แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
หลวงพ่อฝากไว้ ลำดับที่ 53
วันที่ 8 มิถุนายน 2557
เจริญธรรมญาติโยมทุกคนทุกท่าน ขอให้ญาติโยมจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้ สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจนแล้วก็ให้ต่อเนื่อง ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมาเราได้สำรวจใจของเราแล้วหรือยัง เราได้วิเคราะห์ใจ รู้ลักษณะของใจของเราแล้วหรือยัง ทำความเข้าใจให้ต่อเนื่องให้เชื่อมโยงแล้วหรือยัง ถ้ายังก็พยายามเริ่มเสีย นั่งตามสบาย วางกายให้สบาย ไม่ต้องพนมมือ
ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาว ๆ ลึก ๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาว ๆ สัก 2-3 เที่ยว กายของเราก็สบายขึ้นเยอะ ใจของเราก็สงบตั้งมั่นขึ้น ความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจ นั่นแหละเขาเรียกว่า ‘สติรู้กาย’ ทำอย่างไรเราถึงให้รู้ให้ต่อเนื่อง ตั้งแต่ยังไม่ลุกจากที่ แล้วก็รู้จักเอาไปใช้ รู้เท่าทันใจ รู้ลักษณะของใจ ใจที่ปกติเป็นอย่างไร ใจที่ไม่เกิดเป็นอย่างไร ความคิดที่ผุดขึ้นมาปรุงแต่งใจซึ่งมีกันทุกคน ซึ่งเรียกว่า ‘อาการของใจ’หรือว่าขันธ์ห้า วิญญาณในขันธ์ห้าเป็นลักษณะอย่างไร
เราต้องเจริญสติสร้างความรู้ตัวให้รู้เท่าทัน หมั่นสังเกต หมั่นวิเคราะห์ หมั่นสำรวจ หมั่นพิจารณา ทั้งทางด้านรูปธรรม ทั้งทางด้านนามธรรม ถ้าเราเกียจคร้าน ยากที่จะเข้าใจ เราต้องเป็นบุคคลที่ขยันหมั่นเพียรเป็นเลิศเลยทีเดียว ทำความเข้าใจ ขัดเกลากิเลสออกจากจิตจากใจของเรา เป็นบุคคลที่ฝักใฝ่สนใจ อยู่คนเดียวเราก็วิเคราะห์เรา อยู่หลายคนเราก็วิเคราะห์เรา
ทุกคนปรารถนาที่จะหาทางดับทุกข์ ทุกคนปรารถนาที่จะหาทางหลุดพ้น แต่การดำเนินวิธีแนวทางไม่ค่อยจะสนใจกัน มีตั้งแต่ไปนึกเอาไปคิดเอา เอาตั้งแต่คุยกัน แทนที่จะสร้างความขยันหมั่นเพียร รู้จักขัดเกลา รู้จักละกิเลส ขวนขวายฝักใฝ่ ลักษณะของใจที่ปราศจากกิเลสเป็นอย่างไร ใจที่ไม่เกิดเป็นอย่างไร กายวิเวกเป็นอย่างไร ใจวิเวกเป็นอย่างไร สติรู้ตัวอยู่ปัจจุบันเราสร้างขึ้นมาแล้วประคับประคองให้ต่อเนื่อง เอาไปใช้การใช้งานได้แล้วหรือยัง ทั้งที่ใจก็เป็นบุญนั่นแหละ แต่เป็นบุญที่ยัง ยังหลงอยู่ ใจยังคว่ำอยู่ ความเห็นยังไม่ถูกต้อง
ความเห็นถูกต้องคือ ใจต้องคลายออกจากขันธ์ห้า ซึ่งเรียกว่า ‘แยกรูปแยกนาม’ ภาษาธรรมท่านเรียกว่า ‘สัมมาทิฏฐิ’ ความเห็นที่ถูก พอเห็นถูกแล้วก็ สติตามทำความเข้าใจ เห็นการเกิดการดับของขันธ์ห้า ซึ่งเรียกว่าอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ในขันธ์ห้าเขาเกิดอย่างไร ทำไมใจถึงหลงจนเกิดอัตตาตัวตน ใจเกิดกิเลส กิเลสหยาบกิเลสละเอียดเป็นอย่างไร กิเลสเกิดขึ้นที่กายหรือว่าเกิดขึ้นที่ใจ ทำไมใจถึงมาสร้างภพสร้างชาติ
ภพของมนุษย์นี้เป็นอย่างไร คำว่า ‘ภพ’ เป็นลักษณะอย่างไร คือความยึดมั่นถือมั่น ความยึดมั่นถือมั่นถ้าคลายออก เราก็จะเข้าใจในคำสอนของพระพุทธองค์ เข้าใจคำว่า ‘อัตตา’ เป็นลักษณะอย่างนี้ ‘อนัตตา’ เป็นลักษณะอย่างนี้ ศีลเป็นลักษณะอย่างนี้ ความปกติ ความหมายของคำว่า ‘ศีล’ ความหมายของคำว่า ‘สมาธิ’ สมาธิที่เกิดจากการข่มเอาไว้ หรือสมาธิที่ปราศจากกิเลส ปราศจากการเกิด สมาธิด้วยปัญญาแยกแยะทำความเข้าใจรู้แจ้งเห็นจริง แล้วก็ค่อยละ ให้ได้ทุกอิริยาบถ ยืน เดิน นั่ง นอน กิน อยู่ ขับถ่าย สักวันหนึ่งเราก็คงจะถึงจุดหมายปลายทางกัน
ไม่ใช่ว่าไปปฏิบัติธรรมที่โน่นปฏิบัติธรรมที่นี่ สติยังไม่เข้าใจเลย สติยังไม่สร้างให้ต่อเนื่องเลย ไปปฏิบัติธรรมที่โน่นก็วุ่นวาย ที่นี่ก็วุ่นวาย เข้ามาวัดก็ว่าคนเยอะ วุ่นวาย เข้ามาวัดก็ว่าพาทำโน่นทำนี่ไม่ใช่การปฏิบัติ การทำความเข้าใจ ต้องเข้าใจทั้งสมมติ วิมุตติ เพียงแค่สมมติก็ขยันหมั่นเพียรทำหน้าที่ของเราให้ดี ทำหน้าที่ของเราให้ถูก ละความเกียจคร้าน สร้างความขยันหมั่นเพียร คนเราอาศัยอยู่เนื่องด้วยปัจจัยสี่ ที่พักที่อาศัย ที่หลับที่นอน ที่อยู่ที่กิน ยารักษาโรค เราก็ต้องทำความเข้าใจ
ไม่ใช่ว่าไปปฏิบัติธรรมที่โน่นที่นี่ มาปฏิบัติธรรมที่วัดแม้ตั้งแต่ถ้วยชามก็ยังไม่รู้จักล้าง จะเอาตั้งแต่ปฏิบัติธรรม กินเป็นแต่ล้างไม่เป็น เอาไปกองเอาไว้ให้คนอื่นเขาล้าง เพียงแค่สมมติแค่นี้ยังทำไม่ได้ มันจะไปได้อะไรล่ะ มันจะไปรู้อะไรล่ะ ที่พักที่อาศัยก็ยังไม่รู้จักดูแลรักษาความสะอาดความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่ในระดับของสมมติเราก็ต้องทำให้ดี ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้าน ที่ทำการทำงานหรือว่าอยู่ที่ไหน
ถ้าเรามีความขยันหมั่นเพียร อยู่ที่ไหนก็จะถึงจุดหมายปลายทางได้เร็วได้ไว ขยันหมั่นเพียรในการขัดเกลาในการละกิเลส ในการทำความเข้าใจ สิ่งที่ไม่มีเราก็พยายามสร้างให้มีให้เกิดขึ้น มีความเสียสละอย่างยิ่งยวด เสียสละจากนู่น จากภายในนู่น จนใจคลายออกจากความคิด ตามดูรู้เห็น จนเกิดความเบื่อหน่ายในความคิด ในอารมณ์ รู้ เข้าใจในส่วนรูปส่วนนาม เราก็ต้องพยายามเอานะ ไม่เหลือวิสัยหรอก ไม่ว่าพระ ว่าโยม ว่าชี พยายามขยันหมั่นเพียร ยังสมมติของเราให้เต็มเปี่ยม แล้วก็ถึงวิมุตติหลุดพ้น ถึงความบริสุทธิ์หลุดพ้นของใจของเรา สักวันหนึ่งเราคงจะเดินถึงจุดหมายปลายทางกัน
สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกให้ชัดเจน เพียงแค่การหายใจเข้าออกซึ่งมีกันทุกคน ก็ขาดการสังเกต ขาดการวิเคราะห์ ขาดการสร้างความรู้ตัว จะเอาตั้งแต่ความคิดเก่า ปัญญาเก่า ของเก่า อันนั้นก็ปกปิดตัวเขาไว้หมดแล้วแหละ เรามาสร้างผู้รู้ตัวใหม่ เข้าไปวิเคราะห์อบรมบ่มนิสัย มองชี้เหตุชี้ผลให้ใจของเรามองเห็นความเป็นจริงได้นั่นแหละ เขาถึงจะยอมปล่อยยอมวางได้
สร้างความรู้ตัวให้ชัดเจนกันนะ พากันไว้พระพร้อม ๆ กัน พากันไปศึกษาทำความเข้าใจกันเอานะ