ตามความเป็นจริง ลำดับที่ 14

วันที่ 19 มีนาคม 2557

ขอให้ญาติโยมเราทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้ สัมผัสของลมหายใจของเราให้ต่อเนื่องให้ชัดเจน ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมาเราได้สร้างความรู้ตัวแล้วหรือยัง เราได้วิเคราะห์กายของเรา วิเคราะห์ใจของเราแล้วหรือยัง ถ้ายังก็เริ่มเสียนะ

อย่าไปปล่อยโอกาสทิ้ง อย่าไปปล่อยเวลาทิ้ง นั่งตามสบายวางกายให้สบาย ไม่ต้องพนมมือ

อันนี้เป็นเรื่องของเราทุกคนที่จะต้องพิจารณาตัวเรา หมั่นพร่ำสอนตัวเรา เจริญสติจนกลายเป็นมหาสติ กลายเป็นมหาปัญญา ไปพร่ำสอนใจไม่ให้ใจเกิดเป็นทาสของกิเลส ไม่ให้ใจส่งออกไปภายนอก รู้จักอบรมใจ รู้จักลักษณะของใจ รู้จักลักษณะของความว่าง

รู้จักลักษณะของความปกติ ความสงบ ใจที่ไม่มีกิเลสเป็นอย่างไร ใจที่ปกติเป็นอย่างไร ใจที่วางว่างจากความนึกคิดปรุงแต่งเป็นอย่างไร ใจที่คลายจากความยึดมั่นถือมั่นเป็นอย่างไร

เราต้องศึกษาค้นคว้า ส่วนใจนั้นมีอานิสงส์มาก่อน มีศรัทธามาก่อน ฝักใฝ่ในการทำบุญฝักใฝ่ในการให้ทาน แต่การเกิดของเขามีอยู่ เรามาดับความเกิดมาคลายความหลง ก่อนที่จะถึงตรงจุดนี้ได้ เราก็ต้องมาเจริญสติให้ต่อเนื่อง ให้รู้เห็นตามความเป็นจริง ชี้เหตุชี้ผลให้ใจมองเห็นความเป็นจริงได้นั่นแหละ เขาถึงจะมองเห็นทางทะลุปรุโปร่ง ว่าจะดำเนินชีวิตของเราไปยังไงมายังไง

สติปัญญาของเราต้องเร็วไวแหลมคมทุกอิริยาบถ ยืนเดินนั่งนอน กินอยู่ขับถ่าย มีปัญญาต้องเร็วไวแหลมคม ไม่ใช่เอาปัญญาเฉโก ปัญญากิเลส ต้องเป็นปัญญารู้เห็นตามความเป็นจริง ใจเกิดกิเลสเมื่อไหร่ เราก็พยายามละพยายามดับ ไปทำเอา

ถ้าเราไม่ฝึกตัวเรา ไม่มีใครจะฝึกตัวเราให้ได้เลย อย่าไปเที่ยวให้คนโน้นเขาฝึกให้ คนนี้เขาฝึกให้ ถ้าไปเที่ยวให้คนอื่นเขาฝึกให้ไม่มีประโยชน์ เดินไม่ถึงจุดหมาย เราต้องพยายามเคี่ยวเข็ญตัวเรา

ขณะนี้เรามีความขยันหมั่นเพียรเพียงพอหรือไม่ เรามีความเสียสละเพียงพอหรือเปล่า เรามีความเสียสละ มีขันติมีความอดทน รู้จักสร้างตบะสร้างบารมี อะไรขาดตกบกพร่องรีบแก้ไข ไม่ว่าทางสมมติ ไม่ว่าทางด้านจิตใจ ไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถไหน อยู่ในสถานที่ใด เราก็ต้องพยายามให้รู้ใจ แก้ใจ ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด อะไรขาดตกบกพร่อง เราก็รีบทำ อย่างนี้แหละจะเป็นบุคคลที่เข้าถึงฝั่งได้เร็วได้ไว ไม่ไกลเกินเอื้อม อยู่ที่กายที่ใจของเรา

สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจให้ชัดเจนนะ

พากันไหว้พระพร้อม ๆ กัน ค่อยไปศึกษาต่อเอา