แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ตามความเป็นจริง ลำดับที่ 75
วันที่ 28 สิงหาคม 2557
ขอให้พี่น้องเราทุกคนจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจน ฟังไปด้วย น้อมสำเหนียก สร้างความรู้ตัว ไม่ต้องพนมมือ
ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาว ๆ ลึก ๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาว ๆ อย่าไปบังคับลมหายใจ พยายามหัดฝึกลมหายใจให้เป็นธรรมชาติที่สุด เราก็หายใจอยู่แล้วแหละ แต่เราขาดการสร้างความรู้ตัว การสูดลมหายใจเข้าไปยาว ๆ ผ่อนลมหายใจออกมายาว ๆ ความรู้สึกก็จะเด่นชัดขึ้น กายของเราก็สงบตั้งมั่นขึ้น
เราพยายามสร้างขึ้นมา ตั้งแต่ตื่นขึ้น ตั้งแต่ยังไม่ลุกจากที่ จะทำอะไร ลมหายใจของเราเป็นอย่างไร หายใจยาวหายใจสั้น หายใจเข้าหายใจออก ความรู้สึกตัวเนี่ยเปรียบเสมือนกับนายประตูทวาร คอยรู้ว่าลมเข้าลมออก ลมเข้าลมออก อันนี้เขาเรียกว่า ‘สติรู้กาย’ เพียงแค่รู้กาย สร้างความรู้กายให้ได้เสียก่อน
ถ้าเรามีความรู้ตัวที่ต่อเนื่อง ส่วนการเกิดการดับของใจนั้น เขาจะก่อตัว เขาจะเกิดปรุงแต่งส่งออกไป เราก็จะรู้เท่าทัน บางทีก็มีความคิด ที่เราไม่ตั้งใจคิด หรือว่าอาการของขันธ์ห้าผุดขึ้นมา มันจะก็ก่อตัวยังไง ใจจะเคลื่อนเข้าไปรวมได้ยังไง ถ้าความรู้สึกตัวที่เราสร้างนี้ มีรู้ให้ต่อเนื่อง เราก็จะเห็นลักษณะการก่อตัว การเคลื่อน การรวม ถ้าเรารู้เท่าทันปุ๊บ ใจของเราก็จะดีดออกจากความคิด เหมือนกับขโมยเข้าบ้าน ถ้าเรารู้ทัน มันก็จะกระโดดออก ถ้าเรารู้เห็น มันก็จะเคลื่อนเข้าไปรวมปุ๊บ มันจะดีดออกจากกัน แยกออกจากกัน เราก็จะเห็นตัวใจที่ว่าง เห็นอาการของความคิด เกิด ๆ ดับ ๆ เกิด ๆ ดับ ๆ บางทีก็เป็นเรื่องอดีตบ้าง
อนาคตบ้าง สารพัดเรื่อง
นั่นแหละ ความรู้สึกตัวที่เราสร้างขึ้นมานี่แหละจะรู้ทัน รู้แล้ว ก็รู้เห็น เขาเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เขาเรียกว่าเห็น ‘อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา’ เวลาเขาจบ ความว่างเปล่าก็เข้ามาปรากฏ เรื่องใหม่ก็ปรากฏขึ้นมาอีก มาปรุงแต่งใจอีก ถ้าใจจะเคลื่อนเข้าไปรวม เราก็หยุด เราก็ดับอีก เรามาเห็นตรงนี้แหละ ถึงจะเข้าใจในธรรม เพียงแค่เข้าใจที่ถูกต้อง การตามทำความเข้าใจทุกเรื่องอีก ถ้าใจเกิดอีก เราก็ดับที่ใจอีก ใจจะเกิดกิเลส เราก็ดับที่ใจ
การฝึกหัดปฏิบัติธรรม ถ้าไม่เห็นเบื้องต้นตรงนี้ เราก็ยากที่จะเข้าใจในธรรม ก็มีตั้งแต่นึกเอาไปคิดเอา ถ้าเราแยกได้ เห็นได้ เราไม่ตามทำความเข้าใจให้รู้ทุกเรื่องอีก เขาก็รวมกันไปอีก ก็อยู่ในบุญ อยู่ในกุศลเท่านั้นเอง เราต้องพยายามเจริญสติเข้าไปรู้ แล้วก็เดินปัญญา ปัญญาไป รู้ไป เห็นไป ดับไป เอาไปใช้ ทุกเรื่องในชีวิตเราต้องทำ เราต้องศึกษา
ก็เริ่มต้นจากฐานเสียก่อน ถึงจะรู้ความจริงหมด รู้แล้วก็ค่อยละ ละได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็พยายาม ล้มแล้วลุกขึ้นมาใหม่ แก้ไขใหม่ ปรับปรุงตัวเราใหม่ อย่าไปโทษคนนู้น อย่าไปโทษคนนี้ อย่าไปอคติคนนู้น อคติคนนี้ จงโทษตัวเราเอง แก้ไขตัวเราเอง ปรับปรุงตัวเราเอง ทำหน้าที่ของเราให้ดี สร้างความขยันหมั่นเพียร สร้างความเข้มแข็ง สร้างตบะ ให้มี ให้เกิดขึ้นในกายในใจของเรา จนกว่าจะหมดลมหายใจ ก็ต้องพยายาม
กายของเรานี้ก้อนบุญ กายของเรานี้ก้อนธรรม กายของเรานี้ก้อนทุกข์ เป็นรังแห่งโรค เราต้องศึกษาให้ละเอียด อะไรคือส่วนรูป อะไรคือส่วนนาม งานสมมติ งานโลกธรรม เราก็ต้องยังสมมติให้เกิดประโยชน์ ท่านถึงบอกว่ารอบรู้ในกองสังขาร ในขันธ์ห้าของตัวเรา รอบรู้ในโลกธรรม ในสิ่งที่เราเข้าไปยุ่งเกี่ยว แล้วการกระทำของเรา การยังสมมติของเราให้เกิดประโยชน์ เราก็ต้องทำให้เกิดประโยชน์ แต่ใจไม่หลงไม่ยึด
ก็ต้องพยายามกัน ไม่ว่าพระว่าโยมว่าชี ถึงพวกท่านจะฟังยังไม่รู้เรื่อง แต่ก็ต้องพยายามเอาไปศึกษา สักวันหนึ่งก็จะเข้าใจในสิ่งที่หลวงพ่อพูด ก็ต้องพยายามกันนะ
สร้างความรู้สึกรับรู้ การหายใจเข้าออกให้ชัดเจนกัน พากันไหว้พระพร้อม ๆ กัน