แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ตามความเป็นจริง ลำดับที่ 44
วันที่ 18 พฤษภาคม 2557
ขอให้ญาติโยมเราทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจน ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมา เราได้สร้างความรู้ตัวให้ต่อเนื่องให้เชื่อมโยงแล้วหรือยัง ถ้ายังก็เริ่มเสียนะ
เพียงแค่การสร้างความรู้ รับรู้สัมผัสของลมหายใจเข้าออก พวกเราก็ขาดการสังเกต ขาดการวิเคราะห์ ทั้งที่ใจก็เป็นบุญ ใจก็เป็นธรรม ใจก็ปกติ แต่เราขาดการทำความเข้าใจ เราเลยไม่เข้าใจในรายละเอียดในชีวิตของตัวเราเอง ว่ากายของเรานี้มีอะไรบ้าง ซึ่งมีวิญญาณเข้ามาครอบครอง วิญญาณในขันธ์ห้า คำว่า ‘ขันธ์ห้า’ ที่ท่านว่าเป็นกองเป็นขันธ์เป็นลักษณะอย่างไร อะไรคือส่วนรูปธรรม อะไรคือส่วนนามธรรม
เราจงพยายามวิเคราะห์ สังเกต สังเกตดู รู้ให้เท่าทัน… รู้ไม่ทัน เราก็พยายามหยุด พยายามดับความคิดเก่า ๆ ซึ่งเกิดจากตัววิญญาณ หรือว่าอาการของวิญญาณ
ถ้าเราสังเกตทัน ตัววิญญาณ หรือว่าตัวใจ จะคลายออกจากอาการของวิญญาณ ซึ่งเป็นฝ่ายนามธรรม เราก็จะเห็นความว่าง รู้ลักษณะของความว่าง แล้วก็มาดับความเกิด ดับตั้งแต่เขาก่อตัว ก็จะเข้าถึงตัวใจ เข้าถึงตัววิญญาณ หลายชั้นที่มาปกปิดดวงใจเอาไว้ ตัวใจก็หาทางหาวิธีปิดตัวเองเอาไว้
กำลังสติของเราต้องแหลมคมเร็วไว วิเคราะห์ ชี้เหตุชี้ผล รู้ไม่ทัน ดับเอาไว้ แล้วก็รู้จักการเจริญพรหมวิหารเข้าไปทดแทน รู้จักขัดเกลา ใจเกิดความอยาก เราก็ดับความอยาก ใจเกิดความโลภ เราก็พยายามละความโลภด้วยการให้ ด้วยการเอาออก ด้วยการคลาย ใจเกิดความโกรธ เราก็พยายามให้อภัย อโหสิกรรม มองโลกในทางที่ดี ใจของเรามีความเกียจคร้าน สติปัญญาของเรามีความเกียจคร้าน เราก็พยายามกระตุ้น สร้างความขยันหมั่นเพียร สร้างความรับผิดชอบ ไม่เห็นแก่ตัว ไม่เห็นแก่กิน ขยันหมั่นเพียร หมั่นวิเคราะห์ ฝักใฝ่สนใจอยู่ตลอดเวลา
สักวันหนึ่ง เราก็จะมองเห็นแนวทาง สักวันหนึ่ง เราก็คงจะเข้าใจ ไม่เข้าใจช้า ก็ต้องเข้าใจเร็ว เพราะว่าตราบใดที่ใจยังเกิดอยู่ เราก็ต้องพยายามสร้างอานิสงส์ สร้างตบะบารมีให้เต็มเปี่ยม ก่อนที่จะไม่มีกำลัง
ไม่ว่าสมมติภายนอก เราพยายามยังประโยชน์ให้เต็มที่ จนกว่ากำลังสติปัญญาของเราจะเต็มบริบูรณ์หมด ค่อยพัฒนาไปเรื่อย ๆ ล้มแล้วลุกขึ้นมาใหม่ แก้ไขใหม่ ปรับปรุงตัวเราอยู่ตลอดเวลา บุคคลเช่นนี้แหละจะเข้าถึงฝั่งได้เร็วได้ไว ก็ต้องพยายามกัน
แนวทางนั้นมีอยู่ พระพุทธองค์ท่านได้ค้นพบ เอามาเปิดเผย ก็เรื่องชีวิตของเรานั่นแหละ ไม่ใช่เรื่องอันอื่นหรอก ก็เรื่องกายเรื่องใจของเรานี่แหละ ทำอย่างไรถึงจะถึงจุดหมาย
เราอย่าทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก เราจงพยายามทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย ทำเรื่องง่ายให้เหมือนกับเป็นธรรมดาธรรมชาติ แต่เราเข้าไม่ถึงธรรมชาติ เพราะว่าปกปิดธรรมชาติ ใจที่ปราศจากกิเลส เขาก็สะอาด เขาก็บริสุทธิ์ แต่เราเอาความโลภ ความโกรธ ความทะเยอทะยานอยากมาปกปิดเขาเอาไว้
ในหลักธรรม ทั้งความอยาก ทั้งความไม่อยาก ก็ต้องขัดเกลาออกให้หมดจากจิตจากใจของเรา เปลี่ยนจากความอยากความไม่อยาก เป็นความต้องการของสติปัญญา หาเหตุหาผลเอามายังประโยชน์สมมติให้เกิดประโยชน์ ถึงเวลาก็ต้องได้วางหมด แต่ยังไม่ถึงเวลา เราก็วางที่ใจของเรา แต่สมมติภายนอกเราก็ทำหน้าที่ความรับผิดชอบด้วยสติด้วยปัญญา ด้วยเหตุด้วยผล อยู่ด้วยปัญญาล้วน ๆ
ก่อนที่จะอยู่ด้วยปัญญาล้วน ๆ เราก็ต้องหมั่นพร่ำสอนใจให้เห็นตามความเป็นจริงทุกอย่าง แล้วก็ดับความเกิดของใจของเราให้ได้ ได้บ้างไม่ได้บ้างก็พยายามทำ
แต่เวลานี้กำลังสติของเรามีน้อย มีไม่เพียงพอ ก็เลยทำความเข้าใจในรายละเอียดไม่ได้ แต่อาจจะมองเห็นอยู่ในภาพรวม เข้าใจถูกต้องอยู่ในภาพรวม แต่ในหลักของความเป็นจริง เราต้องแจง ต้องแยกแยะให้รู้เห็นตามความเป็นจริงให้ได้หมด ถึงจะหมดความสงสัย อยู่อย่างมีความสงบความสุข อยู่ที่ไหนก็มีความสุข อยู่คนเดียวก็มีความสุข อยู่หลายคนก็มีความสุข ก็ต้องพยายามกัน
สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกให้ชัดเจนกันนะ
พากันไหว้พระพร้อม ๆ กัน ค่อยไปศึกษาทำความเข้าใจต่อกัน