แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
หลวงพ่อฝากไว้ ลำดับที่ 73
วันที่ 13 สิงหาคม 2557
ขอให้ญาติโยมเราทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้ สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจน แล้วก็ให้ต่อเนื่อง ฟังไปด้วย น้อมสำเหนียก
สร้างความรู้ตัว ฝึกให้เกิดความเคยชิน อย่าไปปล่อยโอกาสทิ้ง อย่าไปปล่อยเวลาทิ้ง การสำรวจกาย สำรวจใจ การทำความเข้าใจกับชีวิตของเรา เป็นหน้าที่ของเรา ไม่ใช่หน้าที่ของคนอื่น การทำความเข้าใจ การได้ยิน การได้ฟัง วิธีการแนวทาง พอที่จะรู้จักกัน เรารู้จักแนวทางแล้ว ก็เร่งทำความเพียรตั้งแต่ตื่นขึ้นมา จนกระทั่งนอนหลับ จนรู้ลักษณะของใจ ใจที่ปกติเป็นอย่างไร อาการของใจเป็นอย่างไร อาการของขันธ์ห้าเป็นอย่างไร วิญญาณในกายของเราเป็นอย่างไร ลักษณะใจที่ไม่มีกิเลส ใจที่คลายจากความยึดมั่นถือมั่น ใจที่ไม่เกิด กำลังสติปัญญาที่เราสร้างขึ้นมาเป็นยังไง
เราต้องทำความเข้าใจกับภาษาธรรมภาษาโลก ปัญญาธรรมปัญญาโลก ให้ละเอียด ไม่ใช่ว่าจะไปปล่อยปละละเลย ปฏิบัติธรรมไม่รู้จักธรรม อะไรคือธรรม ปฏิบัติ อะไรคือตัวปฏิบัติ ลักษณะของสติคำว่า ‘รู้ตัวอยู่ปัจจุบัน’ เป็นอย่างไร หายใจเข้า หายใจออก อันนี้เขาเรียกว่า ‘รู้กาย’ แล้วก็รู้ให้ต่อเนื่อง ถ้าเรารู้ต่อเนื่อง ใจจะก่อตัว ใจจะเกิดอาการอย่างไร เราก็รู้ทัน ความคิดจะผุดขึ้นมาได้อย่างไร ใจกับความคิดเขารวมกันได้อย่างไร เราก็จะเห็น เห็นแล้วก็ยังไม่พอ ใจต้องคลายออกอีก อย่าไปรีบ ไปเร่ง ทำความเข้าใจไปเรื่อย ๆ สร้างตบะ สร้างบารมีไปเรื่อย ๆ ถึงเวลาเราก็จะเข้าใจ
ความเสียสละของเรามีเต็มเปี่ยมหรือไม่ ความรับผิดชอบ ความอดทน ขันติ ตบะ บารมีต่าง ๆ อดพูด อดคิด สังเกตดูความคิด ความขยันหมั่นเพียร นิวรณธรรม สติพลั้งเผลอได้อย่างไร ใจเกิดความกังวล เกิดความฟุ้งซ่านได้อย่างไร มีอยู่ในกาย ในใจของเราหมดนั่นแหละ เว้นเสียแต่ว่า พวกเราจะตามทำความเข้าใจให้ได้ทุกเรื่องหรือไม่ ส่วนมากก็ได้แค่ควบคุมใจเป็นบางเรื่อง บางครั้งบางคราว หรือว่าใจปรุงแต่งส่งออกไป บางทีก็เป็นกุศลบ้าง อกุศลบ้าง
เราต้องเจริญสติเข้าไปชี้เหตุชี้ผล อบรมใจของเราอยู่ตลอดเวลา เป็นเพื่อนใจของเราอยู่ตลอดเวลา ก็ต้องพยายามกันนะ ไม่ว่าพระ ว่าโยม ว่าชี พยายามขยันหมั่นเพียร บอกตัวเองให้ได้ ใช้ตัวเราให้เป็น ‘เรา’หมายถึง ‘ใจ’ บอกตัวเราหมายถึง ‘สติปัญญา’ที่เราสร้างขึ้นมา คอยอบรม ’ใจ’ ของเราทุกเรื่อง ตั้งตื่นขึ้นมา อันนี้เรื่องของกาย อันนี้เรื่องของใจ กายทำหน้าที่อย่างไร ทวารทั้งหกทำหน้าที่อย่างไร ในหลักธรรมแล้ว ก็เป็นแค่เพียงอุบาย เป็นแค่เพียงสื่อความหมาย วิธีการ พวกท่านจงไปทำ
