แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ตามความเป็นจริง ลำดับที่ 69
วันที่ 15 สิงหาคม 2557
ขอให้ญาติโยมทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจน แล้วก็ให้ต่อเนื่อง เราพยายามฝึกให้เกิดความเคยชิน แล้วก็ให้ต่อเนื่อง เพื่อที่จะเอาไปใช้ไปอบรมใจของเรา ไปทำความเข้าใจ ไปสังเกตวิเคราะห์ใจของเรา
ใจที่ปราศจากกิเลสเป็นอย่างไร ใจที่ไม่เกิดเป็นอย่างไร ใจที่คลายออกจากความคิดเป็นอย่างไร ใจที่ว่าง คำว่า ‘ความว่าง’ นั้นเป็นลักษณะอย่างไร ว่างจากการเกิด ว่างจากความยึดมั่นถือมั่น ว่างจากขันธ์ห้าเป็นอย่างไร คำว่าอัตตากับอนัตตาเป็นลักษณะอย่างไร เราต้องรู้ด้วยเห็นด้วย เข้าถึงด้วย
แต่เวลานี้กำลังสติความรู้ตัวของเรามีอยู่บ้าง เป็นบางช่วงบางครั้งบางคราว เราเอาไปใช้การใช้งานยังไม่ได้ อาจจะควบคุมจิตใจได้เป็นบางครั้ง เราต้องดู รู้ ให้รู้ทุกเรื่อง แล้วทำความเข้าใจ ชี้เหตุชี้ผลให้ใจของเรายอมรับความเป็นจริง เห็นความเป็นจริงให้ได้ เขาถึงจะปล่อยจะวางได้ เพียงแค่ดับความเกิดของใจ คลายใจออกจากความคิด เราต้องเห็น เขาถึงจะคลาย เห็นแล้วก็ตามทำความเข้าใจทุกเรื่องอีก ไม่ใช่ว่าไปปล่อยปละละเลย
การทำบุญให้ทานนั้นก็มีกันทุกคน อย่าหยุดอยู่เพียงแค่นั้น เราจงพยายามเจริญสติเข้าไปเห็น เข้าไปทำความเข้าใจให้ได้ทุกเรื่อง มีเรื่องเดียวนี่แหละที่จะต้องศึกษาค้นคว้า รู้ฐานใจให้ได้ รู้ลักษณะของใจให้ได้ แล้วก็จะล้นออกไปสู่สมมติ สู่ภายนอก รอบรู้ในกองสังขาร รอบรู้ในความคิด
ส่วนมากก็จะหาตั้งแต่เรื่องมาปกปิดดวงใจของตัวเอง ไม่ค้นคว้าเข้าไปถึงฐานการเกิดการดับ ไม่ละที่ฐาน ไม่ทำความเข้าใจกับสมมติวิมุตติ มันก็เลยอาจจะมองเห็นความถูกต้องอยู่ในระดับของสมมติเท่านั้นเอง แต่ในหลักธรรมแล้วก็ยัง เราต้องคลาย ต้องละ ต้องดับความเกิด แม้ตั้งแต่ใจก็ต้องดับความเกิดได้ ก็ต้องวางใจให้เป็นอิสรภาพอีก หลายสิ่งหลายอย่าง ล้มแล้วลุกขึ้นมาใหม่ แก้ไขใหม่ ปรับปรุงตัวเราใหม่อยู่ตลอดเวลา เพียงแค่การเจริญสติมันก็ยากแสนยากอยู่แล้ว ไม่พยายามทำกันตั้งแต่ตื่นขึ้นมา
พยายามสร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกให้ชัดเจนให้ต่อเนื่องกันนะ
พากันไหว้พระพร้อม ๆ กัน ค่อยไปศึกษาทำความเข้าใจต่อกันเอา