แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของตัวเราให้ชัดเจน ฟังไปด้วยน้อมสำเหนียกไปด้วย ทำวันละนิดละหน่อยก็ยังดี ดีกว่าไม่ได้ทำ
บุคคลมีความเพียรก็ทำได้ตลอด ยิ่งดีใหญ่ เอาสติปัญญาของเราไปใช้ ไปอบรมใจของเราให้รู้ให้ชัดเจน ส่วนมากความคิด คิดเราก็รู้ ทำเราก็รู้ แต่ความเกิด ความเกิด ความยึดมั่นถือมั่น ตรงนั้นเราไม่รู้ เรารู้อยู่แต่เราไม่เห็น คิดก็รู้ ทำก็รู้ มันรู้อยู่ในระดับของสมมติ แต่ในระดับทางด้านจิตใจแล้วเรายังไม่เห็น เพราะว่าความหลงยังเข้าครอบงำอยู่ ความเกิดยังครอบงำอยู่
เพียงแค่การเจริญสติ สร้างความรู้ตัวให้ต่อเนื่อง ตรงนี้ก็ยังลำบากอยู่ ส่วนมากก็ปล่อยปละละเลย ไม่ค่อยจะสนใจกันเท่าไหร่ ทั้งที่เราก็หายใจอยู่ตั้งแต่เกิดนู่นแหละ
สร้างความรู้สึกให้ชัดเจน ถ้าความรู้สึกไม่ชัดเจน เราลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แรงๆ สักหน่อยนึง อย่าไปบังคับ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ สัมผัสของลมหายใจที่กระทบปลายจมูกของเรา ความรู้สึกรับรู้ นั่นแหละที่ท่านเรียกว่า 'สติ' ความรู้ตัว สติรู้กาย
หายใจเข้า ก็มีความรู้สึกรับรู้อยู่ หายใจออก ก็มีความรู้สึกรับรู้อยู่ ถ้าเราหายใจให้ต่อเนื่อง หายใจเข้าหายใจออกๆ มีความรู้สึกที่ต่อเนื่อง ภาษาธรรมท่านเรียกว่า 'สัมปชัญญะ' มีความรู้ตัวทั่วพร้อม
อันนี้เรารู้กาย เป็นส่วนหนึ่งของการรู้กาย รู้กายแล้วเราก็จะรู้ลึกลงไปอีก รู้ความเกิด เห็นอาการเกิดของใจ เห็นอาการเกิดของขันธ์ 5 หรือว่าความคิดที่เราไม่ตั้งใจ มันจะค่อยแยกแยะเข้าไปเรื่อยๆ แยกแยะจำแนกแจกแจงเข้าไปเรื่อยๆ เห็นใจกับขันธ์ 5 กับความคิดแยกออกจากกัน ใจก็จะหงายขึ้นมา นั่นแหละที่เรียกว่า 'สัมมาทิฐิ' ความเห็นถูก เห็นถูกในหลักธรรม
แต่เราก็เห็นถูกอยู่ในระดับของสมมติ หมั่นทำบุญ หมั่นให้ทานในระดับสมมติ บารมีทางสมมติเราก็พากันสร้าง พากันทำกันมาดี มีความขยันหมั่นเพียร มีความรับผิดชอบ ยังฐานะความเป็นอยู่สมมติของตัวเราเอง ให้อยู่ดีมีความสุขอยู่ในระดับหนึ่ง เราก็พยายามขัดเกลา
การเจริญสติ ก็เพื่อที่จะเข้าไปชี้เหตุชี้ผล เห็นเหตุ เห็นผล ทุกอย่างก็ล้วนแต่มีเหตุมีผล เหตุผลทางสมมติ ความจริงทางสมมติ เหตุผลทางวิมุตติ ความจริงทางด้านจิตวิญญาณ ซึ่งมีอยู่ในกายของเรา
เราพยายามอย่าพากันผัดวันประกันพรุ่ง อย่าพากันปล่อยปละละเลย อย่าพากันปิดกั้นตัวเราเอง ว่าไม่มีโอกาส ทุกคนมีโอกาสเหมือนกันหมด ทุกคนมีเวลาเท่ากันหมด แต่ความขยันหมั่นเพียร การขัดเกลากิเลส อันนี้เป็นของแต่ละบุคคล ก็ต้องพยายามกัน
ส่วนการทำบุญให้ทาน การละความโลภ ละความโกรธ ตรงนี้ก็พอมีกันอยู่ แต่การคลายความหลง การดับความเกิดจริงๆ อันนี้ก็ยังไม่ค่อยจะได้มีกันเท่าไหร่ ก็ต้องพยายามกัน
เอาล่ะวันนี้ก็ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกัน