ตามความเป็นจริง ลำดับที่ 68

วันที่ 10 สิงหาคม 2557

ขอให้ญาติโยมเราทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเรา เจริญสติเจริญสมาธิให้มีให้เกิดขึ้นที่กายที่ใจของเรา

วางภาระหน้าที่ การงานจะยุ่งยากถึงขนาดไหนเราก็วางมาแล้ว ทีนี้เรามาทำความสงบให้มีให้เกิดขึ้นที่ใจของเราด้วยการเจริญอานาปานสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจให้ต่อเนื่องให้ชัดเจน ฟังไปด้วยน้อมสำเหนียก

ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาว ๆ ลึก ๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาว ๆ สักสองสามเที่ยว ความรู้สึกสัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราก็จะชัดเจน กายของเราก็สงบตั้งมั่นขึ้น ใจของเราก็สงบ มีความรู้สึกรับรู้อยู่ที่ปลายจมูกของเรา

ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมา เราได้สร้างความรู้ตัวแล้วหรือยัง

เราได้วิเคราะห์กายของเราแล้วหรือยัง วิเคราะห์ใจของเราแล้วหรือยัง เราได้ทำความเข้าใจให้ถูกต้องแล้วหรือยังว่า เราเกิดมาอย่างไร ไปอย่างไร มาอย่างไร เราจะดำเนินชีวิตอย่างไรถึงจะมีความสุข สุขทั้งทางสมมติ สุขทั้งทางด้านวิมุตติ

แนวทางนั้นมีมานาน พระพุทธองค์ท่านได้ค้นพบเอามาเปิดเผย

พระพุทธเจ้าท่านสอนเรื่องอะไร เราพยายามศึกษาค้นคว้า ทำให้มี ให้เกิด ให้เข้าถึงในคำสั่งสอนของท่าน ท่านสอนเรื่องอัตตาเป็นอย่างไร อนัตตาเป็นอย่างไร สอนเรื่องสมมติเป็นอย่างไร วิมุตติเป็นอย่างไร การดำเนินชีวิตเป็นอย่างไรถึงจะมีความสุข จะไม่ได้ปล่อยเวลาทิ้ง เสียดายเวลา

ทุกลมหายใจเข้าออกมีคุณค่ามากมายมหาศาล อะไรเป็นประโยชน์ ประโยชน์ตนประโยชน์ท่าน ประโยชน์ใกล้ประโยชน์ไกล ประโยชน์ในระดับของสมมติ ประโยชน์ในระดับวิมุตติ การดำเนินชีวิต การเดินทางของชีวิต กายของเรานี้มีคุณค่ามากมายมหาศาล

อย่าปิดกั้นตัวเราเอง ทุกคนมีโอกาส ทุกคนมีบุญมีวาสนากันหมดถึงได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ในเมื่อเราได้เกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว เราพยายามดำเนินชีวิตให้ถูก จะได้มีความสุข อยู่คนเดียวก็มีความสุข อยู่หลายคนก็มีความสุข

เราพยายามน้อมสังเกตวิเคราะห์ สำรวจตรวจตรา บอกตัวเองให้ได้ ใช้ตัวเองให้เป็น

แก้ไขตัวเรา ปรับปรุงตัวเราอยู่ตลอดเวลา อะไรที่ไม่ดี เราก็พยายามละเสีย อะไรที่ดี เราก็พยายามยัง พยายามสร้างขึ้นมา ให้มีให้เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา

เพียงแค่เรื่องการหายใจเข้าออก พวกเราก็ขาดการสนใจกันมากทีเดียว ไปเอาตั้งแต่ มองตั้งแต่ด้านนอกกัน ต้องให้ดีจากภายใน เจริญสติเข้าไปหมั่นพร่ำสอนใจของเราว่าอะไรควรละ อะไรควรเจริญ กิเลสหยาบกิเลสละเอียดเป็นอย่างไร

พระพุทธองค์ท่านสอนเรื่องชีวิตของเรา ท่านไม่ได้สอนเรื่องอื่น จนล้นออกไปสู่หมู่สู่คณะสู่พี่สู่น้อง อยู่ที่ไหนก็มีความสุข อยู่คนเดียวก็มีความสุข อยู่หลายคนก็มีความสุข

ไม่ว่าเป็นพระเป็นโยมเป็นชี ทุกคนก็เกิดมา เดินทางแสวงหาธรรม แสวงหาทางดับทุกข์หลุดพ้นกัน  เราก็ต้องพยายามกัน

สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกให้ชัดเจน ให้ต่อเนื่องกันสักพักหนึ่ง สักระยะหนึ่ง ดีกว่าไม่ได้ทำ อยู่หลายคนก็เหมือนกับอยู่คนเดียว อยู่คนเดียวขณะนี้ ก็ให้รู้ว่าลมหายใจวิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจนกันก่อนนะ

พากันไหว้พระพร้อม ๆ กัน