แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ตามความเป็นจริง ลำดับที่ 54
วันที่ 14 กรกฎาคม 2557
ขอให้ญาติโยมเราทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจน นั่งตามสบาย วางกายให้สบาย ไม่ต้องพนมมือ ฟังไปด้วยน้อมสำเหนียก การน้อมนี่หมายถึงน้อมเข้าไปรู้อยู่ที่กายของเรา
ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาว ๆ ลึก ๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาว ๆ สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้ากระทบปลายจมูกของเรา มีความรู้สึกรับรู้อยู่ ความรู้สึกรับรู้นั่นแหละ เขาเรียกว่า ‘สติรู้กาย’ ใจก็ปกติอยู่ภายใน เวลาหายใจเข้าหายใจออกก็รู้ให้ต่อเนื่อง เขาเรียกว่า ‘สัมปชัญญะ’ เราพยายามฝึกให้เกิดความเคยชิน ถ้าเราไม่ฝึกตรงนี้ เราก็มีตั้งแต่จะไปนึกเอา ไปคิดเอา ก็เป็นบุคคลที่น่าสงสารอยู่ ใจก็เป็นบุญ อยากจะรู้ธรรม อยากจะเห็นธรรม ก็ปิดกั้นตัวเองหมด
บางคนบางท่านก็มาถาม จะให้ปฏิบัติธรรมที่ไหน อยู่อย่างไร ไปอย่างไร น่าสงสารทั้งที่แบกสนามรบก็กายของเรา ฝึกอยู่ที่กายของเรา ลึกลงอยู่ที่ใจของเรา ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา กิเลสเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เราก็รู้จักละ รู้จักปรับสภาพจิตใจของตัวเราเอง ว่ามีความอ่อนน้อมอ่อนโยน มีความหนักแน่น
ใจเกิดกิเลสหยาบ กิเลสละเอียด กิเลสเกิดขึ้นที่กายหรือเกิดขึ้นที่ใจ เหตุจากภายนอกมาทำให้เกิด หรือเกิดขึ้นจากภายใน กำลังสติความรู้ตัว คำว่า ‘ปัจจุบันธรรม’ คือความรู้สึกตัว รับรู้เข้าออก จนรู้เท่าทันใจ จนใจคลายออกจากความคิด จนความรู้ตัวที่เราสร้างขึ้นมานี่ ตามดู ตามรู้ ตามเห็น นั่นแหละ เขาถึงจะเป็นสติ แล้วก็มหาสติ ตามดู ปัญญาฝ่ายดับ ทำความเข้าใจ แล้วก็รู้แจ้งเห็นจริง เข้าใจในหลักของอนิจจัง-ทุกขัง- อนัตตา ในกายของตัวเรา ในขันธ์ห้าของเรา ไม่มีเรื่องอื่น มีเรื่องเดียวเท่านั้นที่จะเจาะลึกลงไปให้เห็น ถอนรากถอนโคน
ส่วนมากก็มีเด็ดตั้งแต่ยอด ก็ปิดปกคลุมอยู่เรื่อย ๆ ในหลักธรรมท่านให้ถอนเข้าไปถึงราก เห็นการเกิด เขาก่อตัวตรงไหน ความคิดเกิดขึ้นมาได้อย่างไร คำว่าการเกิดนั้นเขาก็หลง ถ้าไม่หลงก็ไม่เกิด เกิดอยู่ในระดับของมาสร้างขันธ์ห้ามาปิดกั้นตัวเอง แล้วก็ตัวใจก็มาปิดกั้นตัวเองอีก เราพยายามไล่ลงไปเรื่อย ๆ แต่เวลานี้กำลังสติของเราที่ไม่ค่อยมีความเพียรกัน ก็เลยรู้ไม่เท่าทัน ก็เลยมีแต่ความสงสัย มีแต่ความลังเลสารพัด เพียงแค่ระดับสมมติยังคลายไม่ตก ก็ยากที่จะคลายเข้าไปถึงข้างในได้ ก็ไม่เหลือวิสัยหรอกนะ ก็พยายาม
อย่าปิดกั้นตัวเอง เราล้มแล้วลุกขึ้นมาใหม่ แก้ไขใหม่ มันไม่หลุดพ้นจริง ๆ จะไปต่อเอาภพหน้านั่นแหละ ความเป็นจริงมีอยู่ สัจธรรมมีอยู่ ไม่ใช่ว่าไม่มี ท่านสอนเรื่องของความเป็นจริง สอนเรื่องของชีวิตของเรา ถ้าเรารู้จักแก้ไขเรา เอาไปใช้กับชีวิตมันได้ตลอดเวลา จนกระทั่งหมดลมหายใจ ทรัพย์ภายในก็เต็มเปี่ยม ทรัพย์ข้างนอกก็ยังประโยชน์ให้มันล้นหลามออกไปเรื่อย ๆ ยังประโยชน์ให้เต็มที
สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกให้ชัดเจน
พากันไหว้พระพร้อม ๆ กัน พากันไปศึกษาทำความเข้าใจต่อให้รู้ทุกอิริยาบถ