แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ หรือว่าสร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจ ที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจน แล้วก็ให้ต่อเนื่อง
ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมา ตั้งแต่ยังไม่ได้ลุกจากที่ เราได้สร้างความรู้ตัวแล้วหรือยัง ถ้ายังก็เริ่มเสีย
ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ สัก 2-3 เที่ยว กายก็รู้สึกว่าสบายขึ้นเยอะ ใจของเราก็จะสงบตั้งมั่นขึ้น ความรู้สึกสัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราก็จะชัดเจน
พยายามฝึกให้เกิดความเคยชิน ตั้งแต่ตื่นขึ้น จนกระทั่งนอนหลับ เป็นอัตโนมัติในการที่จะเข้าไปแก้ไขใจของเรา
การเจริญสติ หรือว่าสร้างความรู้ตัว หรือว่ามาสร้างผู้รู้ ใจของเรานั้นธาตุรู้ คิดก็รู้ ทำก็รู้ แต่เขารู้แบบโลกๆ เขายังหลงอยู่ เขายังหลงเกิดอยู่ ยังหลงเป็นทาสของกิเลสอยู่ ยังส่งออกไปภายนอกอยู่ เราถึงได้มาสร้างผู้รู้ หรือว่ามาเจริญสติตัวใหม่ ให้มีให้เกิดขึ้นที่กายของเรา แล้วก็ไปอบรมใจของเรา ไปหัดสังเกตการเกิดการดับ
ทำไมใจถึงเกิดส่งออกไปภายนอกได้ ทำไมความคิดที่เราไม่ตั้งใจคิดผุดขึ้นมา ใจเคลื่อนเข้าไปรวมได้อย่างไร เป็นส่วนนามธรรม เราต้องจำแนกแจกแจงให้ได้ ว่าอะไรคือสติที่เราสร้างขึ้นมา อะไรคือใจ ความปกติของใจอยู่ตรงไหน ภาษาธรรม ภาษาโลกเป็นลักษณะอย่างไร
คำว่า 'ศีล' ปกติ ปกติอยู่ในระดับไหน ระดับกาย ระดับวาจา ปกติระดับใจ ใจที่เป็นสมาธิเป็นอย่างไร ใจที่ไม่มีกิเลสเป็นอย่างไร เราต้องหัดสังเกต หัดวิเคราะห์ เรารู้ไม่ทันต้นเหตุเราก็หยุด ใช้สมถะเข้าไปหยุด หรือว่าเข้าไปดับ ให้เขาสงบให้เขานิ่ง
พยายามทำการศึกษาการเล่าเรียน ผ่านกาลผ่านเวลา บางคนบางท่านก็ฝึกหัดปฏิบัติกันมา ที่โน่นบ้าง ที่นี่บ้าง นั่นก็เป็นสิ่งที่ดี ฝึกศึกษา สักวันหนึ่งเราก็คงจะถึงจุดหมายปลายทาง ถึงความบริสุทธิ์ความหลุดพ้น
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ทำกายให้เป็นวัด ทำใจให้เป็นพระ เจริญสติเข้าไปเยี่ยมพระอยู่บ่อยๆ ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ก็ล้วนแต่เป็นอาจารย์สอบอารมณ์เรา เรามีสติคอยตรวจสอบใจของเราอยู่ตลอดเวลา ไม่ต้องให้คนอื่นเขาสอบให้ ไม่ต้องให้คนอื่นเขานั่นให้
เรารู้จักวิธีการ เรารู้จักแนวทาง เรารู้จักการละกิเลส กิเลสก็ของเรา เราก็ละเอา สติไม่มี เราก็สร้างขึ้นมาให้มี กายวิเวกเป็นอย่างไร ใจวิเวกเป็นอย่างไร รู้ไม่ทันเราก็รู้จักดับ รู้จักหยุด
แต่ละวัน ใจของเรามีพรหมวิหาร มีความเมตตา มีความอ่อนน้อมถ่อมตน มีความเสียสละ มีความรับผิดชอบ เราต้องพยายามหมั่นวิเคราะห์ หมั่นสังเกต หมั่นสร้างให้มีให้เกิดขึ้นในกายในใจของเรา ถ้าเราไม่สร้างไม่ทำให้มีให้เกิดขึ้น มันก็จะไม่รู้ความเป็นจริงในชีวิตของเรา
ไม่ใช่ว่าฉันจะไปปฏิบัติธรรมที่โน่น ปฏิบัติธรรมที่นี่ ถ้าเราไม่รู้จักวิธีการ ไม่รู้จักแนวทาง ปฏิบัติไม่ถูกวิธี ก็ยากที่จะเข้าใจ
เพียงแค่การเจริญสติ ลักษณะของคำว่า สติรู้ตัวอยู่ปัจจุบัน เป็นลักษณะอย่างไร เราก็ต้องพยายามทำความเข้าใจ ความรู้สึกรับรู้ รับรู้กาย รับรู้การหายใจเข้า หายใจออก การเคลื่อนไหวการกระทำต่างๆ
