ กายของเราก็สบายขึ้นเยอะ หายใจออกมายาว ๆ ความรู้สึกสัมผัสของลมที่กระทบปลายจมูกก็จะชัดเจน ความรู้สึกอยู่ที่ปลายจมูกของเรานั่นแหละ เราพยายามสร้างขึ้นมาแล้วก็พยายามสร้างให้ต่อเนื่อง
ความรู้สึกพลั้งเผลอก็เริ่มขึ้นมาใหม่ ความรู้สึกพลั้งเผลอก็เริ่มขึ้นมาใหม่
พยายามฝึกให้เกิดความเคยชิน แล้วก็ให้เชื่อมโยง แล้วก็ให้ต่อเนื่อง ถ้าเราฝึกให้ต่อเนื่องเราก็จะได้รู้ว่าแต่ก่อนนั้น ความรู้ตัวตรงนี้ของเรา มีบ้าง กระท่อนกระแท่น มีไม่ต่อเนื่อง จะเอาไปรู้เท่าทันการเกิดของใจได้อย่างไร จะเอาไปอบรมใจได้อย่างไร เพียงแค่สติเราก็มีกำลังไม่เพียงพอ มันก็เลยปิดกั้นตัวเองหมด
ความคิดเก่า ปัญญาเก่าที่เกิดจากตัวใจ ที่เกิดจากขันธ์ห้านั้น เขาหลงมานาน เขาเกิดมานาน เขาก็หาเหตุหาผลมาปิดกั้นตัวเอง เราก็เลยไปหลงเอาความคิดเก่า ปัญญาเก่า อาจจะถูกต้องอยู่ในระดับของสมมติ อยู่ในกองบุญกองกุศล อยู่ในคุณงามความดี อยู่ในระดับของสมมติ แต่ในหลักธรรมแล้ว เราต้องพยายามมาสร้างความรู้ตัว มาเจริญสติ จนสังเกตวิเคราะห์ ชี้เหตุชี้ผล เห็นการเกิด การดับของความคิด เห็นการเกิด การดับของขันธ์ห้า ซึ่งเรียกว่า ‘แยกรูปแยกนาม’
แยกรูปแยกนามได้ยังไม่เพียงพอ ต้องตามทำความเข้าใจให้รู้ทุกเรื่อง ให้เข้าใจในอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ในขันธ์ห้าของเราว่าเขาเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ความว่างเปล่าเข้ามาปรากฏ
ทีนี้เราก็มาละกิเลสที่ใจของเรา กิเลสหยาบ กิเลสละเอียด ไล่เรียงลงไปเรื่อย ๆ เขาเรียกว่า ‘วิปัสสนา’ ละได้มาเท่าไหร่ ใจของเราก็จะสะอาดมากขึ้นเท่านั้น ถึงละได้หมดจดแล้วก็ยังมาดับความเกิดของใจอีก ดับความเกิดของใจยังไม่เพียงพอ ก็มาวางใจให้เป็นอิสระภาพอีก เขาเรียกว่า ‘รู้ธรรมแล้วก็วางธรรม’
แต่กว่าที่จะเข้าถึงจุดนี้ได้เราก็ต้องสร้างความเพียรอย่างยิ่งยวด เป็นคนขยันหมั่นเพียร ทำความเข้าใจให้รู้ทุกเรื่อง หาเหตุหาผล ชี้เหตุชี้ผลจนใจยอมรับความเป็นจริง ปรากฏขึ้นที่ใจของเรา
พระพุทธองค์ท่านถึงบอกให้เชื่อ ว่าท่านสอนเรื่องอะไร วิธีการดำเนินอย่างไร เข้าถึงอย่างไร เพราะว่ามีกันหมดทุกคน ขันธ์ห้าก็มีกันหมดทุกคน วิญญาณก็มีกันหมดทุกคน ความทะเยอทะยานอยากก็มีกันหมดทุกคน ทีนี้เราจะมาละ มาทำความเข้าใจ หนุนกำลังสติปัญญาเข้าไปหาเหตุหาผล มีไม่มากหรอก ถ้าเราขยันหมั่นเพียร
ต้องอาศัยความเพียรที่ถูกต้อง อาศัยกาลอาศัยเวลา อาศัยความขยันหมั่นเพียรทุกเรื่อง ทั้งสมมติ ทั้งวิมุตติ สักวันนึงเราก็คงจะเดินถึงจุดหมายปลายทางกัน ไม่ถึงช้าก็ต้องถึงเร็ว ไม่ถึงวันนี้ก็ต้องถึงพรุ่งนี้ ไม่ถึงเดือนนี้ก็เดือนหน้า ตราบใดที่เรายังเดินอยู่ ถ้าไม่ถึงก็จะไปต่อเอาภพหน้า เพราะว่าใจของทุกคนเราไปด้วยแรงเหวี่ยงของกรรม เราต้องทำความเข้าใจ
ถ้าเราแยกรูปแยกนามได้ ตามดูได้เราก็จะเข้าใจในคำว่า ‘กรรมกับการกระทำ’ ทางด้านนามธรรม ทางด้านรูปธรรม ก็ขอให้ทุกคนจงพยายามทำความเข้าใจ ขณะยังมีกำลังกายอยู่ ยังมีลมหายใจอยู่ อย่าไปปิดกั้นตัวเราเอง
การอยู่รวมกัน ร่วมกันหลายคนหลายท่าน อยู่ใกล้อยู่ไกล ก็ให้มีความสมัครสมานสามัคคี มีอะไรก็ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน บอกตัวเองให้ได้ ใช้ตัวเองให้เป็น อยู่ที่ไหนก็จะมีความสุข อย่าไปอคติกัน อย่าไปเพ่งโทษกัน มีอะไรก็ให้ช่วยกันทำ
สร้างความรู้สึกรับรู้ลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ต่อเนื่อง ให้เชื่อมโยงกันสักนิดหนึ่งก็ยังดีนะ
พากันไหว้พระพร้อม ๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อความเข้าใจกันนะ