PAGODA

  • Create an account
  • Forgot your username?
  • Forgot your password?
or

Connection

Your e-mail is required to ensure the proper functioning of the Website and its services and we make a commitment not to reveal it to third parties

  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ
PAGODA
  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ

เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก

เข้าสู่ระบบ

  • สมัครสมาชิก
  • ลืมชื่อผู้ใช้?
  • ลืมรหัสผ่าน?

Search

  • หน้าแรก
  • เสียง
  • พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
  • ตามความเป็นจริง35
ตามความเป็นจริง35 รูปภาพ 1
  • Title
    ตามความเป็นจริง35
  • เสียง
  • 11778 ตามความเป็นจริง35 /aj-sumran/35-2.html
    Click to subscribe
    • Share
    • Tweet
    • Email
    • Share
    • Share

ผู้ให้ธรรม
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
วันที่นำเข้าข้อมูล
วันอังคาร, 27 มิถุนายน 2566
ชุด
ตามความเป็นจริง
  • แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [ลองพูดคุยกับ AI ทาง Line]

  • ตามความเป็นจริง ลำดับที่ 35

    วันที่ 22 เมษายน 2557

    ขอให้ญาติโยมเราทุกคนทุกท่านจงเจริญสติให้ต่อเนื่อง ให้เชื่อมโยงกันสักพักหนึ่ง

    สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจเข้าออกของเราให้ชัดเจน ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาเราอาจจะรู้อยู่เป็นบางช่วง เป็นบางครั้ง แต่เราไม่ได้สร้างความรู้ตัวให้ต่อเนื่อง ตรงนี้แหละสำคัญ

    ทั้งที่ใจเป็นบุญ ใจปรารถนาอยากจะได้บุญ อยากจะรู้ธรรม การฝักใฝ่ การดำเนินชีวิตนั้นถูกต้องอยู่ในระดับของสมมติ แต่ในหลักธรรมแล้วเราต้องเจริญสติเข้าไปอบรมใจของเรา ว่าทำไมใจถึงเกิด ทำไมใจถึงเป็นทาสของกิเลส ทำไมใจถึงเกิดความทะเยอทะยานอยาก อันนี้สำหรับใจ

    แต่มีอาการของใจหรือว่าอาการของขันธ์ห้าอีก ตรงนี้แหละสำคัญ ที่ผุดขึ้นมาปรุงแต่งใจ แล้วใจเคลื่อนเข้าไปรวมเป็นสิ่งเดียวกันนี่แหละ โมหะอย่างลุ่มลึก ถ้าใจคลายออกจากตรงนี้ ถึงจะเรียกว่า ‘สัมมาทิฏฐิ-มีความเห็นถูก’

    เพียงแค่เห็นถูก แต่เราขาดการตามทำความเข้าใจ เขาก็จะกลับคืนสู่สภาพเดิมอีก แต่การละกิเลส การควบคุมใจมีเป็นบางครั้ง บางเรื่อง แต่การสังเกตการแยกตรงนี้ ถ้ากำลังสติไม่เร็วไม่ไวพอ ก็ยากที่จะเห็น ถ้าอานิสงส์ตบะบารมีไม่เพียงพอ ความเพียรไม่เพียงพอ ก็ยากที่ใจจะคลายออก

    ถ้าเรามีความเพียรเพียงพอแล้ว กำลังสติของเราไปเห็นการเกิดการดับของใจ กับอาการของใจคลายออกจากกัน แล้วตามทำความเข้าใจให้ได้ทุกเรื่อง กำลังสติถึงจะเป็นมหาสติ จากมหาสติก็จะกลายเป็นมหาปัญญา จากมหาปัญญาก็ทำความเข้าใจ แล้วก็รู้จักละรู้จักดับ ชี้เหตุชี้ผลให้ใจยอมรับความเป็นจริงได้จนหมดเรื่องที่จะเข้าไปค้นคว้า เขาถึงจะอยู่อุเบกขาได้

    พูดง่าย แต่การกระทำต้องอาศัยความเพียร อาศัยกาลเวลา อาศัยสร้างตบะบารมี

    ทำได้เท่าไหร่ก็อย่าไปทิ้ง พยายามทำ สักวันหนึ่งก็คงจะถึงเดินถึงจุดหมายปลายทาง ไม่ถึงช้าก็ต้องถึงเร็ว ตราบใดที่เรายังดำเนินอยู่ ตราบใดที่ยังเดินไม่ถึงจุดหมายปลายทาง สิ่งที่พวกเราทำนี้แหละ จะไปสานต่อในวันข้างหน้า หรือว่าภพข้างหน้า เพราะว่าอานิสงส์บุญกุศลจะติดตามตัวเราไป ก็ต้องพยายามกันนะ พยายามทำ ศึกษาสังเกตให้ได้ทุกอิริยาบถ

    คนมีบุญคนมีอานิสงส์ฟังนิดเดียว จะหมั่นวิเคราะห์ตัวเองอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาจนกระทั่งนอนหลับ จนหมดอะไรที่จะวิเคราะห์ รอตั้งแต่ให้ธาตุขันธ์แตกดับเท่านั้นแหละ

    สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกให้ชัดเจนกันนะ

logo

  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • จดหมายข่าว
  • Privacy Policy
  • Terms of Service