ครูบาอาจารย์ ตำรา ก็เป็นแค่เพียงแผนที่ ตื่นขึ้นมาแล้วใจเป็นยังไง ความเสียสละของเรา ความรับผิดชอบของเรา การกระทำของเรา จะลุก จะก้าว จะเดิน อันนี้คือสมมติที่เราเข้าไปยุ่งเกี่ยว ‘รอบรู้ในกองสังขาร’ หมายถึงรอบรู้ในความคิด รอบรู้ในอารมณ์ รอบรู้ในโลกธรรม ในสิ่งที่เราเข้าไปยุ่งเกี่ยว ถึงวาระเวลา ก็ต้องได้พลัดพรากจากกันหมดนั่นแหละ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะการณ์อย่างไร ถึงเวลาก็ต้องได้พลัดพรากจากกัน ไม่ได้พลัดพรากจากกันตอนเป็น ก็ต้องได้พลัดพรากจากกันตอนตาย เพราะว่าเป็นกฎของไตรลักษณ์ เราจงมองเห็นความเป็นจริงข้อนี้ แล้วก็ทำความเข้าใจ ให้ใจของเราปล่อยวาง ความยึดมั่นถือมั่น แล้วรับผิดชอบด้วยปัญญาล้วน ๆ ได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็พยายามทำกัน
เพียงแค่การเจริญสติให้เชื่อมโยง ให้ต่อเนื่องทุกอิริยาบถเนี่ยก็ยากแสนยาก ถ้าไม่ขยันหมั่นเพียรจริง ๆ มันก็ยากอยู่ แต่การทำบุญให้ทาน ความเสียสละ พรหมวิหารนั้นก็มีกันอยู่บ้าง อาจจะทำความเข้าใจไม่ได้เต็มรอบ ก็ค่อยสร้างสะสมไป ทีละเล็กทีละน้อย ถึงเวลาก็เต็ม ไม่เต็มในวันนี้ พรุ่งนี้ มะรืนนี้ มันไม่เต็ม ก็ไปต่อเอาภพหน้าแหละ
เพราะว่าตราบใดที่ใจยังเกิดอยู่ เขาก็ต้องเกิด ก็ขอให้เกิดอยู่ในกองบุญ กองกุศลเอาไว้ ระลึกนึกถึงคุณงามความดี แต่คุณงามความดี เราพยายามรีบทำ รีบสร้างเสีย ขณะอยู่ปัจจุบันนี้แหละ ทำให้ดี ทำหน้าที่ของเราให้ดี ไม่ว่าพระ ว่าโยม ว่าชี ก็ช่วยกัน เวลาว่าง ๆ เอาการงานเป็นตัวฝึก ทำงานไปด้วย ละความเกียจคร้านไปด้วย ได้ประโยชน์ไปด้วย ได้อานิสงส์มากมาย
พากันไปช่วยกันติดหินกาบตามเสาระฆัง เสาระฆังหรือเสาวิหาร ได้ประโยชน์ ได้ความสุข จากน้อย ๆ ไปหามาก ๆ ใครไปใครมาก็มีความสุข มนุษย์ทั้งหลาย เทวดาทั้งหลายก็ย่อมจะหลั่งไหลมา เพราะว่าแหล่งบุญอยู่ที่ไหน ก็มาอยู่ที่นั่น แต่ละวัน ๆ นี่มากันมากมาย ต่อไปในวันข้างหน้ายิ่งจะมากขึ้นไปเรื่อย ๆ
แต่ความสะอาด ความเป็นระเบียบ เนี่ยไม่ค่อยจะสนใจกัน แล้วก็ทิ้งกันเกลื่อน ถ้าคนเราไม่ได้ฝึกนี่ลำบาก ทิ้งขยะกันเกลื่อน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เห็นตั้งแต่แก่ประโยชน์ส่วนตัว ประโยชน์ส่วนรวมนี่ยาก หาคนที่จะหาความเสียสละประโยชน์ส่วนรวมเนี่ยได้ยาก มีน้อย เพียงแค่ความเสียสละ ความเป็นระเบียบ เรียบร้อยก็ยังลำบากอยู่ จะลึกเข้าไปถึงตัวใจ ในการปล่อยในการวางมันก็ยิ่งยากเข้าไปอีก มันก็ต้องให้ตั้งแต่ภายนอก จัดระบบระเบียบทั้งภายนอกและภายใน จนเห็นความเกิดความดับของจิตวิญญาณ สร้างความขยันหมั่นเพียร สร้างความรับผิดชอบ ทุกอย่าง จนไล่เลียงลงไปเรื่อย ๆ จนรู้ฐานของใจ เห็นความบริสุทธิ์ของใจโน้นแหละ ก็ขึ้นอยู่กับความเพียรของแต่ละบุคคล
อย่าไปโทษคนโน้น ไปโทษคนนี้ จงโทษตัวเรา แก้ไขตัวเรา ปรับปรุงตัวเรา อะไรไม่ดีแล้วก็รีบแก้ไขเสีย ทำให้ดี จิตใจของเราดีแล้ว มองเห็นอะไรก็ดีไปหมด ถ้าใจของเราไม่ดี ข้างนอกดีถึงขนาดไหน มันก็มองเห็นไม่ดีเหมือนเดิมเพราะใจของเราไม่ดี ต้องแก้จากข้างใน ทั้งข้างในทั้งข้างนอกเอื้ออาศัยกันอยู่ ก็ต้องพยายามกันนะ ล้มแล้วลุกขึ้นมาใหม่ แก้ไขใหม่ ปรับปรุงตัวเราใหม่อยู่ตลอดเวลา
เอาล่ะวันนี้ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อม ๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อ ทำความเข้าใจกันเอา