PAGODA

  • Create an account
  • Forgot your username?
  • Forgot your password?
or

Connection

Your e-mail is required to ensure the proper functioning of the Website and its services and we make a commitment not to reveal it to third parties

  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ
PAGODA
  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ

เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก

เข้าสู่ระบบ

  • สมัครสมาชิก
  • ลืมชื่อผู้ใช้?
  • ลืมรหัสผ่าน?

Search

  • หน้าแรก
  • เสียง
  • พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
  • ตามความเป็นจริง22
ตามความเป็นจริง22 รูปภาพ 1
  • Title
    ตามความเป็นจริง22
  • เสียง
  • 11764 ตามความเป็นจริง22 /aj-sumran/22-2.html
    Click to subscribe
    • Share
    • Tweet
    • Email
    • Share
    • Share

ผู้ให้ธรรม
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
วันที่นำเข้าข้อมูล
วันจันทร์, 26 มิถุนายน 2566
ชุด
ตามความเป็นจริง
  • แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [ลองพูดคุยกับ AI ทาง Line]

  • ตามความเป็นจริง ลำดับที่ 22

    วันที่ 30 มีนาคม 2557

    ขอให้ญาติโยมเรา​ทุกคนทุกท่าน​จงเจริญสติ สร้างความรู้สึกให้ต่อเนื่องกัน​สักพักหนึ่งก็ยังดี ดีกว่าไม่ได้ทำ ฟังไปด้วยน้อมสำเหนียก ไม่ต้องพนมมือ​วางกายให้สบาย วางใจให้สบาย

    ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาว ๆ ลึก ๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาว ๆ สักสองสามเที่ยว กายของเรา​ก็รู้สึกว่าสบายขึ้นเยอะ ใจของเรา​ก็จะสงบตั้งมั่นขึ้น สัมผัสของลมหายใจที่กระทบปลายจมูกของเรา มีความรู้สึกรับรู้อยู่ เวลาหายใจเข้าหายใจออก​ นั่นแหละ ในหลักธรรม ท่านเรียกว่า 'สติรู้กาย'​ ถ้าเรารู้ให้ต่อเนื่องเขาเรียกว่า 'สัมปชัญญะ'​

    ทำอย่างไรเราถึงจะทำให้ต่อเนื่อง ก็ขึ้นอยู่กับความเพียรของเรา ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา​เรารู้กายได้ตลอดเวลา ลึกลงไปเราก็เห็นการเกิดของใจ รู้ความปกติของใจ รู้การเกิดการดับของความคิด นั่นแหละ เราก็จะเข้าใจในเรื่องชีวิตของเราเข้าใจในคำสอนของพระพุทธองค์ ว่าพระพุทธเจ้าท่านค้นพบอะไร แล้วเอามาเปิดเผย

    ท่านค้นพบเรื่องหลักความจริงของชีวิต  ท่านสอนเรื่องอัตตา​-อนัตตา​ ​สมมติ​-วิมุตติ ลักษณะของอัตตาเป็นอย่างไรอนัตตาเป็นอย่างไร กายของเราประกอบขึ้นมาด้วยอะไร ทวารทั้งหกทำหน้าที่อย่างไร ท่านแจงเอาไว้หมดเลย

    แต่เวลานี้​ กำลังสติที่จะเข้าไปทำความเข้าใจของพวกเรามีอยู่ แต่มีน้อย ฐานบุญของใจนั้น​มีกันเต็มเปี่ยมกันทุกคน แต่ก็ยังหลงอยู่ หลงเกิดอยู่ เราต้องมาหมั่นอบรมใจของเรา แก้ไขใจของเรา ด้วยการเจริญสติเข้าไปควบคุมใจ จนกว่าใจจะคลายออก ซึ่งเรียกว่า 'แยกรูปแยกนาม'​

    ถ้าแยกได้เมื่อไหร่ นั่นแหละ ความรู้แจ้งเห็นจริง สัมมาทิฏฐิถึงจะเปิดทางให้ การทำความเข้าใจ ก็ยิ่งเพิ่มทำความเพียรเป็นทวีคูณอีก จนใจของเราอยู่ในโอวาทของสติปัญญาของเรา มองเห็นความเป็นจริงได้นั่นแหละ

    การได้ยิน ได้ฟัง ได้อ่าน ทุกคนมากันเต็มเปี่ยม แต่การลงมือ รู้ให้แจ้งทุกเรื่อง ตรงนี้แหละสำคัญ ต้องพยายามนะ อย่าพากันปล่อยวันเวลาทิ้ง จงขวนขวายสร้างบุญ​ให้มี​ให้เกิดขึ้น​​ที่กายของเรา จนกว่ากายของเราจะแตกจะดับ อย่าไปผัดวันประกันพรุ่ง ทำได้เท่าไหร่ก็เอา

    สร้างความรู้สึกรับรู้​ การหายใจให้เชื่อมโยง​ให้ต่อเนื่องกันซักระยะนะ

    พากันไหว้พระพร้อม ๆ กัน ค่อยพากันไปศึกษา​ทำความเข้าใจต่อกันเอา อันนี้เพียงแค่ย้ำ แค่เตือน แค่เล่าให้ฟัง

logo

  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • จดหมายข่าว
  • Privacy Policy
  • Terms of Service