อะไรที่จะเป็นประโยชน์ ประโยชน์ใกล้ ประโยชน์ไกล ประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน ประโยชน์สมมติ ประโยชน์วิมุตติ ประโยชน์ในโลกนี้ ประโยชน์ในโลกหน้า เอาโลกปัจจุบันนี้ให้ดี อนาคตก็จะออกมาดี
ไปที่ไหนก็ให้มีความกล้าหาญ มีความอาจหาญ มีความเด็ดขาดในตัวของเรา ก็จะได้ถึงฝั่งได้เร็วได้ไว ฝั่งคือความบริสุทธิ์ หรือว่านิพพาน นั่นคือความว่าง ความบริสุทธิ์ ใจที่ว่างจากขันธ์ 5 เป็นอย่างไร ใจที่ไม่เกิดเป็นอย่างไร ไม่ใช่ว่าปฏิบัติธรรมไม่รู้จักทำ เจริญสติไม่รู้จักเอาสติไปใช้ มันก็ได้แค่ฝึก ได้แค่ฝึก
ทุกเรื่องในชีวิต เราต้องแก้ไขเรา เราต้องหมั่นพร่ำสอนเรา ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นเขาพร่ำสอนเรา เราพร่ำสอนตัวเอง แก้ไขตัวเอง ปรับปรุงตัวเราเอง ไม่ต้องไปโทษคนอื่น โทษคนโน้นคนนี้ โทษตัวเราเองนั่นแหละ แก้ไขตัวเราเอง
ยิ่งอยู่ด้วยกันหลายคนหลายท่าน ก็ให้เพิ่มความสมัครสมานสามัคคี เพิ่มความเสียสละ ความอดทน มีอะไรก็ให้ช่วยกัน ช่วยกันทำ ยังสมมติของเราให้เกิดประโยชน์ ให้อยู่ดีมีความสุข ถ้าสมมติไม่เรียบร้อยไม่บริบูรณ์ การฝึกหัดปฏิบัติกายก็ยิ่งยากลำบาก ถ้ากายของเรายังขาดที่พักที่อาศัย ที่หลับที่นอน ที่อยู่ที่กิน ที่ถ่ายที่เยี่ยว ขาดปัจจัยในการดำรงชีวิต การฝึกหัดปฏิบัติ มันก็ไปได้ยาก ไปได้ลำบาก
อยู่ที่วัดของเราก็สมมติก็รู้สึกว่าจะเพียบพร้อม ไม่ได้ลำบากเท่าไหร่ เราก็ช่วยกันดูแล ช่วยกันแก้ไข ความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อย
ให้ดู ให้ช่วยกัน อย่าไปปล่อยปละละเลย ตั้งแต่ปากทางนู่นถึงก้นครัว มีอะไรเราก็ช่วยกัน แล้วก็ยังประโยชน์ อะไรที่จะเป็นประโยชน์เราก็ช่วยกัน ทั้งพระทั้งชี
พระเราชีเรามีโอกาส หรือว่าฆราวาสญาติโยมมีโอกาส ใครอยากจะไปร่วม ช่วยกันสร้างองค์หลวงปู่ใหญ่ที่ปางลีลา ไปช่วยกันก่ออิฐถือปูน ส่งปูนส่งอิฐช่วยกัน มายังประโยชน์สร้างองค์แทนพระพุทธองค์ สร้างองค์แทนพระพุทธองค์ปางสีหไสยาสน์ ก็ใหญ่อยู่ ความยาว 25 เมตร เดี๋ยวนี้กำลังเริ่มกันช่วยกัน
มีโอกาสก็ขอเชิญชวน ทั้งเหล่ามนุษย์ที่มีกายเนื้อ เหล่าเทวดาที่มีกายทิพย์ จงมาร่วมกัน มาอนุโมทนาสาธุด้วยกัน ฝากสมมติเอาไว้ในโลก ให้เป็นสมบัติของส่วนกลาง ให้เป็นสมบัติของส่วนรวม
พวกเรามีโอกาส โอกาสเปิด กาลเวลาเปิด สถานที่เปิด เรามาวางรากฐานบุญเอาไว้ ให้เป็นบุญกองใหญ่ในวันข้างหน้า จากกองน้อยๆ พวกเรามีโอกาสได้ดำเนินทำ ต่อไปในวันข้างหน้าก็จะเป็นบุญกองใหญ่มหึมา เราไปอยู่ที่ไหนก็จะไม่ได้ลำบาก อานิสงส์แห่งบุญก็จะเกื้อหนุนช่วยเหลือเกื้อหนุนเราทุกภพทุกชาติไป จนกว่าจะหลุดพ้น ดับความเกิด ละกิเลสได้หมดจดนั่นแหละ ถึงจะไม่ได้กลับมาเกิดกัน ถึงเกิดก็เกิดอยู่ในกองบุญกองกุศล ไม่ได้ลำบาก
ใครอยากจะมาร่วมก็มาร่วม ใครอยากจะมาช่วยก็มาช่วย ใครมีข้าวปลาอาหารอยากจะมาร่วมกันก็มา เปิดอยู่ตลอดเวลา มีโอกาสให้ให้ทำร่วมกัน พระเราชีเราก็ไปทำร่วมกัน ไปช่วยกัน อย่าคิดว่าไม่ทำ เราละความเกียจคร้าน สร้างความขยัน สร้างความรับผิดชอบให้มีให้เกิดขึ้น เป็นการขัดเกลากิเลส สร้างความสมัครสมานสามัคคี หมั่นพร่ำสอนตัวเราอยู่ตลอดเวลา สักวันหนึ่งเราก็คงจะเดินถึงจุดหมายปลายทางกัน
เอาล่ะวันนี้ก็ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อ ทำความเข้าใจให้รู้ทุกอิริยาบถ