แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ตามความเป็นจริง ลำดับที่ 32
วันที่ 16 เมษายน 2557
ขอให้ญาติโยมเราทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจน แล้วก็ให้ต่อเนื่อง ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมาเราได้สร้างความรู้ตัวต่อเนื่องกันแล้วหรือยัง ถ้ายังก็เริ่มเสียนะ หลวงพ่อเพียงแค่บอก แค่ชี้แนะอุบายแนวทางเท่านั้นเอง
การเจริญสติที่ต่อเนื่องก็เพื่อที่จะให้รู้กายของตัวเราเสียก่อน รู้กายของเราแล้วลึกลงไปก็ให้รู้ใจ ใจที่ปกติเป็นอย่างไรการก่อตัวของใจเป็นอย่างไร อาการของใจเป็นอย่างไร อาการของขันธ์ห้าเป็นอย่างไร เราต้องพยายามหัดสังเกตให้รู้เท่าทัน ถ้าเรารู้เท่าทัน ใจของเราก็จะเเยกออกจากอาการของความคิดซึ่งเป็นฝ่ายนามธรรมด้วยกัน
ถ้าใจแยกออก ใจถึงจะแยกรูปแยกนามได้ เราก็ถึงจะเข้าใจคำว่า ‘อัตตา’ กับ ‘อนัตตา’ เข้าใจในความหมายของคำสอนของพระพุทธองค์ ว่าอัตตาเป็นลักษณะอย่างนี้นะ อนัตตาความว่างเปล่าเป็นลักษณะอย่างนี้นะ ใจที่ว่างจากความยึดมั่นถือมั่น ใจที่ไม่เกิด ใจที่มีกิเลส กิเลสหยาบกิเลสละเอียดเป็นอย่างไร เรารู้จักละ การดับ การละ การให้ การเอาออก การคลาย การทำความเข้าใจ การสำรวจ สติปัญญาที่เราสร้างขึ้นมานี่แหละ เข้าไปสำรวจชี้เหตุชี้ผล
แต่เวลานี้ใจของเราทุกคนเป็นตัวสำรวจ เป็นตัวปรุงตัวแต่ง ตัวส่งตัวหลง เราไปหลงเอาการเกิดของใจ ความคิดของใจว่าเป็นปัญญาที่เราเอามาใช้ แต่ก็เป็นปัญญาอยู่ในระดับของสมมติ อยู่ในระดับของโลกีย์ ไม่ใช่ปัญญาที่เกิดจากการเจริญสติเข้าไปคลายใจออกให้รับรู้ สติตามดูตามทำความเข้าใจ ให้ใจมองเห็นความเป็นจริง
การพูดง่าย แต่การลงมือ การกระทำ เราต้องทำทุกเวลา ใจเกิดกิเลสเมื่อไหร่เราก็ดับ เราก็ละจนกิเลสเหือดแห้งออกจากจิตจากใจของเรา ทำไมใจถึงหลง ชี้เหตุชี้ผล ตามดู ตามทำความเข้าใจ ให้ใจมองเห็นความเป็นจริงนั่นแหละใจถึงจะปล่อย ใจถึงจะวางได้ ถ้าอยากจะวาง ถ้าไม่รู้จุดวางมันก็วางไม่ได้ แต่ก็ไม่เหลือวิสัย พยายามศึกษาทำความเข้าใจไปเรื่อย ๆ สักวันหนึ่งเราก็คงจะเข้าใจในชีวิตของเรา มองเห็นชีวิต รู้จักดำเนินชีวิต อยู่อย่างมีความสุข อยู่อย่างไม่ประมาท ก็ต้องพยายาม
การได้เกิดมาเป็นมนุษย์นี่ก็ยากแสนยาก ยิ่งได้มาพบพระพุทธศาสนาอีกด้วย นี่ยิ่งเป็นสิ่งที่ดี เป็นสิ่งที่ประเสริฐ ก็ต้องพยายามกันนะ ไม่ว่าพระว่าโยมว่าชี การทำบุญให้ทาน ทุกคนมีกันเต็มเปี่ยม แต่การขัดเกลากิเลสต้องมีตลอดเวลา จนไม่มีอะไรที่จะขัดเกลา จนรู้จักเอาสติปัญญาไปทำหน้าที่แทนได้ทุกเรื่อง ไม่ช้าก็ต้องเร็ว เราก็ต้องเข้าใจ ถึงไม่ได้ตลอดก็จะไปต่อเอาวันข้างหน้า ไปต่อเอาภพหน้า
สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกของเราให้ชัดเจน ให้ต่อเนื่องกัน ทำใจให้โล่ง สมองให้โปร่ง อยู่หลายคนก็เหมือนกับอยู่คนเดียว อยู่คนเดียวขณะนี้ก็ให้รู้ว่าลมวิ่งเข้าวิ่งออกให้ชัดเจนกันนะ
พากันไหว้พระพร้อม ๆ กัน ค่อยไปศึกษาทำความเข้าใจต่อกันนะ