แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเรา ให้ชัดเจน ตั้งแต่ตื่นขึ้น ตั้งแต่ยังไม่ได้ลุกจากที่
ความรู้ตัวของเรา รู้กายของเรา มีแล้วหรือยัง ถ้ายังก็เริ่ม อย่าพากันปล่อยวันเวลาทิ้ง เสียดายเวลา เสียดายโอกาส โอกาสเปิดตลอดเวลา ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ
เพียงแค่การหายใจเข้า หายใจออก มีความรู้สึกให้ต่อเนื่อง ตรงนี้พวกเราก็พากันทำกันยากอยู่ กำลังสติก็เลยมีไม่เพียงพอ ที่จะไปควบคุมใจ ดูแลใจ อบรมใจ ส่วนมากก็มีตั้งแต่ใจนี่แหละ คิดปรุงแต่ง เกิดไปส่งออกไปภายนอก บางทีก็รวมกับขันธ์ 5 เราอาจจะรู้ตั้งแต่ชื่อ ว่าใจ ว่าขันธ์ 5 ว่าการแยกรูปแยกนามเป็นอย่างไร
กิเลสหยาบ กิเลสละเอียดทเป็นอย่างไร เราได้ยินชื่อกันบ่อยๆ แต่เรายังไม่เห็น เห็นอาการ การเกิดการดับ การแยกการคลาย ซึ่งมีอยู่ในกายของเรา พยายาม
ความสงบเล็กๆ น้อยๆ ก็เป็นอานิสงส์อันยิ่งใหญ่ จนกว่าจะเดินปัญญาแยกได้แยะได้ ทำความเข้าใจได้ รักษาความสงบ ความสะอาด ความบริสุทธิ์ภายในใจของเราได้ นั่นแหละถึงจะเป็นเลิศเลยทีเดียว
ขอให้เรามีความขยันหมั่นเพียร งานสมมติภายนอกเราก็... อะไรที่พอจะเป็นประโยชน์ เป็นสิริมงคลเราก็ทำ ประโยชน์มาก ประโยชน์น้อย ประโยชน์สมมติเราก็ทำ ส่วนมากก็พากันขยันหมั่นเพียร อย่าพากันเกียจคร้าน ถ้าความเกียจคร้านเข้าครอบงำ อยู่ที่ไหนก็ไม่ดี หนักตัวเอง หนักคนอื่น หนักสถานที่ เราแบกความหนักโดยไม่รู้ตัว โดยไม่รู้เลยว่าเรา เรายึด เราติด เราหนัก เราทุกข์ แต่ก็ไม่รู้
คำว่า 'ทุกข์' ในหลักธรรมก็คือ ความไม่เที่ยง อะไรไม่เที่ยง กายไม่เที่ยง วิญญาณไม่เที่ยง ทำไมถึงว่าวิญญาณไม่เที่ยง ก็เพราะว่าวิญญาณมันเกิดๆ ดับๆ เขาถึงว่าไม่เที่ยง ถ้าวิญญาณเที่ยง หรือจิตเที่ยง นิพพานก็เที่ยง คือการเกิดไม่มี ความสืบต่อ ความต่อเนื่องไม่มี เขาถึงว่าจิตเที่ยง นิพพานเที่ยง
ถ้าจิตไม่เที่ยง คือความคิดของเรามันเกิดอยู่ตลอดเวลา เดี๋ยวก็วิ่งไปโน่น เดี๋ยวก็วิ่งไปนี่ เดี๋ยวก็เป็นทาสกิเลส แล้วก็เป็นทาสของขันธ์ 5 โดยไม่รู้ตัว นอกจากบุคคลที่เจริญสติไปเห็นการแยก การคลาย การตามดูถึงจะรู้เรื่อง ว่าอะไรเป็นอะไร ที่ท่านว่าเป็นกองเป็นขันธ์ ซึ่งมีอยู่ในกายของเรา
พยายามฝึกฝนเอา ผิดพลาดก็แก้ไขใหม่ ล้มแล้วลุกขึ้นมาแก้ไขใหม่ ส่วนการทำบุญให้ทาน ศรัทธานั้น ทุกคนก็มีกันเต็มเปี่ยม ตรงนี้แหละ อย่าไปทิ้งในการทำบุญ ในการให้ทาน เป็นเข้าพกเข้าห่อติดตามตัวเราไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าเราจะตัดภพตัดชาติได้
ภพชาติมีจริง ขณะนี้เรามาอยู่ในภพของมนุษย์ ในชาติของมนุษย์ ถ้ากายเนื้อแตกดับแล้วก็ ถ้าอานิสงส์ผลบุญกุศลของเราเยอะก็ไปสู่สุคติ ถ้าดับละกิเลสได้ก็ไม่ต้องกลับมาเกิด เราอยู่ในภพมนุษย์ ภพสัตว์เดรัจฉาน เราก็มองเห็นด้วยตาเนื้อของเรา ภพอบายภูมิต่างๆ เราพยายามละอบายภูมิ คือในทางอกุศล เจริญกุศลอย่างน้อยๆ ก็ให้อยู่ในสวรรค์สมบัติ มนุษย์สมบัติ จนกว่าจะเข้าสู่นิพพาน คือการเกิดไม่มี ไม่ต้องกลับมาทุกข์อีก ก็ต้องพยายามกัน
เอาล่ะวันนี้ก็ขอเจริญธรรมใเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กันพากันไปสานต่อทำความเข้าใจกันเอา