PAGODA

  • Create an account
  • Forgot your username?
  • Forgot your password?
or

Connection

Your e-mail is required to ensure the proper functioning of the Website and its services and we make a commitment not to reveal it to third parties

  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ
PAGODA
  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ

เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก

เข้าสู่ระบบ

  • สมัครสมาชิก
  • ลืมชื่อผู้ใช้?
  • ลืมรหัสผ่าน?

Search

  • หน้าแรก
  • เสียง
  • พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
  • ตามความเป็นจริง40
ตามความเป็นจริง40 รูปภาพ 1
  • Title
    ตามความเป็นจริง40
  • เสียง
  • 11783 ตามความเป็นจริง40 /aj-sumran/40.html
    Click to subscribe
    • Share
    • Tweet
    • Email
    • Share
    • Share

ผู้ให้ธรรม
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
วันที่นำเข้าข้อมูล
วันอังคาร, 27 มิถุนายน 2566
ชุด
ตามความเป็นจริง
  • แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [ลองพูดคุยกับ AI ทาง Line]

  • ตามความเป็นจริง ลำดับที่ 40

    วันที่ 10 พฤษภาคม 2557

    ขอให้ญาติโยมเราทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจน นั่งตามสบายวางกายให้สบาย วางใจให้สบาย ฟังไปด้วยน้อมสำเหนียก ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาว ๆ ลึก ๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาว ๆ สักสองสามเที่ยว

    การสร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจนี่แหละ เขาเรียกว่า ‘การเจริญสติรู้กาย’ สติไม่มี เราก็ต้องสร้างขึ้นมาให้อยู่กับกายของเรา ความรู้สึกพลั้งเผลอก็เริ่มขึ้นมาใหม่ เพียงแค่สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจเข้าหายใจออกให้ต่อเนื่องให้เชื่อมโยง ตรงนี้พวกเราก็ขาดความเพียรกันมาก ทั้งที่ใจก็เป็นบุญใจปรารถนาอยากจะได้บุญ ใจปรารถนาที่จะหาทางดับทุกข์ หาทางหลุดพ้น

    ตัวใจนั่นแหละคือตัวบุญ ตัวใจนั่นแหละคือตัวธรรม แต่เวลานี้เขายังเกิดอยู่ เขายังหลงอยู่ นอกจากบุคคลที่มาเจริญสติเข้าไปอบรมใจ เข้าไปสังเกตใจ เข้าไปวิเคราะห์ใจ  แล้วก็แก้ไขพฤติกรรมของใจ ไม่ให้ใจของเราเกิด ไม่ให้ใจของเราหลง ชี้เหตุผล ๆเห็นความจริง เห็นความเกิดความดับ ตามทำความเข้าใจ จนใจมองเห็นความเป็นจริง ใจแยกใจคลาย ใจพลิกใจหงาย แล้วก็ละกิเลสออกจากใจของเรา นั่นแหละ เราถึงจะเห็นมองชัดเจน

    แต่เวลานี้ เรามองเห็นอยู่ในภาพรวม คิดก็รู้ทำก็รู้ มันหลงอยู่ในความรู้ เพราะว่าใจยังเกิด ทั้งเกิดทั้งหลง เอาขันธ์ห้ามาปกปิดตัวเอง แถมเป็นทาสของกิเลสอีก นอกจากบุคคลที่มีสติแหลมคม มีความเพียรเป็นเลิศ มีความขยันหมั่นเพียร มีการสังเกตมีการละกิเลส มีการสร้างตบะบาร มีการขัดเกลากิเลสตัวเรา การสร้างคุณงามความดี ทุกอริยาบทตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ยืนเดินนั่งนอนกินอยู่ขับถ่าย

    การได้ยินได้ฟังได้อ่าน ทุกคนมีกันเต็มเปี่ยม แต่การลงมือการกระทำต้องทุกขณะลมหายใจเข้าออก เขาเรียกว่า ‘ทุกขณะจิต’ ‘ทุกขณะลมหายใจเข้าออก’ ทำอย่างไรถึงจะได้ทุกขณะลมหายใจเข้าออก นอกจากบุคคลที่เจริญสติเข้าไปเห็นการเกิดการดับของวิญญาณ การเกิดการดับของความคิด แยกแยะได้ ใจของเราหงายขึ้นมาได้ ตามดูได้ นั่นแหละกำลังสติของเราจะพุ่งแรง ตามดูจนหมดความสงสัย กำลังสติก็จะกลายเป็นมหาสติ จากมหาสติก็จะกลายเป็นมหาปัญญา จากมหาปัญญาก็จะเข้าไปทำความเข้าใจ แล้วรู้จักละกิเลส รู้จักเจริญ รู้จักประคับประคอง รู้จักเอาไปใช้ จนเป็นอัตโนมัติ นั่นแหละ ถึงจะรู้ตัวทุกขณะจิต ทุกขณะลมหายใจเข้าออกได้

    การพูดง่าย แต่การลงมือต้องพยายามทำ ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็พยายามทำ อย่าไปทิ้งบุญ ในการทำบุญให้ทานไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ที่บ้าน ที่นา ที่ทำการทำงาน ให้รีบสังเกตวิเคราะห์ตัวเรา แก้ไขตัวเรา ละกิเลสได้บ้าง ไม่ได้บ้าง เราก็พยายามละ เราละได้จากต้นเหตุ กลางเหตุ ปลายเหตุ ใจของเรามีความอ่อนน้อมถ่อมตน หรือว่ามีความแข็งกระด้าง เราก็ต้องพยายาม

    ชี้ตัวเรา หาตัวเรา หาใจของเราให้เจอ บอกตัวเองให้ได้ ใช้ตัวเองให้เป็น ถ้าบอกตัวเราไม่ได้ ใช้ตัวเองไม่เป็นแล้วก็ ไปเที่ยวให้คนอื่นเขาบอก มันไปไม่ถึงไหนหรอก นอกจากเราจะสอนเรา แก้ไขเรา ปรับปรุงตัวเรา ถึงจุดหมายก็จะรู้เอง

    สร้างความรู้สึกการรับรู้หายใจเข้าออกให้ชัดเจนกันนะ

    ไหว้พระพร้อม ๆ กัน ค่อยไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันนะ

logo

  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • จดหมายข่าว
  • Privacy Policy
  • Terms of Service