แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ตามความเป็นจริง ลำดับที่ 39
วันที่ 9 พฤษภาคม 2557
ขอให้ญาติโยมเราทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจ ที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจน แล้วก็ให้ต่อเนื่องให้เชื่อมโยง
นั่งตามสบาย วางกายให้สบาย ไม่ต้องพนมมือ
หลวงพ่อเพียงแค่เล่า แค่ชี้แนะ แค่พูดให้ฟัง พวกท่านจะน้อมเข้าไปสร้าง เข้าไปทำความเข้าใจให้ต่อเนื่องเชื่อมโยงหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับตัวของพวกท่านเอง ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาว ๆ ลึก ๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาว ๆ สักสองสามเที่ยว กายก็รู้สึกว่าสบายขึ้นเยอะ
การสูดลมหายใจเข้าไปยาว ๆ ความรู้สึกสัมผัสของลมหายใจก็จะชัดเจน ถ้าเราพยายามสร้างความรู้สึกตรงนี้ เวลาหายใจเข้าหายใจออก หายใจเข้าหายใจออก ให้มีความรู้ที่ต่อเนื่อง ถ้าความรู้สึกพลั้งเผลอก็เริ่มใหม่ ความรู้สึกพลั้งเผลอก็เริ่มใหม่ ตรงนี้แหละสำคัญ จนกว่าความรู้ตัวของเราจะต่อเนื่องเชื่อมโยง จนกว่าจะรู้เท่าทันใจ จนกว่าจะเห็นการเกิดการดับของใจ เห็นการเกิดการดับของความคิด ซึ่งเป็นส่วนนามธรรม ส่วนกายของเรานี้เป็นส่วนรูปธรรม
การทำความเข้าใจ รู้เห็นความเป็นจริง เราจะละได้ หรือละไม่ได้ก็ค่อยว่ากัน อานิสงส์บุญศรัทธาความเชื่อมั่น ทุกคนมีกันเต็มเปี่ยม เชื่อมั่นในพระรัตนตรัย เชื่อบุญเชื่อบาปเชื่อกรรม ตรงนี้มีอยู่ แต่เรายังไม่เคยเห็นลักษณะของใจที่ปราศจากกิเลสเป็นอย่างไร ใจที่ไม่เกิดเป็นอย่างไร ใจที่คลายออกจากความคิดเป็นอย่างไร หรือว่าคลายออกจากขันธ์ห้า
การตามรู้ขันธ์ห้า เห็นความเกิดความดับ เขาเรียกว่า ‘เห็นอนิจจัง-ทุกขัง-อนัตตาในขันธ์ห้าของตัวเราเอง’ ไม่ใช่ว่าไปนึกเอา ไปคิดเอา เห็นการก่อตัวของใจ เขาเริ่มต้นที่ตรงไหน เหตุเกิดที่ตรงไหน นั่นแหละพระพุทธองค์ท่านชี้ลงเข้าไปที่เหตุ เจริญสติเข้าไปรู้ตั้งแต่ต้นเหตุ ตามทำความเข้าใจ มองเห็นเหตุเห็นผล เหตุผลทางด้านนามธรรม เหตุผลทางด้านรูปธรรม เหตุผลของสมมติ เหตุผลของวิมุตติ
ใจที่ปราศจากกิเลส ใจที่ไม่เกิดแล้ว เขาก็สะอาดบริสุทธิ์ อันนั้นเป็นแค่ผล การเริ่มต้นมันเอากิเลสมาปิด ปกปิดเอาไว้หมด เราต้องพยายามมาเจริญสติให้ได้เสียก่อน เราทำความเข้าใจให้ได้เสียก่อน หมดความสงสัย หมดความลังเล อยู่ที่ไหนก็จะเป็นวัด อยู่ที่ไหนเราก็จะได้ฟังธรรมะ
ตากระทบรูป ใจเป็นอย่างไร หูกระทบเสียง ใจเป็นอย่างไร รูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส ก็จะเป็นสิ่งทดสอบจิตใจของเรา สติปัญญาที่เราสร้างขึ้นมา ก็จะเป็นอาจารย์คอยตรวจสอบใจของเราว่า ใจของเราเกิดกิเลส เกิดความยินดียินร้ายอย่างไร เกิดเข้าไปร่วมได้อย่างไร ตรวจสอบอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา แต่เวลานี้กำลังสติมันมีน้อย แทบจะไม่มีเลย เอาตั้งแต่ปัญญา ความคิดที่เกิดจากตัวจิต เกิดจากขันธ์ห้า เอาไปตัดสิน มันก็เลยปกปิดตัวเองเอาไว้หมด ก็ต้องพยายามเอานะ
สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกให้ชัดเจน อย่าไปบังคับลมหายใจ
พากันไหว้พระพร้อม ๆ กัน ค่อยไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันเอานะ