แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
มีความสุขกันทุกคน วันนี้ก็เป็นวันที่ 14 วันสงกรานต์ วันทำบุญรวม มีโอกาสพวกเราก็ได้มาร่วมบุญร่วมกุศลกัน มาสร้างบุญ มาสร้างบารมี มาทำความเข้าใจกับชีวิตของเรา
คนเราเกิดมา เกิดมาแล้วจะอยู่อย่างไรอย่างมีความสุข จะไปอย่างไรมีความสุข จะปฏิบัติตัวอย่างไรถึงจะไม่เป็นทุกข์ รู้ความเป็นจริงในชีวิตของเรา ก็ค่อยฝึก ค่อยศึกษา ค่อยแก้ไขกันไป
ทุกวันนี้ก็ลำบากอยู่ ทั่วโลกก็ลำบาก ประเทศของเราก็ลำบากเพราะว่าโควิดระบาด ก็คอยระวัง ระวังตัว ไม่ไปที่อโคจร ที่อโคจรคือที่มั่วสุมต่างๆ เราก็พยายามดูแลรักษาเรา รักษาเราแล้วก็รักษาเขา รักษาคนอื่น
สูงขึ้นไปก็รักษาใจให้ได้ตลอดเวลา สำรวมกายสำรวมวาจาสำรวมใจของเราอยู่ตลอดเวลา จนเป็นอัตโนมัติในการดู ในการรู้ ในการดำเนินชีวิต ก็จะได้ไม่เป็นบุคคลที่ประมาท
วันนี้ก็จะได้ทำพิธี ทำพิธีถวายทานร่วมกัน วันขึ้นปีใหม่ของเมืองไทย วันขึ้นปีใหม่ให้สมาทานศีลกันเสียก่อน คุณหมอพาสมาทานศีลกันเสียก่อน
มีความสุขกันทุกคน วันนี้ก็เป็นวันที่ 14 วันขึ้นปีใหม่ของไทย มีโอกาสได้มาร่วมบุญ ได้มาสร้างบุญ มีศรัทธาน้อมกายน้อมใจของเราเข้ามาในการสร้างบุญสร้างกุศลกัน เป็นสิ่งที่ดี เป็นสิ่งที่ประเสริฐ พวกเราก็ไปไหนมาไหนก็อย่าไปทิ้งบุญเด็ดขาด บุญนี่แหละเป็นอานิสงส์อันยิ่งใหญ่ที่จะไต่ขึ้นไปสู่ที่สูง คือความสะอาด ความบริสุทธิ์ ความหลุดพ้น ไม่ต้องกลับมาเกิดกัน
ทำบุญ มีศรัทธาในการทำบุญ มีศรัทธาในการให้ทาน แต่ต้องมีปัญญาอีกด้วย ปัญญาที่เกิดจากการเจริญภาวนา ทำความเข้าใจ รู้แจ้งเห็นจริงในกายของเรา ในชีวิตของเรา การดำเนินชีวิตของเราให้ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ก็จะได้มีความสุข
รอบรู้ในขันธ์ 5 รอบรู้ในจิตวิญญาณในกายของเรา รอบรู้ ในหลักของอริยสัจ ความจริงอันประเสริฐ ที่พระพุทธองค์ท่านได้ทรงชี้เหตุชี้ผลเอาไว้ ให้ปรากฏขึ้นที่ใจของเรา แล้วก็หมั่นขัดเกลากิเลสออกจากจิตจากใจของเรา ให้หมดจดเท่าที่เราจะทำได้
โอกาสเปิด กาลเวลา เปิดสถานที่เปิด ในเมื่อเราได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ก็นับว่าเป็นสัตว์อันประเสริฐ ก็พยายามศึกษาค้นคว้า หาความจริงในกายของเราให้ได้ ให้ใจของเราไม่ต้องกลับมาวนเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏสงสารอีกต่อไปในวันข้างหน้า
เราดับความเกิดไม่ได้ ละกิเลสไม่ได้ ก็ให้อยู่ในกองบุญกองกุศลเอาไว้ เพราะว่าความจริงนั้นมีอยู่ ที่พระพุทธองค์ท่านทรงสอนเอาไว้นั้นมีหมด ซึ่งมีอยู่ในกายของเรา คือความเกิด ความดับ นั่นแหละ ในหลักของอริยสัจ ความจริง ก็อนิจจัง ทุกขัง อนัตตาในกายของเรา กองรูปกองนาม
อะไรคืออัตตา อนัตตา อะไรคือสมมติ อะไรคือวิมุตติ เขาก็อยู่รวมกัน อยู่ในกายของเรา เรามาเจริญสติเข้าไปชี้เหตุชี้ผล ให้เห็นเหตุเห็นผล แต่ละวันๆ เราก็จะอยู่กับบุญ ทำกายให้เป็นบุญ ทำใจให้เป็นบุญ ทำวาจาให้เป็นบุญ เราก็จะอยู่กับบุญตลอด
ทำกายให้เป็นวัด ทำใจให้เป็นพระ อยู่ที่บ้านก็ได้เข้าวัด อยู่ที่บ้านก็ได้ทำบุญ ทำการทำงาน สูงขึ้นไปก็เจริญสติเข้าไปชี้เหตุชี้ผล ให้เห็นเหตุเห็นผล รู้แจ้งเห็นจริงในสัจธรรมในกายของเรา เพราะว่าในกายของเรานี้มีอะไรดีๆ อีกเยอะมากมายที่เราจะต้องศึกษา ทำความเข้าใจให้รู้แจ้งเห็นจริง ก่อนที่ร่างกายเขาจะแตกจะดับ ก็ต้องพยายามกัน
แต่ละวันๆ ก็ คนเรานี้เกิดมามีความตายเป็นที่ตั้ง เกิดมาเท่าไหร่ก็ตายหมด ไม่ตายช้าก็ตายเร็ว แต่ถ้าพูดถึงเรื่องความตายแล้วก็ไม่อยากจะฟังกัน เพราะว่าไม่ชอบ ก็เพราะว่ากฎของไตรลักษณ์ กฎของความเป็นจริงมันก็มีอยู่อย่างนั้น เรามาทำความเข้าใจ ยังไม่ถึงเวลาก็ไม่ได้ไป ถ้าถึงเวลาแล้ว เอาอะไรมาฉุดมารั้งเอาไว้ก็ไม่อยู่
ขณะที่ยังมีลมหายใจอยู่นี่แหละ ให้รีบตักตวง หากำไรในการกรณีให้ได้ ตั้งแต่มีศรัทธา ความเชื่อมั่น ทำบุญให้ทาน แล้วก็ปฏิบัติให้บรรลุถึงเป้าหมาย คือไม่ต้องกลับมาเกิดกัน ไม่ต้องไปวนเวียนว่ายตายเกิดกันอีก ตราบใดที่ยังไม่หลุดพ้นก็ต้องอาศัยอานิสงส์ผลบุญ ดำเนินเดินทางในชีวิตของเรา เพราะว่ากายเนื้อแตกดับ ใจก็ยังเกิดต่อ ขณะที่กายเนื้อยังไม่แตกดับ เขาก็ยังเกิดอยู่ คือความคิดของเรานั่นแหละ เกิดๆ ดับๆ
วิญญาณเกิด วิญญาณหรือว่าใจเกิด ใจเกิดอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่เช้ามาไม่รู้เกิดสักกี่เรื่อง เกิดก็ขอให้เกิดอยู่ในกองบุญกองกุศลเอาไว้ ทำมากก็เป็นของเรา ทำน้อยก็เป็นของเรา เห็นคนอื่นทำเราก็พลอยอนุโมทนาสาธุด้วย เราก็จะมีส่วนแห่งบุญ
วันพรุ่งนี้ก็จะได้มีท่านผู้ใจบุญ ได้มาทำการไถ่ชีวิตโคประมาณ 4 คู่ มีโอกาสก็จะขอเชิญพี่น้องของเรามาร่วมกัน มาร่วมกันอนุโมทนาสาธุด้วยกัน ไถ่ทุกเดือน ผู้ใจบุญทางกรุงเทพฯ ทางใกล้ทางไกลได้ยินข่าว บางทีท่านก็มาด้วยตัวเอง บางทีท่านก็ไม่ได้มา ส่งจตุปัจจัยมาไถ่วัวที่เขาจะนำไปสู่โรงฆ่าสัตว์ เอามาไถ่ออกมาไว้ แล้วก็จะได้ให้พี่น้องเราได้ไปเลี้ยง มีโอกาสก็ขอเชิญมาร่วมกัน
หลายสิ่งหลายอย่าง อะไรที่จะเป็นประโยชน์ก็ให้ช่วยกันทำ ให้ช่วยกันทำ อย่าไปมองข้าม บุญเล็กๆ น้อยๆ ก็จะไปหาบุญอันยิ่งใหญ่ มีโอกาสหลวงพ่อก็พาทำ ทำทุกอย่างนั่นแหละ ทำทุกอย่างทอะไรที่จะเป็นประโยชน์ ประโยชน์มาก ประโยชน์น้อย ประโยชน์ใกล้ ประโยชน์ไกล ทำเพื่อจุดมุ่งหมายปลายทางขั้นแรกที่สุด ก็เพื่อละกิเลสของเรานั่นแหละ
การให้ทานก็เพื่อที่จะขัดเกลากิเลส เพื่อที่จะให้ใจของเราสะอาดบริสุทธิ์ อานิสงส์ก็จะได้ช่วยเหลือพี่น้องของเรา ช่วยเหลือเพื่อนเกิดแก่เจ็บตายด้วยกัน ให้ได้มีความสุขด้วยกัน ไปด้วยกัน อยู่ด้วยกันก็ให้มีความสุข อยู่หลายคนก็มีความสุข อยู่น้อยคนก็มีความสุข ถึงวาระเวลาก็ต้องได้พลัดพรากจากกัน ไม่ได้พลัดพรากจากกันตอนเป็น ก็ต้องได้พลัดพรากจากกันตอนตายมเพราะเป็นกฎของไตรลักษณ์ กฏของความเป็นจริง มารับเอาโลงศพทุกวันวันละ 2 โลงบ้าง 3 โลงบ้างบางทีก็ 5 โลง 7 โลงก็มี บางวัน
ที่หลวงพ่อได้ช่วยเหลือตั้งชุดฌาปนกิจสงเคราะห์ ช่วยเหลือผู้วายชนม์ ตั้งแต่ก่อนก็ช่วยเหลือเฉพาะแต่เขตตำบลสำราญ พอทำไปทำมารอบเมืองขอนแก่นเลย ได้ยินข่าวทราบข่าวก็พากันมา พากันมา หมดไปแล้วก็ประมาณ 2 พันเจ็ด-แปดร้อยกว่าโลง ทั้งโลงศพด้วย ผ้าขาว ผ้าไตรจีวร ทั้งกองทุนด้วยศพละ 5,000 บาท ไปช่วยเหลืองานศพ บางคนก็ลำบาก บางคนก็ดูแลรักษากันแล้วก็หมดชีวิต หมดลมหายใจแล้วก็ไม่มีแม้กระทั่งเงินค่ารถจะกลับบ้านก็ไม่มี ก็ต้องมาขอรับ มาขอรับความอนุเคราะห์
หลวงพ่อก็ขอขอบคุณ ขอบคุณ ขอบใจ เหล่ามนุษย์ที่มีกายเนื้อ เหล่าเทวดาที่มีกายทิพย์ ที่มาร่วมกัน มาช่วยกัน บางคนบางท่านก็บริจาคโลงศพมาแต่ละเดือนๆ ก็ขอขอบคุณมาณที่นี้ด้วย บางคนบางท่านก็ร่วมบริจาคทรัพย์มาคนละเล็กละน้อย หลวงพ่อก็จะคอยรวบรวม หลายสิ่งหลายอย่าง อะไรที่จะเป็นประโยชน์ ประโยชน์แต่ละจุด ประโยชน์แต่ละทาง บางทีก็เข้าสู่โรงทาน บางทีก็เข้าสู่การช่วยผู้วายชนม์ บางทีก็เข้าสู่การไถ่ชีวิตโค
