แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ตามความเป็นจริง ลำดับที่ 76
วันที่ 30 ธันวาคม 2557
ขอให้ญาติโยมทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจน ให้ต่อเนื่องเชื่อมโยงกันสักนาทีสองนาทีก็ยังดี ตั้งแต่เช้าขึ้นมาเราได้สร้างความรู้ตัวแล้วหรือยัง หรือว่าได้เจริญสติแล้วหรือยัง เพียงแค่เจริญ เพียงแค่สร้าง พวกเราก็ยังไม่ชำนาญกำลังสติ กำลังปัญญาเลยรู้ไม่ทันการเกิดการดับของใจ การเกิดการดับของขันธ์ห้า
เพียงแค่สร้างกับทำความเข้าใจในเรื่องอานาปานสติ-ความรู้ตัว ตรงนี้ยังไม่ช่ำชอง เราพยายามฝึกให้เกิดความเคยชินจนเป็นธรรมชาติ เวลาลมหายใจเข้าก็รู้ ลมหายใจออกก็รู้ ทุกอิริยาบถ หรือจะเปลี่ยน เวลาเราเดิน เราก็เปลี่ยนความรู้สึกอยู่ที่ฝ่าเท้าของเรา ความรู้ตัวอยู่ทุกขณะลมหายใจเข้าออก เขาเรียกว่า ‘สัมปชัญญะ- มีความรู้ตัวทั่วพร้อม’ แล้วก็รู้ให้ชำนาญ
ขณะที่เราฝึกจนชำนาญ ส่วนการเกิดการดับของใจนั้นมีอยู่เดิม การเกิดการดับของความคิดเก่า ๆ ของขันธ์ห้านั้นมีมาแต่ก่อน มีมาหลายภพหลายชาติแล้ว ตรงนี้ ที่นี้เรามา ถ้ากำลังสติของเราเร็วไวขึ้นก็จะเห็นอาการของใจเห็นความเกิดความของใจ ในหลักธรรม เพียงแค่ความเกิดของใจหรือว่าการปรุงแต่งนั้นล่ะเขาเรียกว่า ‘อัตตาเกิด’ ถ้าเราสังเกตทัน ใจของเราแยกได้ออกจากความคิดซึ่งเป็นฝ่ายนามธรรมด้วยกัน เขาเรียกว่า ‘วิปัสสนาญาณเปิดทาง’ ‘สัมมาทิฏฐิความรู้แจ้งเห็นจริง’ ความหลงก็คลายไป ใจก็จะว่าง กายก็จะเบา เพียงแค่เปิดทางเริ่มต้น
การตามดูด้วยสติที่เราสร้างขึ้นมา เห็นความเกิดความดับ เราก็จะเห็นเรื่องของอนิจจัง-ทุกขัง-อนัตตา เข้าใจในคำสอนของพระพุทธองค์ ตามดูรู้ทุกเรื่อง หมดความสงสัย หมดความลังเล ว่าพระพุทธองค์ท่านสอนเรื่องอะไร สอนเรื่องชีวิตของเราวิญญาณในกายของเรา วิญญาณในขันธ์ห้าของเรา การละกิเลส การสร้างบารมี จะเอาสติปัญญา เอาข้อธรรมข้อไหนไปต่อสู้กับกิเลส
อย่างความโลภ เราก็พยายามละความโลภด้วยการเอาออก ด้วยการให้ ให้ทั้งวัตถุทาน ให้ทั้งอภัยทาน มองโลกในทางที่ดี ใจเกิดความโกรธ เราก็ให้อภัยทาน ใจเกิดความยินดียินร้าย เราก็พยายามดับ พยายามละ พยายามแก้ไขตัวเรา ปรับปรุงตัวเรา
ทุกคนก็มีบุญถึงได้เกิดมาเป็นมนุษย์ แต่การเก็บรายละเอียดความเกิดต่าง ๆ ตรงนี้ต้องขึ้นอยู่กับความเพียรของสติปัญญา แล้วก็ขึ้นอยู่กับการขัดเกลากิเลสของเราให้ถึงจุดหมายปลายทาง อย่าไปท้อ พยายามเอา ลุกขึ้นมาเอาใหม่ แก้ไขใหม่ปรับปรุงใหม่ กิเลสเขาก็ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ เหมือนกัน เขาก็หาเหตุหาผลมาโต้แย้งเหมือนกัน กำลังฝ่ายไหนจะมาก ก็ต้องพยายามนะ
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน อยู่ในอิริยาบถใด ปฏิบัติที่ไหน เราต้องรู้ให้ถึงฐาน เข้าถึงฐานของใจเป็นหลัก ทีนี้เราจะละกิเลสได้หรือละไม่ได้ ก็ขึ้นอยู่กับความเพียรของเรา ปฏิบัติธรรมต้องรู้ธรรม รู้ทั้งธรรมรู้ทั้งโลก อะไรคือโลก อะไรคือธรรม ตัวใจตัววิญญาณนั้น ตัวธรรม แต่เขายังเกิดอยู่ เขายังเป็นทาสของกิเลสอยู่ ต้องมาขัดเกลา ก็ต้องพยายามเอา
สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจให้ชัดเจนกันนะ ทำใจให้โล่ง สมองให้โปร่ง ทุกสิ่งทุกอย่างวางเอาไว้เสียก่อน
พากันไหว้พระพร้อม ๆ กัน ค่อยไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจนะ