PAGODA

  • Create an account
  • Forgot your username?
  • Forgot your password?
or

Connection

Your e-mail is required to ensure the proper functioning of the Website and its services and we make a commitment not to reveal it to third parties

  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ
PAGODA
  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ

เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก

เข้าสู่ระบบ

  • สมัครสมาชิก
  • ลืมชื่อผู้ใช้?
  • ลืมรหัสผ่าน?

Search

  • หน้าแรก
  • เสียง
  • พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
  • ตามความเป็นจริง80
ตามความเป็นจริง80 รูปภาพ 1
  • Title
    ตามความเป็นจริง80
  • เสียง
  • 11824 ตามความเป็นจริง80 /aj-sumran/80.html
    Click to subscribe
    • Share
    • Tweet
    • Email
    • Share
    • Share

ผู้ให้ธรรม
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
วันที่นำเข้าข้อมูล
วันพุธ, 28 มิถุนายน 2566
ชุด
ตามความเป็นจริง
  • แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [ลองพูดคุยกับ AI ทาง Line]

  • ตามความเป็นจริง ลำดับที่ 80

    วันที่ 12 กันยายน 2557

    ขอให้ญาติโยมเราทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจน แล้วก็ให้ต่อเนื่องกันสักพักนึง อย่างน้อย ๆ ก็ขอให้มีความสืบต่อ ความต่อเนื่อง ความรู้สึกรับรู้ที่ชัดเจน

    เพียงแค่เรื่องการหายใจเข้าออก เราก็หายใจมาตั้งแต่เกิดนั่นแหละ แต่เราขาดการสร้างความรู้ตัวที่ต่อเนื่องกันเท่านั้นเอง ทั้งที่ใจก็เป็นบุญ ใจก็อยากจะได้บุญ อยากจะรู้ธรรม อยากจะเห็นธรรม ความเกิดความดับของใจนั้นมีตลอด ความเกิดความดับของความคิดก็มีอยู่ตลอด เรามาสร้างความรู้ตัวให้มีให้เกิดขึ้น เพื่อที่จะรู้เท่าทันการเกิดของใจ รู้ลักษณะของใจ ใจที่ไม่เกิดเป็นอย่างไร การก่อตัวของใจเป็นอย่างไร

    พระพุทธองค์ท่านชี้ลงที่เหตุ เหตุทางด้านนามธรรม เหตุทางด้านรูปธรรม ศาสนาเป็นศาสนาที่ทันสมัยที่สุด ทันสมัยที่สุดในโลก ทำไมถึงพูดอย่างนี้ ท่านให้รู้ตัวอยู่ปัจจุบัน ทุกขณะจิต ทุกขณะลมหายใจเข้าออก จนอบรมใจให้รับรู้อยู่ทุกขณะทุกเวลา จนใจไม่เกิด นี่แหละถึงว่าเป็นทันสมัยที่สุด

    แต่พวกเราก็ยังเข้าไม่ถึง เพียงแค่วิ่งตาม  วิ่งตาม คิดก็รู้ ทำก็รู้ แต่เขาหลงอยู่ในความรู้ตรงนั้นอยู่ คือใจยังเกิด ถ้าไม่เกิดไม่หลง หลงเกิดยังไม่พอ แล้วยังมาสร้างขันธ์ห้ามาปิดกั้นตัวเองอีก สร้างขันธ์ห้ามาปิดกั้นตัวเองอีกยังไม่พอ ยังมาเป็นทาสของความโลภ ความโกรธ ความทะเยอทะยานอยากอีก หลายสิ่งหลายอย่าง

    ในหลักธรรมแล้ว ทำความเข้าใจให้หมดทุกเรื่อง ละออกให้หมดทุกเรื่อง ทั้งดีทั้งชั่ว ละชั่ว ละดี แต่สร้างดี ไม่ยึดติดดี พยายามสร้างประโยชน์ให้มีให้เกิดขึ้น ในชีวิตของเรา เราต้องศึกษา ทำความเข้าใจ ไม่มีใครศึกษาโลกเราได้ นอกจากตัวของเราเอง บอกตัวเองให้ได้ ใช้ตัวเองให้เป็น อยู่คนเดียวเราก็หมั่นวิเคราะห์ใจของเรา วิเคราะห์กายของเรา รู้จักอบรม รู้จักรวบรวม จัดระบบระเบียบของกายวาจาใจของเรา ทำความเข้าใจกับภาษาธรรม ภาษาโลก

    ภาษาโลกท่านว่าอย่างนี้ ชื่ออย่างนี้ หน้าตาอาการเป็นยังงี้ ภาษาธรรมเป็นยังงี้ ก่อนที่จะถึงภาษาธรรมได้ เราต้องเจริญสติเข้าไปคลายใจออกจากขันธ์ห้า ให้รู้ตัวใจเสียก่อน ให้รู้ตัวธรรมเสียก่อน เราจะละกิเลสได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความเพียรของเรา ก็ขึ้นอยู่กับตัวของเรานะ

    สร้างความรู้สึกรับรู้ สัมผัสของลมหายใจเข้าออกให้ชัดเจน

    พากันไหว้พระพร้อม ๆ กัน ค่อยพากันศึกษา ทำความเข้าใจต่อให้รู้ทุกอิริยาบถ

logo

  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • จดหมายข่าว
  • Privacy Policy
  • Terms of Service