แต่ละจุดๆ หลวงพ่อก็จะพาทำ บางส่วนก็ทำทางด้านถาวรวัตถุ ทางด้านเจดีย์ มหาเจดีย์ หลายสิ่งหลายอย่าง อะไรที่จะเป็นประโยชน์ ประโยชน์มากทประโยชน์น้อย โปรดส่วนตัว ประโยชน์ส่วนรวมทประโยชน์ส่วนตัวนี้จะไม่ให้มี จะให้มีประโยชน์ส่วนรวม ส่วนตัวของเราทำไว้เต็มหมดแล้ว มีตั้งแต่ประโยชน์ส่วนรวม ให้ได้อานิสงส์กัน
มีโอกาสก็ขอเชิญพี่น้องเรามาร่วมกัน มาช่วยกันขณะยังมีกำลัง ตามกำลังสติปัญญาของเรา ตามกำลังศรัทธาของเรา เท่าที่อานิสงส์บุญของเรามีเราก็ทำ ทำมากก็เป็นของเรา ทำน้อยก็เป็นของเรา เห็นคนอื่นทำเราก็พลอยอนุโมทนาสาธุด้วย เราก็มีส่วนแห่งบุญ
สูงขึ้นไปเราก็รู้จักการเจริญสติ สติรู้ตัวอยู่ปัจจุบันเป็นลักษณะอย่างนี้ การแยกรูปแยกนามเป็นลักษณะอย่างนี้ การละกิเลสหยาบ ละกิเลสละเอียดเป็นลักษณะอย่างนี้ เราก็จะเข้าใจคำสอนของพระพุทธองค์ ท่านสอนเรื่องหลักของอริยสัจ คือความจริงงานประเสริฐ ว่าเป็นลักษณะอย่างไร ที่ท่านเรียกว่าทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ก็การเกิดการดับของใจของเรานี่เป็นลักษณะอย่างไร มีอยู่ในกายของเราหมด แต่เราก็ต้องเจริญสติเข้าไปจำแนกแจกแจง ตามแนวทางอริยมรรคในองค์ 8 คือสัมมาทิฏฐิ ความเห็นถูก คำว่า 'ความเห็นถูก' นี่เห็นถูกในหลักธรรม เราต้องเจริญสติจนรู้ จนใจของเราคลายออกจากขันธ์ 5 แยกรูปแยกนามได้ ความเห็นถูกตรงนี้ถึงจะปรากฏ
แต่พวกเราก็เห็นถูกอยู่ในคุณงามความดี เห็นถูกอยู่ในคลองธรรมระดับของโลกีย์ ของสมมติ แต่ก็ยังดับทุกข์ที่ใจของเรายังไม่ได้ เพราะว่าเรายังคลายใจออกจากขันธ์ 5 ยังแยกรูปแยกนามไม่ได้ ละกิเลสหยาบกิเลสละเอียดไม่ได้ ก็ขอให้อยู่ในกองบุญกองกุศลเอาไว้ ไม่หลุดพ้นวันนี้ ก็วันพรุ่งนี้ เดือนนี้ เดือนหน้า ไม่หลุดพ้นจริงๆ ก็จะไปต่อเอาภพหน้า ตราบใดที่ใจยังเกิดอยู่
กายเนื้อ ถึงอย่างไรมันถึงเวลาแตกดับ มันก็ต้องแตกดับ ถ้าไม่ถึงเวลาก็ไม่แตกดับ เราก็รีบตักตวงสร้างบุญ สร้างประโยชน์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขณะที่ยังมีกำลังอยู่
ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ ในวันสงกรานต์นี้ หลวงพ่อก็ขอให้ทุกคนจงประสบตั้งแต่ความสุขความเจริญในชีวิตยิ่งๆ ขึ้นไป จนกว่าจะหลุดพ้น ไม่ต้องกลับมาเกิดกัน ตั้งใจรับพรกัน
ขอให้ทุกคนทุกท่านจงไหว้พระพร้อมๆ กัน