แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ตามความเป็นจริง ลำดับที่ 63
วันที่ 26 กรกฎาคม 2557
ขอให้พี่น้องเราทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจน นั่งตามสบายวางกายให้สบาย หยุดความนึกคิดปรุงแต่งต่าง ๆ เอาไว้ชั่วครั้งชั่วคราว ถึงเราหยุดไม่ได้เราละไม่ได้ เราแยกรูปแยกนามไม่ได้ ก็ขอให้เรารู้จักการเจริญสติ รู้จักลักษณะของความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจน แล้วก็ให้ต่อเนื่อง แล้วก็เข้าใจ คำว่า ความหมายของความรู้สึกตัวอยู่ปัจจุบัน
ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาว ๆ ลึก ๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาว ๆ สักสองสามเที่ยว การสูดลมหายใจยาว ๆ ออกมายาว ๆ กายของเราก็รู้สึกว่าสบายขึ้น สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราก็จะชัดเจน
ความรู้ตัวตัวนี้แหละ เราพยายามสร้างขึ้นมาตั้งแต่ตื่นขึ้นมา รู้ให้ต่อเนื่อง รู้กาย ลึกลงไปก็รู้ลักษณะของใจ ใจที่ไม่เกิดเป็นอย่างไร ใจที่ไม่มีกิเลสเป็นอย่างไร ใจที่ปกติเป็นอย่างไร การก่อตัวของใจ การปรุงแต่งของใจเป็นอย่างไร เราก็จะรู้ลึกลงไป แล้วก็จะเห็นอาการของความคิดซึ่งเรียกว่า ‘อาการของขันธ์ห้า’
ความคิดมีกันทุกคน เขาก่อตัวอย่างไร เขาเกิดอย่างไร ใจของเราไปหลงไปรวมเป็นสิ่งเดียวกันได้อย่างไร ตรงนี้แหละ โมหะความหลงอันลุ่มลึก เราต้องมาเจริญสติเข้าไปคอยสังเกต คอยวิเคราะห์ รู้ไม่ทันต้นเหตุ เราก็รู้จักหยุดจักดับ ด้วยการสร้างความรู้สึกรับรู้ ซึ่งเรียกว่า ‘สมถะ’
ถ้ากำลังสติของเราต่อเนื่องเข้มแข็ง รู้เท่าทัน ตามเห็นเหตุเห็นผล ชี้เหตุชี้ผลให้ใจคลายออกจากความหลง ใจรับรู้เห็นความเป็นจริง ทุกเรื่อง เขาถึงจะยอมปล่อยยอมวางได้ เพราะเขาเกิดมานาน เขาหลงมานาน เขาก็หาเหตุหาผลมาอ้าง มาโต้แย้งเหมือนกัน ขันธ์ห้าความคิดที่ไม่ได้ตั้งใจคิด เขาก็หาเหตุหาผลมาโต้แย้งเหมือนกัน กำลังสติ กำลังความรู้ตัวของเรา จะมีเพียงพอหรือไม่ แต่เวลานี้มีอยู่บ้าง กระท่อนกระแท่น แทบไม่มี หรืออาจจะมีเป็นบางช่วง บางครั้งบางคราว ไม่มีกำลังพอที่จะไปอบรมใจ เข้าไปแก้ไขใจ เข้าไปละกิเลสที่ใจของเราได้
เราต้องมีความเพียร ทั้งขัดเกลากิเลส มีความขยัน มีความรับผิดชอบ ความอยาก ความไม่อยากเป็นอย่างไร ความเกิดเป็นอย่างไร พระพุทธองค์ท่านสอนเรื่องอะไร เราต้องศึกษา เน้นลงให้ปรากฏขึ้นที่ใจของเรา ที่ท่านว่า ‘แยกรูปแยกนาม’ เป็นอย่างไร คำว่า ‘วิปัสสนา’ เป็นอย่างไร กิเลสหยาบ กิเลสละเอียดเป็นลักษณะอย่างไร กิเลสเกิดขึ้นที่กาย หรือเกิดขึ้นที่ใจ หรือสติปัญญาของเราปรุงแต่งส่งเสริมต่อ เราต้องแจงให้ได้ใช้ตัวเองให้เป็นอยู่ตลอดเวลา ทุกอิริยาบถ ยืนเดินนั่งนอน กินอยู่ขับถ่าย
อย่าพากันประมาท เพราะว่าเวลาทุกลมหายใจเข้าออกมีคุณค่ามากมายมหาศาล ให้ทำความเข้าใจให้ถูกต้องเสีย ให้ทำความเข้าใจให้ถึงจุดหมายให้ได้ก่อน ก่อนที่จะหมดลมหายใจ ถ้าไม่ถึงเวลาก็ไม่ได้ไปหรอก ถึงเวลาแล้วถึงจะได้ไป ขณะที่ยังมีเวลาอยู่มีลมหายใจอยู่ อะไรที่จะเป็นบุญ อะไรที่จะเป็นกุศล ให้เรารีบทำ ประโยชน์มากประโยชน์น้อย ประโยชน์ใกล้ประโยชน์ไกล ประโยชน์ตนประโยชน์ท่าน ประโยชน์ในโลกนี้ ประโยชน์อยู่ปัจจุบัน เราก็ต้องพยายาม ศึกษาแล้วก็ขยันหมั่นเพียร ทำให้เกิดประโยชน์ก่อนที่ธาตุขันธ์ของเราจะแตกจะดับ
เพราะว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง คนเราเกิดมา เกิดมาเพื่ออะไร อยู่อย่างไร ไปอย่างไร แนวทางนั้นมีมาตั้งนาน เราก็ต้องพยายามกัน
สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกให้ชัดเจน แล้วก็ให้ต่อเนื่องกันสักพักหนึ่ง อยู่หลายคนก็เหมือนกับอยู่คนเดียว ขณะนี้ก็ให้รู้ว่าลมหายใจวิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจนกันนะ
พากันไหว้พระพร้อม ๆ กัน ค่อยพากันศึกษาทำความเข้าใจกันนะ