หลวงพ่อฝากไว้ ลำดับที่ 69

วันที่ 4 สิงหาคม 2557

เจริญธรรมญาติโยมทุกคนทุกท่าน ขอให้ญาติโยมจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้ สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจน แล้วก็ให้ต่อเนื่อง ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมาเราได้สร้างความรู้ตัวแล้วหรือยัง เราได้สำรวจใจของเราแล้วหรือยัง ถ้ายังก็พยายามเริ่มเสียนะ

ทุกอิริยาบถ ยืน เดิน นั่ง นอน กิน อยู่ ขับถ่าย ลึกลงไปก็ทุกขณะลมหายใจเข้าออก ลึกลงไปอีกทุกขณะจิต ว่าอะไรคือ ‘ปัญญา’ อะไรคือ ‘ใจ’ ทำไมใจถึงเกิด ใจที่ไม่มีกิเลสเป็นอย่างไร ใจที่ไม่เกิดเป็นอย่างไร ใจที่คลายออกจากขันธ์ห้า ซึ่งเรียกว่า ‘แยกรูปแยกนาม’ เป็นอย่างไร กายทวารทั้งหกทำหน้าที่อย่างไร เราต้องศึกษาให้ละเอียด เป็นเรื่องของเราทุกคน จนกระทั่งหมดลมหายใจ จนกระทั่งกายแตกดับนั่นแหละ

ตราบใดที่ใจยังไม่หมดจด เขาก็ต้องไปเกิดต่อ แต่การเกิดของเขา เราก็ต้องแก้ไขเสียขณะที่เรายังมีลมหายใจ ใจของเราทำไมถึงเป็นทาสของกิเลส ทำไมถึงมีความทะเยอทะยานอยาก ถ้าใจไม่เกิด ปัญญาไปเกิดแทนได้หรือไม่ ทุกเรื่อง ๆ ในชีวิต คนเราเกิดมาเพื่อที่จะมาแก้ไขตัวเราเอง ปรับปรุงตัวเราเอง ให้กลับคืนสภาวะเดิม คือความสะอาด ความบริสุทธิ์ การไม่กลับมาเกิด

พระพุทธองค์ท่านชี้ลงไปว่า การเกิดคือความทุกข์ ไม่ว่าเกิดทางเนื้อทางหนัง ทางด้านรูป เกิดทางด้านนามธรรม ท่านว่ามันไม่เที่ยง ไม่มีอะไร ไม่มีตัวไม่มีตน แต่ใจเราหลงมาตั้งนาน หลงเกิดหลงยืดมาตั้งนาน ทำให้เกิดอัตตา ทำให้เกิดตัวตน เกิดทิฏฐิ เกิดมานะ เกิดความยืดมั่นถือมั่น สารพัดอย่าง เราต้องมาอาศัยปัญญาของผู้รู้ เข้าไปศึกษาเข้าไปค้นคว้า เข้าไปทำความเข้าใจ จากน้อย ๆ ไปหามาก ๆ

จิตใจของเรามีความแข็งกระด้างหรือว่ามีความอ่อนโยน จิตใจของเรามีความเสียสละหรือว่ามีความตระหนี่เหนียวแน่น จิตใจของเราเกิดความโกรธ เราก็พยายามให้อภัย มองโลกในทางที่ดี คิดดี ทำดี หมั่นสำรวจตัวเรา แก้ไขตัวเราอยู่ตลอดเวลา มีความสุขในการดู ในการรู้ ในการทำความเข้าใจ ในการคลาย ในการเอาออก เอาออกจนเหลือตั้งแต่ความบริสุทธิ์นั่นแหละ พยายามทำสิ่งตรงกันข้ามกับใจ ใจเกิดกิเลส เราก็ละกิเลส กิเลสหยาบ กิเลสละเอียดต่าง ๆ

รอบรู้ในความคิด รอบรู้ในกองสังขาร รอบรู้ในอารมณ์ของเรา แล้วก็รู้จักหาหนทางแก้ไข ปรับปรุงตัวเราเอง อยู่คนเดียวเราก็สอนใจของเรา ทำหน้าที่ของเราให้ถูก อยู่หลายคนเราก็ทำความเข้าใจให้ถูกต้อง กายของเราเป็นก้อนสมมติ ใจของเราก็ต้องให้รับผิดชอบให้มาก ๆ ละการเกิด ละกิเลส ไม่มีอะไรมากเลยในชีวิตของคนเรา มีตั้งแต่แสวงหาตั้งแต่กิเลสมาทับถมดวงใจของตัวเอง แทนที่จะขัดเกลาเอาออกให้มันหมดมันจด แล้วก็บริหารด้วยสติด้วยปัญญา

ไปที่ไหนถ้าเรามีความขยันหมั่นเพียร บอกตัวเองให้ได้ ใช้ตัวเองให้เป็น รู้จักแก้ไข รู้จักปรับปรุง ก็จะไม่ได้ลำบาก ถ้ามีตั้งแต่ความเกียจคร้าน งอมืองอเท้า ทำอะไรก็ไม่เป็น อยู่คนเดียวก็ลำบาก อยู่หลายคนก็ลำบาก ยิ่งขัดเกลากิเลสก็ไม่เป็น เจริญสติก็ไม่เป็น ยิ่งทำอะไรก็ไม่เป็น ยิ่งหนักเข้าไปอีก อะไรเราพอช่วยเหลือตัวเองได้ เราพยายามแก้ไขปรับปรุง ช่วยไม่ได้ก็ ภายในใจของเราก็พยายามขัดเกลากิเลส อยู่ที่ไหนก็จะมีตั้งแต่ความสุข

สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกให้ต่อเนื่อง ให้เชื่อมโยงกันสักนิดนึงก็ยังดี ดีกว่าไม่ได้ทำ

พากันไหว้พระพร้อม ๆ กัน พากันไปศึกษาทำความเข้าใจต่อกันเอา