แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ตามความเป็นจริง ลำดับที่ 6
วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2557
ขอให้ญาติโยมเราทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ อานาปานสติให้ต่อเนื่องให้เชื่อมโยงกันเสียก่อน ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาว ๆ ลึก ๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาว ๆ อย่าไปบังคับลมหายใจนะ อย่าไปบังคับลมหายใจ การสูดลมหายใจยาว ๆ ลึก ๆ นี่กายของเราก็จะสงบตั้งมั่นขึ้น มีความรู้สึกว่าสบายขึ้นเยอะ
สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้ากระทบปลายจมูกของเรา ไม่ต้องตามรู้ถึงในท้องก็ได้ เป็นแค่รู้อยู่ที่ปลายประตูทวาร หรือปลายจมูกของเรา เหมือนกับรถจะวิ่งเข้าประตูคันไหน นายประตูทวารก็รู้ เวลารถจะออก นายประตูทวารก็รู้ เรารู้ มีความรู้สึกรับรู้อยู่ที่ปลายจมูกของเรา อันนี้เขาเรียกว่า ‘สติรู้กาย’ มีความรู้กาย
เวลาหายใจเข้า หายใจออก เรารู้ให้ต่อเนื่อง เขาเรียกว่า ‘สัมปชัญญะ’ มีความรู้ตัวทั่วพร้อม พยายามฝึกให้เกิดความเคยชิน ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ตั้งแต่ยังไม่ลุกจากที่ มีความคิดเก่าที่เกิดจากตัวใจตัวขันธ์ห้าของเรา ตัวนั้นแหละ เขาหลงมานานเขาเกิดมานาน เราก็เลยเอาไปยึดมั่นเอาความคิดตัวนั้นว่าเป็นความคิดของเราจริง ๆ ก็เป็นความคิดของเราจริง ๆ นั่นแหละในทางสมมติ แต่ในหลักธรรม พระพุทธองค์ท่านให้มาสร้างผู้รู้ตัวใหม่ ไปฝึกอบรมใจของเรา หมั่นสังเกตหมั่นวิเคราะห์ใจของเรา จนกว่าใจของเราจะคลายออกจากความคิดคลายออกจากขันธ์ห้า ซึ่งเรียกว่า ‘แยกรูปแยกนาม’ หรือว่า ‘หงายขึ้นมา’ ไม่ให้สมมติเข้าครอบงำ
ถ้าใจของเราหงาย ใจของเราก็จะเป็นวิมุตติ ใจของเราก็จะว่าง กายของเราก็จะเบา แต่การละกิเลสก็ต้องตามมาอีกทุกเรื่อง การทำความเข้าใจด้วยสติ ด้วยปัญญาที่เราสร้างขึ้นมานี่ ต้องทุกเรื่องทุกอย่าง การไปการมา การลุกการก้าวการเดิน การคิด รู้จักอบรมกาย อบรมวาจา จัดระบบระเบียบของกายของวาจา แล้วก็ของใจ
ใจนี้ปรับสภาพให้เขาเป็นธาตุรู้ แต่ไม่ให้เกิด ไม่ให้เกิดความยินดียินร้าย หรือไม่ให้เกิดกิเลส ไม่ให้ส่งออกไปภายนอก ให้เขารับรู้ ผิดถูกชั่วดีอย่างไร สติปัญญาไปแก้ไข แต่เวลานี้เราต้องมาแก้ใจของเราให้ได้เสียก่อน ให้ใจของเราคลายจากความหลง คลายจากขันธ์ห้า ดับความเกิดของใจ ละกิเลสของใจให้ได้ ได้บ้างไม่ได้บ้างก็พยายามทำ ได้บ้างไม่ได้บ้างก็พยายามทำ ระลึกได้เมื่อไหร่ เราก็รีบดู
ในหลักธรรม ท่านต้องให้ขยันหมั่นเพียรเป็นเลิศ ละกิเลสออกเป็นเลิศ จนบริหารด้วยปัญญาเป็นเลิศ ถึงจะอยู่กับสมมติอย่างมีความสงบความสุข สนุกสร้างบุญ
อะไรที่จะเป็นบุญ เราพยายามรีบทำ ทำบุญให้เกิดประโยชน์ ทำบุญให้กับตัวเรา ให้กับพ่อกับแม่ กับเพื่อนเกิดแก่เจ็บตายด้วยกัน ให้กับโลก มีโอกาสทำให้รีบตักตวง ทำด้วยสติ ทำด้วยปัญญายิ่งสนุกทำ มีโอกาสก็ให้รีบทำ หลวงพ่อก็พาทำอยู่ตลอดเวลาเท่าที่โอกาสอำนวยให้
เวลานี้ทั้งทำอยู่ที่วัด ทั้งอยู่ที่โคราช ปักธงชัย หลวงพ่อก็พาญาติโยมไปสร้างองค์หลวงปู่ใหญ่ เดี๋ยวนี้ก็ขึ้นได้เยอะ ขึ้นได้ประมาณเกือบจะถึงคอแล้วแหละ วันที่ 3 ถึงวันที่ 13 พฤษภาคม ก็จะได้ทำการฉลองสมโภชใหญ่ พระภิกษุสงฆ์พระคุณเจ้า ก็คงจะไปร่วมกันก็ร่วมประมาณเกือบสี่ห้าร้อยรูป ตั้งแต่วันที่ 3 ถึงวันที่ 13 มีโอกาสก็ขอเชิญทุกคนไปร่วมฉลองสมโภชกัน อยู่ที่ปักธงชัย สวยงามมากทีเดียว อยู่ที่ลานใหญ่บนหลังเขา
ก็ขอขอบคุณเหล่ามนุษย์ทั้งหลาย เหล่าเทวดาทั้งหลาย ที่มาช่วยกัน ไม่ได้ลำบาก วันงานก่อนที่จะทำ หรือว่าขณะที่ทำ ญาติโยมทั้งใกล้ ทั้งไกลก็มาร่วมกันเท วันละร้อย สองร้อย วันละสามร้อยกว่าคนก็มี แม่ทัพน้อยแม่ทัพใหญ่ ท่านก็ส่งบริวารไปช่วยอยู่ตลอดเวลา นี่แหละอำนาจแห่งบุญ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เหล่ามนุษย์ เหล่าเทวดาทั้งหลาย ย่อมจะหลั่งไหลไปช่วยกัน
หลวงพ่อก็ขอขอบคุณทุกคน กับวิญญาณที่ไม่มีกายเนื้อ กับวิญญาณที่มีกายเนื้อ กับทุกภพทุกภูมิ มาอนุโมทนาสาธุด้วยกัน เราไปจุดประกายให้เป็นแหล่งบุญจากน้อย ๆ ก็จะเป็นแหล่งบุญอันใหญ่ในวันข้างหน้า ไม่จบไม่สิ้น จนกว่าจะหมดกิเลส จนกว่าจะไม่ต้องกลับมาเกิดกัน ต้องพยายามกันนะ
สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจให้ชัดเจน ให้ต่อเนื่องกันสักพักหนึ่งก็ยังดี ดีกว่าไม่ได้ทำ
พากันไหว้พระพร้อม ๆ กัน ค่อยไปทำ ไปสร้างสานต่อทุกอิริยาบถ